ยังคงกลายเป็นประเด็นที่พูดถึงอย่างกว้างขวาง ภายหลังจากนายทักษิณ ชินวัตร นักโทษคดีทุจริตที่ศาลมีคำพิพากษาถึงสุดแล้ว ให้จำคุกรวม 8 ปี ใน 3 คดี แต่พอเดินทางมาถึงประเทศไทย นายทักษิณกลับไม่ได้รับโทษโดยการติดคุก เพราะถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจ เมื่อกลางดึกของวันที่ 22 สิงหาคม ที่ผ่านมา จนนำไปสู่การวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนาหู ถึงความไม่ชอบมาพากล และความไม่เหมาะสมของขั้นตอน ตั้งแต่ต้น กลางน้ำ และปลายน้ำ
ข่าวที่น่าสนใจ
เช่นเดียวกับ นายสมศักดิ์ โกศัยสุข อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชน เพื่อประชาธิปไตย ยังได้ตั้งข้อสังเกตว่าการกลับมาของนายทักษิณ ดูลุกลี้ลุกลน มีการลัดขั้นตอน และมีการปฎิบัติกับนายทักษิณ เสมือนไม่ใช่นักโทษทั่วไป มีการต้อนรับเป็นอย่างดี แตกต่างจากตน ที่ถูกศาลตัดสินว่าผิดและต้องจำคุก ตนก็พร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมโดยดุษฏี ซึ่งต่างกับนายทักษิณแบบลิบลับ จนวินาทีนี้ ตนไม่เชื่อว่านายทักษิณจะติดคุกจริง และประเด็น การติดคุกของนายทักษิณนั้น ติดจริงหรือไม่ ก็ยังเป็นประเด็นที่สังคมยังคงค้างคาใจ
นายสมศักดิ์ ยังได้เล่าย้อนไปในอดีต เมื่อครั้งที่ตนเริ่มต้นการเปิดหน้าต่อสู้กับระบอบทักษิณ ภายใต้ตัวแทนของกลุ่มสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจ รวม 45 แห่งทั่วประเทศ มีมติให้ร่วมออกมาต่อต้านกับรัฐบาลทักษิณ หลังจากพบว่ามีการทุจริตในทุกขั้นตอน โดยเฉพาะการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ แม้ว่าก่อนหน้านี้นายทักษิณ ได้ลงนามในหนังสือเห็นชอบ ว่าจะไม่มีการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ หนังสือดังกล่าวนั้น ลงนามเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2546 ที่ผ่านมา
แต่ต่อมาภายหลัง พบว่านายทักษิณ กลับฉ้อฉลและมีความพยายามแปรรูปรัฐวิสาหกิจจนสำเร็จอย่างเช่น ปตท. จนประเทศชาติได้รับความเสียหาย จนถูกขนานนามว่าเป็น”นายกตระบัดสัตย์” ไม่เพียงเท่านั้น ยังพบว่าภายใต้รัฐบาลของนายทักษิณ ยังพบการทุจริตอย่างมโหฬาร ในหลากหลายโครงการ เช่น
1. คดีทุจริตโครงการออกสลากพิเศษเลขท้าย 2 ตัว 3 ตัว หรือคดีหวยบนดิน
2. คดีสั่งการให้ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย หรือ Exim Bank อนุมัติเงินกู้สินเชื่อวงเงิน 4,000 ล้านบาทให้แก่รัฐบาลเมียนมา
3. คดีให้บุคคลอื่นถือหุ้นบริษัทชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) แทน และบริษัทชินคอร์ปฯ เข้าเป็นคู่สัญญาของหน่วยงานรัฐ ถือว่ามีส่วนได้เสียในกิจการโทรคมนาคม ทำให้บริษัทชินคอร์ปได้รับประโยชน์
จนนำมาสู่การดำเนินคดีกับนายทักษิณ ซึ่งศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สั่งพิพากษาจำคุก นายทักษิณรวม 8 ปี ทำให้นายทักษิณต้องหลบหนีออกนอกประเทศเป็นระยะเวลากว่า 15 ปี และตลอดระยะเวลากว่า 15 ปีที่ผ่านมา นายทักษิณไม่เคยยอมรับกระบวนการยุติธรรม มักจะมีวาทะกรรมทำลายความเชื่อมั่นของกระบวนยุติธรรมของไทยมาโดยตลอด และป่าวประกาศว่าตน ถูกกระบวนการยุติธรรมกลั่นแกล้ง
ไม่เพียงเท่านั้น นายสมศักดิ์ ยังได้เล่าเบื้องหลังเมื่อครั้งถูกจองจำ หลังตกเป็นผู้ต้องหาคดีบุกรุกทำเนียบรัฐบาล เพื่อขับไข่รัฐบาลในยุคนั้น เมื่อไปถึงเรือนจำ ตนได้เปลี่ยนชุดเป็นชุดนักโทษสีน้ำตาล และถูกกร้อนผม โดยไม่มีการอำนวยความสะดวกใดๆเป็นกรณีพิเศษ อีกทั้งต้องดำรงชีวิตเยี่ยงนักโทษทั่วๆไป
นายสมศักดิ์ ยังเล่าให้ฟังด้วยว่า ในแต่ละวันจะมีการทำกิจกรรมภายในเรือนจำเป็นกิจวัตรประจำวัน เช่น การสวดมนต์ก่อนนอน ทำความสะอาด เรือนนอน และแยกย้ายไปฝึกวิชาชีพตามที่ตนถนัด กระทั่งในเวลานอน เป็นช่วงที่ยากลำบากที่สุด เนื่องจากต้องนอนบนพื้นกระเบื้อง ห้องนอนเป็นห้องสีเหลี่ยมที่แออัด มีผู้ต้องขังมากมาย มีผ้าห่ม 3 ผืน (1 ผืน ไว้ปูรองนอน , 1 ผืนไว้หนุนแทนหมอน และอีก 1 ผืน ไว้ห่ม)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง