มีความเคลื่อนไหวล่าสุด ที่จังหวัดนครสวรรค์ ทีมทนายความจากสภาทนายความจังหวัดนครสวรรค์ ก็ได้เข้ามาร่วมสอบปากคำผู้ต้องหาด้วย ซึ่งหลังจากสอบปากคำกว่า 2 ชั่วโมงทีมทนายความก็ลงมาบอกว่า ผู้ต้องหาทั้งหมดให้การภาคเสธ ขณะเดียวกันมีรายงานว่า จับผู้ต้องหาเพิ่มได้อีก 1 ราย นั้นก็คือดาบตำรวจวิสุทธิ์ บุญเขียว ผู้บังคับหมู่ปราบปราม สภ. เมืองนครสวรรค์ อย่างไรก็ตามจากการที่ผมตรวจสอบไปที่ตำรวจภูธรภาค 6 นะครับก็ยังไม่ยืนยันว่าสามารถจับกุมได้ขณะที่อีกกระแสข่าวก็มีรายงานว่า ชุดที่จับกุมเป็นชุดของ พลตำรวจเอกสุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งความชัดเจนน่าจะเกิดขึ้นในช่วงค่ำวันนี้
ขณะที่ด้านการสอบสวนกลุ่มผู้ต้องหา เมื่อประมาณบ่าย3 นายวราวุธ รุ่งจิรารัตน์ รองประธานสภาสภาทนายความนครสวรรค์ พร้อมด้วยทีมทนายอีก 2 คน ก็เดินทางมาเข้าร่วมสอบปากคำกลุ่มผู้ต้องหาที่ สภ.เมืองนครสวรรค์ ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง ทนายความจึงเดินลงมาแล้วก็ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า ตนเองมาในฐานะรองประธานสภาทนายความจังหวัดนครสวรรค์มาร่วมสอบปากคำตามกฎหมาย
จากการได้เข้าร่วมสอบปากคำ นายวราวุธบอกว่า ผู้ต้องหาให้การภาคเสธ ยอมรับว่า ร่วมก่อเหตุจริงตามภาพที่ปรากฏ แต่เป็นเพราะถูกผู้บังคับบัญชาบังคับ จึงต้องร่วมกระทำความผิดไปด้วย
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่ามีการให้ปากคำเกี่ยวกับเรื่องการเรียกรับสินบน 2 ล้านบาทหรือไม่ ซึ่งทนายความก็ยืนยันว่าไม่มีการเรียกสินบน 2 ล้านบาท มีแต่การสอบถามเรื่องของกลางไปอยู่ที่ไหน พร้อมยืนยันว่ายังไม่ได้เข้าเป็นทนายความของผู้ต้องหาเพียงแค่มาเข้าร่วมการสอบปากคำเท่านั้น
นอกจากนี้ก็มีหญิงรายหนึ่งมาขอยื่นประกันตัวหนึ่งในผู้ต้องหา คือ สิบตำรวจตรีปวีกรณ์คำมาเร็ว หรือหมู่ต้อม แต่ก็ได้รับการปฏิเสธเนื่องจากว่าพรุ่งนี้พนักงานสอบสวนจะนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 รายไปขออำนาจศาลจังหวัดนครสวรรค์ฝากขัง
โดยหญิงสาวรายนี้มีชื่อว่า นางบวรรัตน บงสุกฤษฏ์ เธอบอกว่าเป็นผู้ใหญ่ที่หมู่ต้มให้การเคารพนับถือนะครับซึ่งวันนี้เธอก็เดินทางมาเพื่อที่จะขอยื่นประกันตัวในชั้นสอบสวนแต่ก็ได้รับการปฏิเสธจากพนักงานสอบสวนไป นางบวรรัตน์ก็บอกอีกว่าอยากเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้กับ หมูต้อมเนื่องจากว่าเจ้าตัวทำไปเพราะถูกผู้บังคับบัญชาบังคับ ขอความเห็นใจและขอความเป็นธรรมให้กับตำรวจชั้นผู้น้อยด้วย