“วิษณุ” ย้ำชัดปิดประตูการเมือง เผยมีปัญหาสุขภาพ ขอพักผ่อนเลี้ยงหลาน เชื่อรัฐบาล “เศรษฐา” จะมั่นคง

“วิษณุ” ปิดประตูการเมือง มีปัญหาสุขภาพ ขอพักผ่อน เลี้ยงหลาน เชื่อ “เศรษฐา” ได้เสียงหนุนจาก สส.-สว. เป็นรัฐบาลที่มั่นคง ชี้ อาจกระทบกระทั่งบ้างจาก 11 พรรคร่วม แต่ถ้าช่วยกันประคับประคองก็ไปได้

25 ส.ค.66 นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้ทยอยเก็บของจากห้องทำงาน ตึกบัญชาการ 1 แล้ว แต่ยังเก็บไม่หมด ซึ่งจะต้องขนของอีกหลายรอบและหลังจากนี้ ก็จะพักผ่อนอยู่บ้าน และเล่นกับหลาน ซึ่งทำให้ตนมีความสุขมาก และอาจจะเขียนหนังสือหรือสอนหนังสือรวมถึง อาจจะถูกเชิญไปเป็นกรรมการบริษัทต่างๆ แต่ยังมีหน้าที่ในสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาและ ราชบัณฑิตยสภา พร้อมยืนยันว่าจะยุติบทบาทงานทางการเมือง ซึ่งตนเคยคิดแบบนี้ตั้งแต่ปี 2549 แต่อีก 8 ปีต่อมา ก็มีเหตุให้กลับมาทำงานทางการเมืองอีก แต่คราวนี้หวังว่าจะไม่มีเหตุแบบนั้นอีก เพราะขณะนี้มีปัญหาเรื่องสุขภาพแทรกเข้ามาด้วย

 

ข่าวที่น่าสนใจ

เมื่อถามว่า จะปิดประตูทางการเมืองเลยใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ใช่ครับ ให้ตนไปสาบานที่ไหน และหากใครมาชวน ตนก็จะเปิดพุงให้ดู (แผลที่ฟอกไต) ทุกครั้ง

นายวิษณุ กล่าวว่า ตนไม่ได้เตรียมที่จะส่งมอบงานให้รัฐบาลชุดต่อไป เพราะยังไม่ทราบว่าเป็นใคร ซึ่งกว่าที่รัฐมนตรีชุดใหม่จะเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ตนก็ได้พ้นจากตำแหน่งไปแล้ว และเมื่อแถลงนโยบายต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรแล้วเสร็จ ก็จะมีการประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อแบ่งงาน ซึ่งตนก็ไม่ได้อยู่ที่จะมอบนโยบาย

ส่วนที่เคยพูดเมื่อสมัยตั้งรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่า “สนิมจะเกิดแต่เนื้อใน “ เมื่อมองรัฐบาลชุดนี้ประเมินอย่างไร นายวิษณุ กล่าวว่า ก็ถือว่าเป็นอย่างที่ตนพูด ซึ่งเรือเหล็กในความหมายของตนเองนั่นคือเรือที่มั่นคงแน่นหนาถาวร ซึ่งรัฐบาลชุดนี้ก็มั่นคงแน่นหนา เพราะอยู่มาครบ 4 ปี แต่คำว่า สนิมเหล็ก เกิดขึ้นในเนื้อในเหล็ก ไม่ได้เกิดขึ้นจากภายนอก ซึ่งเราเห็นได้จากความแตกแยกของคนในรัฐบาล ที่มีการแตกพรรคการเมืองออกไป จากพรรคพลังประชารัฐกลายเป็นพรรครวมไทยสร้างชาติ นั่นก็ถือเป็นสนิมเหล็ก

ส่วนรัฐบาลชุดใหม่ยังไม่สามารถประเมินได้ เพราะยังไม่เห็นหน้าตา แต่การที่นายเศรษฐา ทวีสิน ได้รับเสียงสนับสนุนจาก สส.และสว. เป็นจำนวนมาก น่าจะเชื่อว่าจะสามารถเป็นรัฐบาลที่มั่นคงแข็งแกร่งได้ แต่การที่มีพรรคร่วมรัฐบาลถึง 11 พรรค ก็อาจจะมีการกระทบกระทั่งกัน ย่อมเป็นเรื่องธรรมดา และก่อนที่จะมาร่วมรัฐบาลก็มีความขัดแย้งกันมาก่อน แต่หากสามารถก้าวข้ามหรือสลายความขัดแย้ง ก็จะส่งผลดีต่อรัฐบาลและประเทศ ส่วนจะทำได้หรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ แต่เชื่อว่าถ้าทุกคนตั้งใจประคับประคองก็จะไปได้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

กทม.เปิดศูนย์รับมือ 7 วันอันตราย สงกรานต์ 196 จุด พร้อมลุยภายใต้มาตรการ 5 ป.
สวนสัตว์เปิดเขาเขียว เข้ารับโล่เกียรติคุณและเข็มเชิดชูเกียรติคนดีศรีเมืองชล สาขาผู้ทำคุณประโยชน์และสร้างชื่อเสียงแก่จังหวัดชลบุรี
ถนนสายเอเชีย ช่วงจ.พระนครศรีอยุธยา ปชช.ทยอยเดินทางมุ่งสู่ภาคเหนือ รถเริ่มมากแต่ยังคล่องตัว
จีน-อียูนัดประชุมสุดยอดเดือนกรกฎาคม
จีนสู้กลับสหรัฐสั่งขึ้นภาษีนำเข้าเป็น 125%
ญี่ปุ่นเล็งส่งทีมเศรษฐกิจไปเจรจาสหรัฐสัปดาห์หน้า
อั้นไว้ก่อน ค่อยเติม พรุ่งนี้น้ำมันลดอีก 30 สต. ยกเว้นดีเซลคงเดิม
"โฆษกอสส." แจงยึดคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด กทม.ต้องจ่ายหนี้ "รถไฟฟ้าสีเขียว" ถ้าไม่มีเหตุควรอุทธรณ์
คึกคัก! ปชช.ทยอยเดินทางมุ่งหน้าภาคเหนือ ถนนพหลโยธิน ช่วงจ.นครสวรรค์ รถเริ่มหนาแน่น
ญาติเศร้าทำพิธีเชิญวิญญาณ คนงานเมียนมา หลังพบร่างแล้ว 4 ราย

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น