ภายหลังจากที่ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ในรายการ กรรมกรข่าว ของนายสรยุทธ์ สุทัศนจินดา ถึงการประกาศยุติบทบาทจากตำแหน่งผอ.ครอบครัวเพื่อไทย ว่า ถึงเวลาที่ต้องบอกกับผู้คนว่าต้องยุติบทบาท ผอ.ครอบครัวเพื่อไทยแล้ว ขายข้าวแกง ไม่ไปยุ่งเกี่ยวอีก จะใช้คำว่าลาออกก็ไม่ได้อยู่ในโครงสร้าง จึงใช้คำว่ายุติบทบาท ตนได้บอกกับผู้ใหญ่ในพรรคตั้งแต่วันที่ 3 ส.ค. เมื่อสถานการณ์อาจจะมีแนวโน้มว่ามีการจับมือกันของพรรคการเมืองบางพรรคที่จะมาจัดตั้งรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ยืนยันไม่ได้โกรธเคือง หรือไม่มีอะไรขัดข้องหมองใจกัน แต่ได้บอกผู้ใหญ่ไปว่าถ้าถึงจุดนั้นตนก็อยู่ในพรรคไม่ได้
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า วันที่ 12 ส.ค. ได้ติดต่อกับนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯพรรคเพื่อไทยว่า ตนคงอยู่ในพรรคหรือในกระบวนการไม่ได้ บอกน.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกฯพรรคเพื่อไทย และผู้ใหญ่ทุกคนในพรรค รวมถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯด้วย เพียงแต่ว่ารอเวลาให้พรรคการเมืองที่ตนรักให้บุคคลการเมืองที่ตนรัก เดินมาถึงจุดที่ไม่ได้กำลังยากลำบากนัก
“ลำบากนะพรรคเพื่อไทยที่เป็นอยู่ แต่อย่างน้อยที่สุดเดินไปสู่การโหวตนายกฯ ซึ่งผมถามคนสำคัญในพรรคได้รับการยืนยันว่าคุณเศรษฐาผ่านการโหวต ได้รับการโหวตเป็นนายกฯ แน่ๆ คุณเศรษฐาปลอดภัยแล้ว” นายณัฐวุฒิ กล่าว
นอกจากนี้ นายณัฐวุฒิ กล่าวถึงการเดินทางกลับประเทศของนายทักษิณด้วยว่า การกลับบ้านของนายทักษิณว่า ท่านตัดสินใจแล้ว ที่จริงเป็นคนละเรื่องกันกับการจัดตั้งรัฐบาลแต่มาลงเอาวันเดียวกัน ก็เป็นสถานการณ์ที่กำลังพอดี ตนไม่เคยเดินออกจากใครในวันที่เขาลำบาก ตนไม่เคยทำ รอจนกระทั่งทุกอย่างเดินไปข้างหน้าตนก็ส่งตรงนี้