“ดร.นิว” ย้อน 2 ปี เคยเตือน “บิ๊กตู่” 2 เรื่องสำคัญ ก่อนถึงวันสุดท้ายเป็นนายกฯ

"ดร.นิว" ย้อน 2 ปี เคยเตือน "บิ๊กตู่" 2 เรื่องสำคัญ ก่อนถึงวันสุดท้ายเป็นนายกฯ

วันที่ 24 ส.ค. 66 ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ “ดร.นิว” นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และ คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas ประเทศสหรัฐอเมริกา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “Suphanat Aphinyan” ระบุว่า จะบังเอิญอะไรขนาดนี้?

14 พ.ค. 2564 ผมเตือนลุงตู่อวสานแน่ถ้าไม่ #สร้างอธิปไตยไซเบอร์ เวลาผ่านไป 2 ปีพอดี ลุงตู่แพ้เลือกตั้ง

23 ส.ค. 2565 ผมเตือนลุงตู่จะเป็น โมฆบุรุษ หรือ รัฐบุรุษ ? เวลาผ่านไป 1 ปีพอดี ได้นายกฯ คนใหม่มาแทนลุงตู่

 

หากเมื่อย้อนกลับไป เมื่อวันที่ 14 พ.ค. 2564 “ดร.นิว” โพสต์ข้อความไว้ว่า ลุงตู่อวสานแน่ถ้าไม่แก้ปัญหานี้… ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha ปี 57 ลัทธิสามนิ้วยังเป็นแค่ลัทธิในซอกหลืบของรั้วมหาวิทยาลัยอยู่เลย แต่ลุงตู่กลับปล่อยให้ลัทธิชั่วทำการตลาดบิดเบือนล้างสมองผ่านโซเชียลมีเดียจนมีวันนี้

น่าเสียดายที่ลุงตู่เคยเป็นทหาร แต่ไม่ได้ตระหนักถึงปัญหาของการใช้โซเชียลมีเดียเป็นอาวุธ (The weaponization of social media) ปล่อยให้ความมั่นคงของประเทศชาติโดนบ่อนทำลายและถูกแทรกแซงผ่านโซเชียลมีเดียมาอย่างต่อเนื่อง

การไม่สร้างอธิปไตยไซเบอร์ของชาติที่มั่นคง กลายเป็นช่องโหว่ในการโจมตีอธิปไตยของชาติโดยผู้ไม่หวังดี ใครก็ได้ที่มีเงินและเครือข่ายโซเชียลมีเดียอยู่ในมือ สามารถทำอะไรก็ได้ตามใจชอบ บิดเบือนล้างสมอง ชักจูงทางความคิดนำไปสู่การถูกควบคุมทาง พฤติกรรม ยุยงปลุกปั่น สร้างความแตกแยก ยุให้คนไทยแตกความสามัคคี โจมตีสถาบันหลักของชาติ กดดันกระบวนการยุติธรรม ปล่อยข่าวปลอม ปลุกม็อบลงถนน ฯลฯ

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

หากอธิปไตยและอธิปไตยไซเบอร์ของชาติยังอ่อนแออยู่แบบนี้ ประชาธิปไตยหรือประโยชน์สุขของปวงชนชาวไทยจะเกิดขึ้นได้อย่างไร? ท่ามกลางความอ่อนแอนี้คงจะมีแต่ประชาธิปไตยจอมปลอมของลัทธิสามนิ้ว ซึ่งแปลว่าผลประโยชน์ของต่างชาติและคนชาติชั่วที่อยู่เบื้องหลังม็อบเท่านั้น ที่จะเกิดขึ้นได้ท่ามกลางปัญหาและความเดือดร้อนของประชาชน
ถ้าลุงตู่ยังเพิกเฉยต่อปัญหานี้อย่างที่เป็นมาตลอด แล้วไม่ทำการแก้ไขอย่างจริงจังด้วยมาตรการที่เด็ดขาด ลุงตู่เองที่จะเดือดร้อน ไม่เพียงเท่านั้น ประเทศชาติและประชาชนเองก็จะเดือดร้อนต่อไปแบบไม่รู้จบ ทุกวันนี้ในยามที่โควิดระบาดอย่างหนัก ประชาชนตาดำๆ ก็ยังต้องมานั่งต่อสู้กับข่าวปลอมเรื่องวัคซีนจำนวนมาก ตลอดจนการยุยงปลุกปั่นทางการเมืองจากลัทธิสามนิ้วและผู้ชักใยอยู่เบื้องหลัง
โปรดฟังอีกครั้งหนึ่ง…
“ปี 57 ลัทธิสามนิ้วยังเป็นแค่ลัทธิในซอกหลืบของรั้วมหาวิทยาลัยอยู่เลย แต่ลุงตู่กลับปล่อยให้ลัทธิชั่วทำการตลาดบิดเบือนล้างสมองผ่านโซเชียลมีเดียจนมีวันนี้”

