สับ“กกต.”เสือกระดาษ ปมให้ผู้สมัครก้าวไกลลงชิงสส.เขตระยองได้ ทั้งที่เป็นผู้สมัครสส.บัญชีรายชื่อ แถมยังเกียร์ว่างไม่แจกใบแดง-ใบเหลือง

สับกกต. เสือกระดาษปมให้ผู้สมัครก้าวไกลลงชิง สส.เขตระยองได้ทั้งที่เป็นผู้สมัครสส.บัญชีรายชื่อ พร้อมย้อนอดีตทำผิดซ้ำซากปมนับคนต่าวด้าว แถมยังเกียร์ว่างไม่แจกใบแดง-ใบเหลืองทั้งที่การเลือกตั้งผ่านมากว่า 3 เดือน

กลายเป็นประเด็นที่สังคมกำลังจับตามองและตั้งคำถามกรณีนายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกมาระบุถึงนายพงศธร ศรเพชรนรินทร์ ผู้สมัคร ส.ส.ระยองเขต 3 พรรคก้าวไกลมีสิทธิเป็นผู้สมัคร สส.ระยองได้แม้จะมีรายชื่อซ้ำเป็นผู้สมัคร สส.บัญชีรายชื่อของพรรคก้าวไกล แต่ถ้าได้ลาออกหรือสละสิทธิในการเลื่อนลำดับของ สส.บัญชีรายชื่อดังกล่าวแล้วก็จะทำให้การสมัคร สส.เขตสมบูรณ์ไม่ผิดกฎหมาย

 

 

การตีความของ กกต.ในเรื่องดังกล่าวมีหลายฝ่ายต้องข้อสังเกตุว่าการสมัคร สส.เขต ของนายพงศธรจะกระทำได้หรือไม่ เพราะเป็นการสมัครซ้ำ เนื่องจากยังเป็นผู้สมัคร สส.บัญชีรายชื่อของพรรคก้าวไกล ดังนั้นจึงต้องมาตีความกันว่า การวินิจฉัยของ กกต.ถูกหรือผิด แต่เมื่อดูจากการปฏิบัติงานของ กกต.ในการเลือกตั้งที่ผ่านมาพบว่า วินิจฉัยออกทะเลไปหลายเรื่อง และท้ายที่สุดต้องไปจบที่ศาลรัฐธรรมนูญ

ข่าวที่น่าสนใจ

ตัวอย่างคำวินิจฉัย กกต.ที่ผิดพลาดเห็นได้ชัดคือ กรณีกกต.ให้นับรวมคนต่างด้าวในการแบ่งเขตเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งตอนนั้นมีหลายฝ่ายออกมาเห็นแย้งว่ากระทำไม่ได้ เพราะจะผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ

 

 

การกระทำครั้งนั้น นายแสวง ออกมาชี้แจงว่า กกต. ได้นำจำนวนราษฎรที่กระทรวงมหาดไทยประกาศมาคำนวณเพื่อแบ่งเขตการเลือกตั้ง โดยครั้งนี้กระทรวงมหาดไทยแยกผู้มีสัญชาติไทยกับผู้ไม่มีสัญชาติไทยออกจากกัน ซึ่งคำว่า ราษฎร ตามความเข้าใจของประชาชน หมายถึงทุกคนที่อยู่ในประเทศไทย แต่ราษฎรที่ทางกกต.นำมาใช้นั้นเป็นไปตามกฎหมายทะเบียนราษฎรคือ ราษฎรประเภท 1 คนไทยที่มีเลข 3 นำหน้าในบัตรประจำตัวประชาชน และคนที่เป็นราษฎรได้อีกกรณีหนึ่ง จะมี 2 ประเภทคือ คนที่มีสัญชาติไทยและคนที่ไม่มีสัญชาติไทย

