สืบเนื่องจากกรณีที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง เปิดแถลงเมื่อวันที่ 15 ส.ค.66 เกี่ยวกับการซื้อขายที่ดินย่านทองหล่อ เพื่อนำไปสร้างเป็นคอนโดหรู โดยใช้กระบวนการปั่น (ที่ดิน) บวม (เงิน) และตัดตอน
ทั้งนี้ นายชูวิทย์ นำหลักฐานซึ่งอ้างว่า น.ส.พินิช คำยศ อายุ 38 ปี มีอาชีพเป็นเพียงแม่บ้าน แต่กลับมีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นบริษัทแห่งหนึ่ง (บริษัท เอ็น แอนด์ เอ็น แอสเซ็ท จำกัด) ถึง 99.99 เปอร์เซ็นต์ แถมยังกู้เงินจาก บริษัท อาณาวรรธน์ จำกัด ซึ่งมีชื่อของ นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย เป็นหนึ่งในกรรมการของบริษัท จำนวน 1,000 ล้านบาท เพื่อนำเงินไปลดจำนองที่ดิน 465 ล้านบาท รวมทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท ซึ่งนำไปจำนองกับธนาคารแลนด์แอนด์เฮ้าส์ ส่งผลให้ นายชูวิทย์ ตั้งข้อสังเกตว่า แม่บ้านคนดังกล่าวเป็นนอมินีของ นายเศรษฐา ใช่หรือไม่ และการกระทำดังกล่าวเป็นพฤติกรรมอำพรางหรือไม่ เพราะกรณีนี้มีเงินส่วนต่างจากการซื้อขายที่ดินสูงถึง 435 ล้านบาท
เวลาต่อมา น.ส.พินิจ ได้นำหลักฐานเข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.พัสกร ช่างถม รองสารวัตรสอบสวน สภ.เชียงยืน จ.มหาสารคาม เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ว่าไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่ นายชูวิทย์ ออกมาแฉแต่อย่างใด