วันที่ 28 ส.ค.66 นายอนิรุทธิ์ สิทธิสร อายุ 35 ปี เดินทางเข้าแจ้งลงบันทึกประจำวันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรท่าม่วง อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อเป็นหลักฐานว่า ตนเองและนางสาวเอ(นามสมมติ) ยุติความสัมพันธ์การเป็นสามีภรรยากันแล้ว หลังได้ตงลงใจแต่งงานใช้ชีวิตคู่อยู่ด้วยกันเพียง 3 วัน
โดยนายอนิรุทธิ์ เปิดใจเล่าถึงเรื่องดังกล่าวให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า เมื่อช่วงต้นปี ตนเองได้รู้จักกับนางสาวเอ ผ่านทางเฟซบุ๊กและได้คบหาดูใจกันเป็นระยะเวลาประมาณ 6 เดือน จากนั้น เมื่อช่วงต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา นางสาวเอ ได้มาแจ้งกับตนเองว่า ตั้งท้องลูกของตน พร้อมพาตนไปตรวจที่โรงพยาบาล กระทั่งมีผลตรวจยืนยันจากโรงพยาบาล ว่านางสาวเอตั้งท้องจริง ตนจึงได้นำเรื่องดังกล่าวมาปรึกษาพ่อและแม่ เพื่อเตรียมจัดงานแต่งงาน โดยได้พาพ่อและแม่ไปพูดคุยกับพ่อและแม่ของนางสาวเอ โดยทางครอบครัวของนางสาวเอ ได้เรียกค่าสินสอดในการแต่งงานเป็นเงิน 60,000 บาทและทองคำหนัก 2 บาท ซึ่งในส่วนของกำหนดการแต่งงานนั้น ทางครอบครัวนางสาวเอได้พาตนและนางสาวเอ ไปพบพระที่เคารพนับถือและได้แนะนำมาว่า ควรจะรีบจัดงานแต่งงาน ก่อนถึงวันเกิดของนางสาวเอ ในวันที่ 23 สิงหาคม เพราะหากแต่งช้ากว่านั้น อาจจะทำให้ลูกที่อยู่ในท้องมีปัญหาเรื่องสุขภาพ จึงได้กำหนดจัดงานแต่งในวันที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมา ที่บ้านของนางสาวเอ ในตำบลท่าล้อ อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี
แต่เนื่องจากกำหนดจัดงานแต่งงานอย่างกระชั้นชิด ตนและพ่อแม่ไม่สามารถหาเงินมาเป็นค่าสินสอดได้พออย่างที่ครอบครัวนางสาวเอกำหนด จึงมีการต่อรอง จนเหลือเพียงเงินสด 40,000 บาท ซึ่งครอบครัวนางสาวเอก็ตกลง จึงได้จัดงานแต่งงานระหว่างตนและนางสาวเอ ในวันที่ 20 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในงานแต่งงานก็มีครอบครัวและญาติ รวมถึงเพื่อนสนิทของทั้งสองฝ่ายเข้าร่วมงานกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งตนก็มีความสุขมาก