สำหรับคนที่ไม่มีสัญชาติไทยจะถือเป็นราษฎรได้นั้นต้องมี 2 เงื่อนไข จะไม่ใช่คนที่เป็นแรงงานต่างด้าวเข้ามาทำงานในประเทศไทย ทั้งนี้คนที่เป็นราษฎรต้องมีเลขประจำตัว 13 หลักทุกคน แต่คนต่างด้าวจะได้รับเลข 13 หลักได้ต้องเข้าเกณฑ์ตามกฎหมายไทย คือ พ.ร.บ. บัตรประชาชนและกฎหมายทะเบียนราษฎรเป็นเรื่องความมั่นคง โดยคนต่างด้าวประเภทนี้ถือเป็นประเภทที่ 8 ไม่ถือสัญชาติไทย แต่ได้รับอนุญาตให้อยู่ในเมืองไทยโดยถูกกฎหมายและมีใบสำคัญคนต่างด้าว หรือคนที่แปลงสัญชาติ และเงื่อนไขที่ 2 มีทะเบียนบ้านในประเทศไทย ไม่ใช่แรงงานต่างด้าวที่มาทำงาน แม้จะเข้าเมืองถูกกฎหมายก็ตาม แต่หากไม่เข้า 2 เงื่อนไข ก็ไม่ถือเป็นราษฎร แต่ต่างชาติที่เข้าเงื่อนไขตามกฎหมายทะเบียนราษฎร จึงมีสิทธิที่จะได้รับบริการ ทำงานให้บ้านเราเสียภาษี ซึ่งคนกลุ่มนี้นำมาใช้ในการคำนวณจำนวน ส.ส. เท่านั้น แต่ยืนยันว่า ไม่ใช่ผู้ที่มีสิทธิในการเลือกตั้ง

 

 

อย่างไรก็ตาม กกต.ดูเหมือนจะจนแต้ม เพราะถูกกระแสคัดค้านโจมตีในประเด็นดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง จึงได้ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยชี้ขาดต่อในวันที่ 15 กพ.66 ซึ่งผลการพิจารณา ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์ว่า การกำหนดจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ที่แต่ละจังหวัดจะพึงมีตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 86 (1) ที่กำหนดให้ใช้จำนวนราษฎรทั้งประเทศตามหลักฐาน การทะเบียนราษฎรที่ประกาศในปีสุดท้ายก่อนปีที่มีการเลือกตั้ง นั้น คำว่า “ราษฎร” ไม่หมายความรวมถึงผู้ไม่ได้สัญชาติไทย โดยคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญมีผลตั้งแต่วันที่ 3 มี.ค. 2566 เป็นต้นไป ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 76 วรรคหนึ่งและวรรคสาม และไม่มีผลย้อนหลังไปถึงการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ผ่านมา

 

นอกจากนี้ กกต. ยังมีปมปัญหาความผิดพลาดในงการเลือกตั้งล่วงหน้าในวันที่ 7 พฤษภาคม 66 กรณีเจ้าหน้าที่กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง หรือกปน.จ่าหน้าซองสถานที่ผิดเขตมากกว่า 10 แห่ง โดยมีแห่งที่สามารถทักท้วงแก้ไขได้ และมีหลายแห่งที่ไม่สามารถแก้ไขได้ ซึ่งการกระทำที่ผิดพลาดหลายครั้งของกกต.ส่งผลให้แฮชแท็ก #กกตมีไว้ทำไม ติดเทรนด์อันดับ 1 ในโลกทวิตเตอร์ รวมถึงมีแฮชแท็ก #กกตต้องติดคุก ตามมาด้วย

 

 

เรื่องนี้นายแสวง ออกมาชี้แจงว่า กรณี กปน. มีการเขียนรหัสเขตเลือกตั้งที่หน้าซองสำหรับใส่บัตรเลือกตั้งผิด ซึ่งพบผิดพลาดประมาณ 100 คน เมื่อเจ้าหน้าที่ทราบก็มีการเปลี่ยนหีบบัตรเลือกตั้งใหม่ โดยได้แยกกล่องผิดไว้ และจะตรวจรับหลังปิดหีบทันที

