“อมร” อดีตแกนนำ พธม. ซัดทักษิณ จุดเริ่มต้นข้อความขัดแย้งรอบใหม่ ไม่เชื่อป่วยโรครุมเร้าจริง

ยังคงกลายเป็นประเด็นที่พูดถึงอย่างกว้างขวาง ภายหลังจากนายทักษิณ ชินวัตร นักโทษคดีทุจริตที่ศาลมีคำพิพากษาถึงสุดแล้ว ให้จำคุกรวม 8 ปี ใน 3 คดี แต่พอเดินทางมาถึงประเทศไทย นายทักษิณกลับไม่ได้รับโทษโดนการติดคุก เพราะถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจ เมื่อกลางดึกของวันที่ 22 สิงหาคม ที่ผ่านมา จนนำไปสู่การวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนาหู ถึงความไม่ชอบมาพากล และความไม่เหมาะสมของขั้นตอน ตั้งแต่ต้น กลางน้ำ และปลายน้ำ เช่นเดียวกับ นายอมร อมรรัตนานนท์ อดีตนักเคลื่อนไหวทางการเมือง ที่ได้ออกมาต่อต้านระบอบทักษิณ ในปี 2548 หรือที่รู้จักกันในนาม “กลุ่มพันธมิตรประชาชน เพื่อประชาธิปไตย

 

ข่าวที่น่าสนใจ

และยังเคยเป็นอดีตคนเดือนตุลาฯ ที่มีเหตุการณ์ทางการเมืองครั้งสำคัญของประเทศไทยถึงสองครั้ง นั่นก็คือ วันที่ 6 และ วันที่ 14 ตุลาคม 2519 หลังจากนั้นก็เคยไปใช้ชีวิตอยู่ในป่าร่วมกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย โดย นายอมร ยังเล่าว่าต่อว่า ตนเกิดในยุคที่เยาวชนแสวงหาประชาธิปไตย และเป็นยุคที่กลุ่มคนเหล่านี้ มีการสนใจเหตุบ้านการเมืองเป็นอย่างมาก ซึ่งในยุคนั้นถือได้ว่าเป็นยุคเผด็จการ ภายใต้การนำของรัฐบาล จอมพลถนอม กิตติขจร เป็นยุคที่มีความไม่ชอบธรรม จนตนกลายเป็นผลผลิตของกลุ่มนิสิต นักศึกษา รวมกลุ่มกันออกมาต่อต้านและประท้วง กระทั่งในยุครัฐบาลของ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ได้ออกกฎหมายนิรโทษกรรม ในปี พ.ศ. 2523 ซึ่งมีเป้าประสงค์ให้กลุ่มบุคคลที่เห็นต่างทางการเมือง ได้ร่วมกันออกมาพัฒนาประเทศ

แต่แล้วจนแล้วจนเล่า ชีวิตก็ต้องมาจมปรักวนเวียนอยู่กับการเมืองแบบเดิมๆ ในระบบอำนาจนิยม และเกิดการรัฐประหาร ในปี พ.ศ. 2535 ซึ่งรัฐบาลของ พลเอกสุจินดา คาประยูร จนทำให้ตนต้องตัดสินใจเข้าร่วมขบวนการ ภายใต้กลุ่มที่เรียกว่า “ม็อบมือถือ” และเข้าสู่การเคลื่อนไหวทางการเมืองเรื่อยมา จนถึงในยุคการพรรคไทยรักไทย ภายใต้การนำของ นายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งตนถือได้ว่าเป็นบุคคลที่อยู่เบื้องหลังการจัดตั้งพรรคไทนรักไทย และสนับสนุนนายทักษิณมาโดยตลอด กระทั่งมาพบว่ารัฐบาลของนายทักษิณ มีการทุจริตแบบมโหฬาร ชนิดที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน รวมทั้งมีความไม่ชอบธรรมเกิดขึ้นในบ้านเมือง แสวงหาผลประโยชน์ให้กับตัวเองและพวกพ้อง ไม่เพียงเท่านั้น นายอมร ยังได้กล่าวถึงการกลับมารับโทษของนายทักษิณ โดยกล่าวว่าตนขอพูดในฐานะบุคคลที่เคยถูกจำคุกมาแล้ว และมองว่าการกลับมารับโทษของนายทักษิณ เสมือนมีการเตรียมการ และเป็นเพียงพิธีกรรมอย่างหนึ่ง ซึ่งก็ไปสอดคล้องกับคำพูดในอดีตของนายทักษิณที่ว่า “คนอย่างผมจะไม่มีวันติดคุก แม้แต่นาทีเดียว”

 

ซ้ำร้ายไปกว่านั้น จากภาพข่าวที่ปรากฏตามสื่อต่างๆ ก็เป็นที่ประจักษ์แล้วว่า นายทักษิณได้รับการปฏิบัติเสมือนไม่ใช่นักโทษ และไม่ยุติธรรมกับนักโทษรายอื่นๆ เพราะมีการดูแลนายทักษิณ เสมือนเป็นบุคคลระดับ VIP และก็อดเป็นห่วงไม่ได้ว่า เจ้าหน้าที่ที่เอื้ออำนวยความสะดวกให้กับนายทักษิณ อาจจะต้องมีการถูกฟ้องร้องภายหลังตามมา นอกจากนี้ นายอมร ยังกล่าวเพิ่มด้วยว่า จากการออกมาต่อสู้กับระบอบทักษิณ ทำให้นายอมร ถูกศาลฏีกาตัดสินจำคุก 8 เดือน ในคดีการเมือง สืบเนื่องมาตั้งแต่คดียึดทำเนียบรัฐบาล 193 วันของกลุ่มพันธมิตรประชาชน เพื่อประชาธิปไตย ตั้งแต่ออกมาต่อต้านรัฐบาลทักษิณ สืบเนื่องมาถึงรัฐบาลสมัคร รัฐบาลสมชาย จนกระทั่งถึงรัฐบาลยิ่งลักษณ์ แต่ได้รับการอภัยโทษโดยทั่วไป เหลือจำคุก 4 เดือน และพ้นโทษออกเมื่อปลายปี 2565 โดย นายอมร ได้เล่าเบื้องหลังชีวิตในเรือนจำ ว่าตนต้องพบกับสถานการณ์โรคโควิด-19 ซึ่งกำลังระบาดหนัก จนทำให้ตนติดโรคโควิดภายในเรือนจำ แต่ก็ได้รับการดูแลอย่างดี จากแพทย์ในโรงพยาบาลของกรมราชทัณฑ์ พร้อมทั้งอุปกรณ์เครื่องมือที่ทันสมัย มีบางโรคเท่านั้นที่ต้องส่งตัวไปรักษายังโรงพยาบาลข้างนอก เมื่อรักษาหายเป็นปกติแล้ว นักโทษเหล่านั้นต้องกลับมายังเรือนจำตามเดิม ซึ่งแตกต่างจากนักโทษชายที่ชื่อทักษิณ ชินวัตร

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น