นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. และ นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด นัดหมายการชุมนุมแบบคาร์ม็อบวันอาทิตย์ที่ 29 สิงหาคมโดยระบุว่าก่อนที่จะออกมาเคลื่อนไหวขอให้นายณัฐวุฒิ และนายสมบัติ มีจิตสำนึกบ้างว่าการออกมาเคลื่อนไหวจะทำให้บ้านเมืองเกิดความเสียหายมากน้อยแค่ไหน ประชาชนเดือดร้อนหรือไม่ และที่ผ่านมาก็เห็นแล้วว่าการเคลื่อนไหวสร้างแต่ความรุนแรงประชาชน ตำรวจ ได้รับบาดเจ็บ อีกทั้งยังมีความเสี่ยงต่อการระบาดเชื้อโควิด-19 อีกด้วย โดยหากเกิดเป็นคลัสเตอร์ขึ้นมาแล้วยังจะเป็นการเพิ่มภาระให้กับบุคลากรทางการแพทย์ และนายณัฐวุฒิ กับนายสมบัติ จะต้องรับผิดชอบในเรื่องนี้ด้วย เพราะที่กระทำอยู่คือการสั่งการให้ทำผิดกฎหมายอย่างชัดเจน ทั้งตัวการและผู้ร่วมกระทำการ
ขณะเดียวกัน การออกมาเคลื่อนไหวของนายณัฐวุฒิและนายสมบัติยังอยากให้เกิดความไม่สงบเกิดขึ้น เพราะหากบ้านเมืองไม่สงบมากเท่าไรก็จะเป็นการกดดันให้นายกฯลาออกโดยเร็วขึ้น และเพื่อที่ฝ่ายตนเองก็จะได้รับประโยชน์มากขึ้นด้วย เพื่อหวังกลับมามีอำนาจรัฐ รับโบนัสกันถ้วนหน้าจากนายทุนใหญ่ที่สั่งการ
“ตนเองมองว่าคนอย่างนายณัฐวุฒิและนายสมบัติ หากเห็นแก่บ้านเมืองและประชาชน ก็คงหยุดการเคลื่อนไหวไปตั้งนานแล้ว แต่ที่ออกมาเคลื่อนไหว น่าจะเพราะมีใบสั่ง และคิดว่าหากทำสำเร็จจะทำให้ตัวเองร่ำรวย มีอำนาจขึ้นมาอีก โดยไม่สนใจความเป็นความตายที่อาจจะเกิดขึ้น ทั้งนี้ตนเองก็ขอย้ำกับประชาชน หรือเยาวชนที่จะเข้าร่วมกับนายณัฐวุฒิ ว่ากำลังถูกหลอกใช้เป็นเครื่องมือ และให้กระทำผิดกฎหมาย แต่นายณัฐวุฒิและนายสมบัติ ต่อสู้ชนะ เพื่อตนเองจะได้สุขสบาย เอาตัวรอด ตนห่วงแต่เยาวชนที่ออกมาก่อความรุนแรงก็ติดคุกติดตารางแทนแกนนำเหล่านี้
“ดังนั้นตนจึงต้องตัดไฟต้นลม กับนายณัฐวุฒิและนายสมบัติ ที่คิดแต่ก่อกรรมทำเข็ญอย่างไม่รู้จักหยุดยั้งเป็นการซ้ำเติมประเทศชาติประชาชนหนักยิ่งขึ้นทุกวัน จึงจำเป็นต้องให้ฝ่ายกฎหมายแจ้งความดำเนินคดีกับทั้งสองคนเพิ่มเติมในหลายกระทงต่างกรรมต่างวาระ เพื่อเอาสองคนนี้ที่กำลังคิดร้ายต่อแผ่นดินไทย เข้าไปอยู่ในคุกในตารางให้ได้ มิให้ทำตัวเป็นเยี่ยงอย่างที่ไม่ดีต่อเยาวชน คนหนักแผ่นดินเช่นนี้ เป็นภัยร้ายต่อประเทศชาติบ้านเมือง ไม่สมควรมีที่ยืนในสังคมนี้อีกต่อไป”