วันที่ 18 ส.ค.66 ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี การเสนอญัตติทบทวนมติรัฐสภาในการเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรีครั้งที่สอง ว่า ยังยืนยันเสนอเหมือนเดิม เพราะคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญตอบสั้นๆคือไม่วินิจฉัย ให้เหตุผลทางเทคนิค จริงเนื้อหาสาระไม่ได้มีการพิจารณาเลย ดังนั้นสภายังสามารถทบทวนได้ ซึ่งวันนี้ตนก็จะนำเสนอต่อประธานสภาว่าเราสามารถกำหนดเวลาได้ว่าในญัตติที่จะทบทวนไม่มีความจำเป็นที่จะใช้เวลายืดยาว เพื่อให้โอกาสในการพิจารณาสิ่งที่ตัวเองทำพลาดไป คงไม่ต้องลงรายละเอียดว่าผิดพลาดอะไรบ้าง ตนคิดว่ามีความประจักษ์ชัดเจนอยู่แล้ว ส่วนทิศทางโหวตจะชนะหรือไม่นั้น หวังอยากให้ชนะ แต่สุดคงไม่ใช่เราเป็นคนตัดสิน คงดูกันหน้างาน แต่พูดกันตรงไปตรงมาอย่าเผาบ้านไล่หนู
"รังสิมันต์ โรม" ยัน เสนอทบทวนมติสภาโหวต"พิธา"เป็นนายกฯ ซ้ำ ขอ"อย่าเผาบ้านไล่หนู" ชี้จะเป็นฝ่ายค้านได้ต้องมีรัฐบาลก่อน ส่วนจะร่วมงาน พท.ได้หรือไม่ต้องดูผลประโยชน์ ปท.เป็นหลัก หวัง จัดตั้งรบ.ไม่ถึงจุดที่"บิ๊กป้อม" นั่งนายกฯ ย้ำจุดยืน"มีลุงไม่มีเรา"
ข่าวที่น่าสนใจ
ตนคิดว่าถ้าเราทำลายหลักการกันไปสุดท้ายเกิดเป็นบรรทัดฐานจริงๆจะเป็นเรื่องใหญ่ ไม่ใช่แค่เรื่องตำแหน่งนายกฯ แต่มีอีกหลายอย่างที่เกี่ยวข้อง ถ้าเล่นงานนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ไม่ให้เป็นนายกฯ ก็ทำสำเร็จไปแล้ว แต่ทำไมถึงทำลายหลักการ ทำลายรัฐธรรมนูญ ซึ่งหากโหวตไม่ผ่านครั้งนี้ ก็ต้องยอมรับว่าสมัยประชุมนี้ มีบรรทัดฐานเป็นแบบนี้ เดี๋ยวในอนาคตเราว่ากันใหม่
เมื่อถามว่า พรรคพร้อมจะไปเป็นฝ่ายค้านเลยหรือไม่ หากกระบวนการโหวตนายกฯสำเร็จ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ฝ่ายค้านจะเกิดขึ้นได้ ต้องมีฝ่ายรัฐบาลก่อน ซึ่งต้องรอดูในวันที่ 22 สิงหาคม ว่าจะเกิดขึ้นหรือไม่
เมื่อถามถึงกรณีพรรคเพื่อไทยจับมือกับพรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคก้าวไกลจะมีมติในการโหวตอย่างไร นายรังสิมันต์ ระบุว่า เรื่องนี้พรรคก้าวไกล ยังไม่ได้มีการประชุม แต่จะมีการนัดประชุม ย้ำจุดยืนพรรคยังเหมือนเดิม จะไม่โหวตให้แคนดิเดตนายกฯ จากพรรคเพื่อไทย ไม่ว่านายเศรษฐา หรือใครก็ตาม เพราะยืนยันไปหลายครั้งว่า “มีลุง ไม่มีเรา” ส่วนในวันโหวตจะถึงขั้นวอร์คเอ้าท์ หรือไม่ ยังไม่ได้คิด เบื้องต้นต้องทำหน้าที่การประชุม และอยู่ในกลไกปกติ แต่อย่างไรคงต้องประชุมในพรรคอีกครั้ง
เมื่อถามถึงการพูดคุยถึงตำแหน่งรองประธานสภา ของนายปดิพัทธ์ สันติภาดา ด้วยหรือไม่ นายรังสิมันต์ บอกว่า การประชุมพรรคยังไม่ได้พูดคุยตำแหน่งรองประธานสภา ก็ยังไม่แน่ใจว่าทำไมถึงต้องมีการพูดคุยเรื่องตำแหน่งรองประธาน อย่างไรก็ต้องมีรัฐบาลก่อน การที่จะต้องตัดสินใจในเวลานี้ ไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมที่สุด ส่วนความรู้สึกของ สส. ในพรรคตอนนี้ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ที่สัมผัสกับประชาชน เราก็ได้รับความรู้สึกจากประชาชนว่ามีผิดหวังเยอะ และเราก็รู้สึกแบบเดียวกัน ว่าประเทศเรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร ทำไมกลับมาสู่จุดเดิม เพิ่มเติมคือพรรคการเมืองซึ่งน่าจะเป็นพันธมิตรกับเรา ต้องยอมรับว่าเราก็ไม่อยากเห็นภาพแบบนี้ นำมาซึ่งความผิดหวัง แต่ไม่เป็นไรเราต้องมูฟออน เดินหน้าต่อ เราต้องทำหน้าที่อย่างดีที่สุดอย่างตรงไปตรงมาให้ได้
เมื่อถามว่าในอนาคตจะสามารถทำงานร่วมกันกับพรรคเพื่อไทยได้หรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า คงเป็นเรื่องของกระบวนการในสภา เพราะกฎหมายที่เสนอไปหลายฉบับ ก็ต้องขอเสียงจากทุกฝ่าย ต้องว่ากันเป็นเรื่อง ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ และประชาชนทุกคน คงขอเสียงสนับสนุนปกติอยู่แล้ว
ส่วนกรณีที่นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เคยหาเสียงก่อนการเลือกตั้งว่า หากพรรคเพื่อไทยไปรวมกับพรรค 2 ลุง จะลาออกจากหัวหน้าพรรคทันที นายรังสิมันต์โรม กล่าวว่า พรรคก้าวไกลไม่ต้องทำบทบาทนั้นก็ได้ ให้เป็นเรื่องภายในของพรรคเพื่อไทย เป็นเรื่องของประชาชนที่สนับสนุนพรรค ทางพรรคก้าวไกลเราก็จะทำหน้าที่ของเรา ถ้ามีความชัดเจนว่าเป็นฝ่ายค้านเราก็จะทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้าน ถ้าสุดท้ายนำไปสู่การจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ ก็ต้องรอดูก่อนว่าจะเป็นอย่างไร และหวังว่าจะไม่ไปถึงจุดที่พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะเป็นนายกฯ ไม่น่าเชื่อ เราฝันตั้งรัฐบาลประชาชน แต่กลายเป็นรัฐบาลลุง เป็นเรื่องยากที่สังคมจะรับไหว
อย่างไรก็ตาม เมื่อถามถึงการประเมิน สถานการณ์การเมืองหลังจัดตั้งรัฐบาล จะมีการชุมนุมเกิดขึ้นหรือไม่ นายรังสิมันต์ ระบุว่า ตนเองตอบไม่ได้ เพราะยังไม่รู้ว่ารัฐบาลจะหน้าตาเป็นอย่างไร อาจจะต้องดูอีกครั้งว่าพรรคไหนได้กระทรวงอะไรบ้าง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
-