 

และอีกโพสต์เมื่อวันที่ 23 ส.ค. 2565 ระบุไว้ว่า พลเอกประยุทธ์จะเป็น “โมฆบุรุษ” หรือ “รัฐบุรุษ” ?

การเป็น “โมฆบุรุษ” หรือ “รัฐบุรุษ” ของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการดำรงตำแหน่งครบแปดปีเมื่อไหร่ หรือคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเป็นอย่างไร หากแต่ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจและการกระทำของพลเอกประยุทธ์เอง

จริงๆ พลเอกประยุทธ์น่าจะเป็นรัฐบุรุษไปแล้วเสียด้วยซ้ำ หากยึดอำนาจแล้วนำมาสร้างประชาธิปไตย ทำอำนาจอธิปไตยให้เป็นของปวงชนอย่างแท้จริง แต่ก็ไม่ได้นำพา วกกลับมาสู่ระบอบเผด็จการลัทธรัฐธรรมนูญเช่นเดียวกับการรัฐประหารทุกครั้ง

การไม่สร้างประชาธิปไตยของพลเอกประยุทธ์จึงทำให้อำนาจอธิปไตยยังคงเป็นของคนส่วนน้อยเหมือนเดิม ทำให้การเคลื่อนไหวที่ผิดหลักวิชาภายใต้ระบอบเผด็จการยังคงอยู่ ไม่ได้ยุติความขัดแย้งและความเห็นผิดทางการเมืองให้หมดสิ้นไปแต่อย่างใด

ถ้าพลเอกประยุทธ์ไม่สร้างประชาธิปไตย ยังคงเป็นนายกรัฐมนตรีภายใต้ระบอบเผด็จการต่อไป คอยรับใช้อำนาจอธิปไตยของคนส่วนน้อย เอื้อผลประโยชน์แก่นายทุนนักธุรกิจหลังม่านการเมือง แล้วปล่อยให้ระบอบปรสิตของนักการเมืองทำนาบนหลังคนร่ำไป

ในที่สุดพลเอกประยุทธ์ก็จะพังไปเองโดยไม่ต้องมีใครมาขับไล่ นำไปสู่จุดจบทางการเมืองแล้วกลายเป็น “โมฆบุรุษ” เฉกเช่นนายกรัฐมนตรีคนอื่นๆ ในระบอบเผด็จการแห่งนี้ ที่เข้ามาแสวงอำนาจและผลประโยชน์โดยไม่สร้างประชาธิปไตยให้กับประชาชน

ถ้าพลเอกประยุทธ์สร้างประชาธิปไตย โค่นระบอบเผด็จการของคณะราษฎรเสียให้สิ้น บดขยี้การเคลื่อนไหวแนวทางผิดทั้งหมด ด้วยการเมืองกระแสสูงที่นำพาประชาชนไปสร้างประชาธิปไตย แล้วทำอำนาจอธิปไตยให้เป็นของปวงชนได้เป็นผลสำเร็จ

 

พลเอกประยุทธ์ก็จะได้รับการยกย่องสรรเสริญ และถูกจารึกชื่อไว้ในประวัติศาสตร์ในฐานะ “รัฐบุรุษ” แถมยังเป็น “วีรบุรุษประชาธิปไตย” ของปวงชนอีกด้วย เพราะเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนผ่านระบอบเผด็จการไปสู่ระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง

ถ้าอยู่ในสถานการณ์เดียวกันนี้ ผมจะขอโทษประชาชนที่ไม่ได้ทำตามสัญญา ไม่ได้สร้างประชาธิปไตยที่ถูกต้องสมบูรณ์ตั้งแต่ตอนเข้าสู่อำนาจ แต่นับจากวินาทีนี้ไป ผมจะนำพาประชาชนไปสร้างประชาธิปไตยอย่างสันติ เพื่อประโยชน์สุขของปวงชนชาวไทย

ผมจะใช้มาตรา ๑๖๖ ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ “ในกรณีที่มีเหตุอันสมควร คณะรัฐมนตรีจะขอให้มีการออกเสียงประชามติในเรื่องใดอันมิใช่เรื่องที่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือเรื่องที่เกี่ยวกับตัวบุคคลหรือคณะบุคคลใดก็ได้ ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายบัญญัติ”

ขอมหาประชามติจากปวงชนชาวไทยทั้งประเทศ เพื่อสถาปนาระบอบประชาธิปไตยตามแนวทางที่ถูกต้องให้เกิดขึ้นอย่างสันติ เมื่อได้รับการอนุมัติจากปวงชน ผมจะนำเสียงอันแท้จริงแห่งประชาธิปไตยมาทำอำนาจอธิปไตยให้เป็นของปวงชนชาวไทยอย่างแท้จริง

เริ่มตั้งแต่ “ราชประชาสมาสัย” ถ่ายโอนอำนาจอธิปไตยจากสถาบันพระมหากษัตริย์มาสู่ปวงชนชาวไทยอย่างถูกต้องและสง่างาม เพื่อให้เป็นจุดเริ่มต้นของระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง ไม่ใช่ปล้นมาสร้างระบอบเผด็จการ ๙๐ ปี ซึ่งคณะราษฎรทำผิดอย่างมหันต์

ในที่สุดเราจะมีระบอบประชาธิปไตยที่ถูกต้องและมีความเป็นธรรม ปรากฏหัวใจของประชาธิปไตย อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทยอย่างแท้จริง และมีสถาบันพระมหากษัตริย์ที่มั่นคง เป็นหลักชัยของประเทศชาติและประชาชนตลอดไป #ราชประชาสมาสัยถ่ายโอนอำนาจอธิปไตยให้เป็นของปวงชน #ข้อเดียวดรนิว

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ทัพอากาศเยี่ยมชมศูนย์สุขภาพโรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า
"บิ๊กเต่า" เผยปม “ไร่ภูนับดาว” คืบหน้า 80% จ่อเอาผิดผู้เกี่ยวข้อง ย้ำอย่าโยงการเมือง
สภาทต.ท่าพริกเนินทรายประชุมสมัยวิสามัญ ให้ นายกทต.ท่าพริกฯแถลงนโยบายบริหารงาน หลังได้รับเลือกตั้ง ประกาศพัฒนา 5 ด้านให้เมืองเจริญ
บูรณาการ ร่วม บุกทลายแก๊ง เงินกู้ และ จำนำรถ ยึดอาวุธปืนและรถเพียบ
“เชน ธนา” รอดนอนคุก คดีร่วมกันฉ้อโกง 79 ล้าน ศาลให้ประกันตัว ตีวงเงิน 1 ล้าน
จับสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ กว่า60 ลัง มูลค่าเกือบ10 ล้านบาทริมชายแดนเตรียมขายปีใหม่
"พิชัย" รุกคุยจีน ขอซื้อมันสำปะหลังเพิ่ม เจรจาขายเอกชน สั่งพณ.เร่งขยายตลาดช่วยเกษตรกร
ศาลสั่งปรับเงิน ม็อบ 3 นิ้ว ชุมนุมต้านประชุม APEC ถูกฟ้องอ่วม 3 ข้อกล่าวหา
ไม่รับเลี้ยงให้เปลือง! ทร.จัดหนัก รวบพม่าเถื่อนใส่เรือ-เตะโด่งกลับเกาะสอง
โดนอีก! ศาลสั่งคุก “อานท์ นำภา” 4 ปี คดีปราศรัยหมิ่นสถาบันฯ รวมโทษคุกอ่วม 16 ปี

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น