วันนี้(27ส.ค.66) หลังจากที่ทีมข่าวประจำ จ.ชัยภูมิ ได้ทราบเรื่องสุดรัดทดของหนูน้อยเด็กหญิงชั้น ป.4 จากนายธนปกรณ์ มณีศรี ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านฝายพญานาค ต.ธาตุทอง อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ น.ส.อรอนงค์ โชคสวัสดิ์ ครูประจำชั้น ป.4 ของเด็กหญิงชลดา (ขอสงวนนามสกุล) และนางพรพรรณ พรมลี ภวภูตานนต์ ครูประจำชั้น ป.6 เด็กหญิงชลธิชา (ขอสงวนนามสกุล) 2 พี่น้องต่างบิดา นักเรียนโรงเรียนบ้านฝายพญานาค หมู่ที่ 13 ตำบลธาตุทอง อำเภอภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ ซึ่งเป็นเด็กนักเรียนเรียนดี แต่ครอบครัวทางบ้านฐานะยากจน ต้องอาศัยในบ้านพักที่จะดูเหมือนกระท่อม สร้างพอได้อยู่อาศัยหลับนอน อยู่กับตาและยายอยู่กลางทุ่งนาชายป่าอ้อย มีชีวิตความเป็นอยู่อย่างลำบาก ทีมข่าวได้ลงพื้นที่พร้อมกับนายธนปกรณ์ มณีศรี ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านฝายพญานาค นางพรพรรณ พรมลี ภวภูตานนต์ ครูประจำชั้น ป.6 ของเด็กหญิงชลธิชา และนางสาวอรอนงค์ โชคสวัสดิ์ ครูประจำชั้น ป.4 ของเด็กหญิงชลดา พบสภาพที่อยู่อาศัยของเด็กหญิงชลธิชา และเด็กหญิงชลดา 2 พี่น้องต่างบิดา ที่ได้อาศัยอยู่ในบ้านพักอาศัยอยู่กับ 2 ตายาย หลังคามุงสังกะสี ฝาบ้านทำด้วยไม้เก่าๆใกล้พุพังเพียง 3 ด้าน และพบมีรอยรั่วของหลังคาบ้านสังกะสี ใช้พื้นที่ใช้สอยภายในบ้านยกสูง ที่ดูเหมือนกระท่อมใช้หลับนอนรวมกันทั้งตา ยาย และ 2 เด็กหญิงพี่น้อง ซึ่งทั้ง 2 พี่น้องเด็กหญิงกำลังช่วยกันนึ่งข้าวเหนียว ทำกับข้าวอาหารมื้อเช้ากินกัน และมีเพียงรถจักรยานยนต์อีก 1 คัน ที่ใช้เป็นพาหนะเดินทางเข้าออกบ้านกลางทุ่งนาชายป่าอ้อย เดินทางไปโรงเรียน ไปหมู่บ้าน และที่กระท่อมที่พักอาศัยยังไม่มีไฟฟ้าเข้าถึง เนื่องจากไม่มีเงินต่อสายไฟฟ้าเข้าถึงที่พัก ที่มีระยะทางห่างจากหมู่บ้านฝายพญานาค หมู่ที่ 13 ตำบลธาตุทอง อำเภอภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ ประมาณ 3.5 กิโลเมตร และอยู่นอกเขตบริการของการไฟฟ้าภูมิภาคตอนกลางคืนต้องอาศัยแสงสว่างจาก ตะเกียงน้ำมัน หรือแสงสว่างจากหลอดไฟจากโซล่าเซล พลังงานแสงอาทิตย์ที่มีผู้บริจาคให้เมื่อหลายปีแล้ว ที่ใช้ชีวิตประจำวันในตอนกลางคืน แต่ไม่นานไม่ถึงเที่ยงคืนไฟจะหมดเพราะใช้งานมาหลายปี หรือบางวันไม่มีแดดก็ไม่มีแสงสว่างจากหลอดไฟโซล่าเซล