ภายหลังจากที่ ทนายเกิดผล แก้วเกิด ทนายความ ได้ออกมาโพสต์ภาพและข้อความที่มีลักษณะเป็นนัยยะ จากกรณีคลิปผกก.โจ้ รีดเงิน คลุมถุงฆ่าผู้ต้องหาคดียาเสพติดผ่านทางเฟสบุคในบัญชีชื่อทนายเกิดผล แก้วเกิด โดยโพสต์ดังกล่าวระบุว่า “ผู้ต้องหาถูกรีดสองล้าน ผกก.ถูกทนายรีดยี่สิบล้านแลกคลิปจริงหรือไม่ !?”
อีกทั้ง ในวันนี้ ยังพบว่ามีกระแสข่าวที่ระบุว่า ทนายเกิดผล มีหลักฐานชิ้นสำคัญ เป็นคลิปการเจรจาต่อรองผลประโยชน์แลกคลิป ผกก.โจ้ รีดเงิน คลุมถุงฆ่าผู้ต้องหาคดียาเสพติด ระหว่างทนายเดชา กับ ผกก.โจ้ ทำให้ทีมข่าวท็อปนิวส์ได้ตรวจสอบหาข้อเท็จจริง โดยได้โทรศัพท์ไปสอบถามกับทนายเกิดผลถึงกรณีคลิปดังกล่าว ยืนยันว่า ตนเองไม่เคยพูดว่ามีคลิปการสนทนาขอรับผลประโยชน์ของทนายความและ ผกก. โจ้ และไม่เคยพูด หรือเจาะจงว่าทนายตามที่โพสต์นั้น เป็นทนายเดชา ส่วนประเด็นที่มีการโพสต์เรื่องทนายความรีดทรัพย์ผู้กำกับ ตนเองได้พบข้อมูลจากกลุ่มไลน์ของทนายตั้มซึ่งมีการพูดถึงประเด็นนี้กัน ตนจึงแชร์ต่อมา ส่วนข้อเท็จจริงของคลิปดังกล่าวนี้จะมีจริงหรือไม่นั้น ตนเองไม่ทราบ และก็ไม่เคยได้ยินว่ามีคลิปดังกล่าวนี้ด้วย
นอกจากนี้ ทนายเกิดผล ยังกล่าวถึงการออกมาไลฟ์สดเปิดใจของทนายเดชา ถึงการกล่าวหาจากทนายตั้มว่า ประเด็นดังกล่าว ตนเองก็ยังไม่ปักใจเชื่อ ฟังหูไว้หูยัง เนื่องจากไม่มีหลักฐานการต่อรองที่จะมายืนยันได้ว่ามีการกระทำการจริงหรือไม่ แต่ขณะเดียวกันกับพบว่ามีการตั้งข้อสงสัย ว่าในวันที่ทนายได้รับคลิปแล้วเหตุใดจึงยังไม่มีการนำมาเผยแพร่ต่อสาธารณชน หรือส่งต่อให้ให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนินการต่อไป และกล่าวด้วยว่าการที่ทนายตั้ม ออกมาเปิดเผยคลิป ไม่มีอะไรเสียหาย แต่กลับพบว่าช่วยทำให้ตำรวจสามารถออกหมายจับผู้ก่อเหตุได้ง่ายขึ้น และหากตำรวจชั้นผู้ใหญ่มีจริงตามที่ทนายเดชากล่าวอ้าง เหตุใดจึงไม่มีการนำคลิปดังกล่าวให้กับท่าน ดังนั้นการออกมาเปิดเผยจึงไม่ใช่ต้นเหตุของการทำให้ ผกก.โจ้ หลบหนี
สำหรับประเด็นที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมผู้ต้องหาแล้วทำการรีดทรัพย์หรือทรมานร่างกาย ก็จะพบว่ามีเหตุการณ์เกิดขึ้นจริงอยู่หลายครั้ง และยังเกิดคำถามว่ากรณีของ ผกก.โจ้ ที่ผ่านมา มีเหยื่อในลักษณะดังกล่าวนี้มาแล้วอีกกี่คน และในฐานะที่ตนเองก็เป็นทนายความจึงขอฝากข้อคิดหรือแนวทางสำหรับเพื่อนร่วมอาชีพว่า ไม่มีสิ่งใดยืนยันได้ว่าจะเป็นคนดี หรือคนเลวขึ้น ต่างอยู่กับตัวบุคคล ซึ่งทนายที่ดีและไม่ดีก็มี รวมถึงทนายที่รับผลประโยชน์ก็มี ดังนั้น อาชีพทนายความที่ต้องใช้ความรู้ตามหลักกฎหมายจึงถือเป็นดาบสองคม หากอยู่ในมือทนายที่ดีย่อมยึดมั่นตามหลักอุดมการณ์ จึงไม่ต่างกันกับตำรวจที่ดีเช่นกัน