ขณะเดียวกันยังมีเรื่องใหญ่ที่ประชาชนกำลังข้องใจมากที่สุดคือ การกระทำผิดกฎหมายช่วงเลือกตั้งของ สส.ที่ก่อนหน้านี้ กกต.โดยนายฐิติเชฏฐ์ นุชนาฏ กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกมาประกาศกร้าวอย่างจริงจังว่า เรื่องร้องเรียนขณะนี้ที่มีการแจ้งข้อมูลเบาะแสทั้งหมดหลายร้อยเรื่อง และมีคำร้องที่วินิจฉัยชี้ขาดแล้ว 33 เรื่อง สั่งไม่รับเป็นคำร้อง และอยู่ระหว่างดำเนินการ 94 เรื่อง ซึ่งเรื่องไหนที่เห็นว่ามีมูล ตรวจข้อเท็จจริงได้ กกต.จะดำเนินการ และเมื่อเห็นว่าเข้าข่ายมีความผิดตามกฎหมายก็จะตั้งกรรมการสืบสวนไต่สวนดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ ส่วนเรื่องใบเหลืองใบแดงในการเลือกตั้งครั้งนี้ คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ เราจะดูว่าถ้าเป็นการกระทำความผิด จะไม่ละเว้น ใบเหลืองใบแดงก็อาจจะต้องเกิดขึ้น และมากน้อยเท่าไหร่คาดเดาไม่ได้

อย่างไรก็ตามขณะนี้การเลือกตั้งผ่านมากว่า 3 เดือนปรากฎว่า กกต.ทำแค่เพียงประกาศรับรองผล สส.ทุกคนอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 19 มิ.ย.66 เท่านั้น แต่ยังไม่มี่แววที่จะแจกใบเหลือง ใบแดง สส.จากพรรคการเมืองใดแม้แต่คนเดียว ทั้งที่ก่อนหน้านี้มีท่าทีขึงขังเอาจริงกับผู้กระทำผิดเลือกตั้ง ซึ่งถือเป็นเรื่องแปลกที่กกต.ชุดนี้เกียร์ว่างปล่อยเรื่องดังกล่าวให้เนิ่นนานมาจนถึงปัจจุบัน

แถมยังยกเรื่องกฎหมายมาเป็นข้ออ้างว่า กกต.มีกรอบระยะเวลาดำเนินการตามกฎหมายภายใน 1 ปี ในการพิจารณาคำร้องให้แล้วเสร็จ ซึ่งในส่วนของกระบวนการสืบสวนไต่สวนหากมีความผิดก็จะรวบรวมพยานหลักฐานและเสนอต่อศาลพิจารณาต่อไป และด้วยพฤติกรรมเหล่านี้ของ กกต.จึงไม่ต่างกับการเป็นเสือกระดาษที่แปะไว้ตามข้างฝาเพื่อขู่เด็กน้อยเท่านั้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"นายกฯ" อวยพรปีใหม่คนไทย ขอให้มีความสุขเรื่องใกล้ตัว บอกปีหน้าเป็นปีแห่งโอกาส รัฐบาลจะทำเต็มที่
ทร.เอาจริง! ติดเขี้ยวเล็บให้ปชช.แนวชายแดน สอนจับปืน-ศัตรูมาพร้อมซัดโป้ง
คดีสังหาร สจ.โต้ง ส่อบานปลาย คลิปเสียงโผล่อีกไขปมยิง โยงเงินปริศนา 70 ล้าน
"อดีตสว.สมชาย" ชี้ฝ่ายอนุรักษ์เดินหมากผิด เปิดโอกาส"ระบอบทักษิณ"ฟื้นชีพรอบวกส้ม
ม่วนกรุ๊ป เริ่มแล้ว เทศกาลตีคลีไฟชัยภูมิ หนึ่งเดียวในโลก 1 ครั้งในรอบปี สุดคึกคัก
ชาวเวียดนามในโฮจิมินห์ดีใจมีรถไฟใต้ดินใช้แล้ว
ผู้นำสูงสุดปัดอิหร่านไม่มีกองกำลังตัวแทน
ฮูตีเคลมผลงาน F/A-18 โดนสอยร่วงทะเลแดง
สื่อทำเนียบฯ จัดเต็มฉายาครม.ปี 67 "รัฐบาล (พ่อ) เลี้ยง" นายกฯท่องโพย วาทะแห่งปี "สามีคนใต้"
“ว้าแดง”เหิมหนัก! สั่งคนไทยห้ามเก็บของป่า ชาวบ้านผวา-ซ้อมอพยพถี่ยิบ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น