“พุทธะอิสระ” จวกยับ “นช.ทักษิณ” เห็นแก่ตัว เตือนอย่าดึงฟ้าลงต่ำ คิดขอพระราชทานอภัยโทษ

เช่นเดียวกับ อดีตพุทธะอิสระ หรือ นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ ที่ได้ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวท็อปนิวส์ ถึงพฤติกรรมของนายทักษิณ ที่ดูอย่างไรก็ไม่มีเหตุผลใด ที่ต้องนำตัวไปรักษานอกเรือนจำ เพราะอาการที่นายทักษิณเป็นนั้น เป็นอาการทั่วๆไปของคนที่ถูกคุมขังวันแรก แน่นอนว่าจะต้องมีการปรับตัว จากคนที่กินหรูอยู่สบาย ต้องมาอยู่กินในคุก ใช้ชีวิตในคุก และไม่ได้มีอะไรคอยอำนวยความสะดวก ก็อาจจะทำให้นายทักษิณ อาจเกิดภาวะต่างๆขึ้นได้ แต่ถึงอย่างไรก็มองว่า พฤติกรรมของนายทักษิณที่เกิดขึ้นนั้น คือคนเห็นแก่ตัว ไม่ทิ้งสันดานเดิม เพราะดีลลับที่ตกลงกันไว้ มีโจทย์ที่ว่า “ต้องกลับบ้านแบบเท่ๆ

โดยไม่ติดคุก” ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว การกลับมารับโทษแบบเท่ๆ ไม่มีอยู่จริง และต้องไม่ลืมว่านายทักษิณคือผู้ต้องหาคดีอาญาแผ่นดิน ในข้อหาทุจริต มีโทษจำคุกรวม 8 ปี ใน 3 คดี ไม่เพียงเท่านั้น อดีตพระพุทธะอิสระ ยังได้กล่าวเพิ่มเติมถึง กรณีการยื่นขอพระราชทานอภัยโทษของนายทักษิณ ซึ่งเป็นประเด็นที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนไปก่อนหน้านี้ ถึงขั้นตอนต่างๆ ว่าสำหรับการขอพระราชทานอภัยโทษ สามารถขอได้ตั้งแต่มาถึง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 257 โดยเจ้าตัวหรือญาติต้องเป็นผู้ขอ โดยอดีตพระพุทธะอิสระ มองว่าโทษที่นายทักษิณได้รับนั้น เป็นผลงานมาจากการกระทำของนายทักษิณ ที่คิดคดโกง ประกอบไปด้วย

• 1. คดีทุจริตโครงการออกสลากพิเศษเลขท้าย 2 ตัว 3 ตัว หรือคดีหวยบนดิน นายทักษิณ ขณะเป็นนายกรัฐมนตรี เร่งรัดให้ออกหวยพิเศษบนดินเมื่อปี 2546-2549 แม้จะมีการทักท้วงขัดต่อกฎหมาย แต่ก็ไม่ยับยั้งจนทำให้เกิดความเสียหาย ซึ่งปี 2562 ศาลได้พิพากษาจำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา และออกหมายจับ
• 2. คดีสั่งการให้ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย หรือ Exim Bank อนุมัติเงินกู้สินเชื่อวงเงิน 4,000 ล้านบาท ให้แก่รัฐบาลเมียนมา ซึ่งเป็นการกู้ดอกเบี้ยต่ำกว่าต้นทุน เพื่อนำเงินไปซื้อสินค้าและบริการของบริษัท ชินแซตเทลไลท์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งนายทักษิณ และครอบครัวถือหุ้น อันเป็นการเอื้อประโยชน์ต่อตนเองหรือผู้อื่น โดยปี 2562 ศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษาให้จำคุก 3 ปี โดยไม่รอลงอาญา และออกหมายจับ
• 3. คดีให้บุคคลอื่นถือหุ้นบริษัทชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) แทน และบริษัทชินคอร์ปฯ เข้าเป็นคู่สัญญาของหน่วยงานรัฐ ถือว่ามีส่วนได้เสียในกิจการโทรคมนาคมทำให้บริษัทชินคอร์ปได้รับประโยชน์ อันเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ โดยทุจริต