3 ก.ย.2566 นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต สส. จังหวัดนครนายก พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) เปิดเผยถึงกรณีที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางตัดสินยกฟ้องในคดีที่ตนได้ฟ้องกรรมการ ทอท. และกลุ่มบริษัท คิงเพาเวอร์ เรื่องจัดเก็บและแบ่งปันผลประโยชน์ตอบแทนจากการจำหน่ายสินค้าปลอดอากรภายในสนามบินสวรรณภูมิไม่เป็นไปตามสัญญา
เนื่องจากไม่ใช่ผู้เสียหายโดยตรงและศาลยังไม่ได้วินิจฉัยเนื้อหาแห่งคดี จึงได้มาแถลงข่าวว่าจะนำคำพิพากษาดังกล่าวส่งให้แก่นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกระทรวงการคลังและรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม เพื่อให้ไปติดตามเงิน 1.4 หมื่นล้านบาทเข้าแผ่นดิน เนื่องจากเป็นผู้มีอำนาจหน้าที่โดยตรง พร้อมกับจะนำเรื่องขึ้นกราบบังคมทูลถวายฎีกาเพื่อให้ทรงทราบถึงสถานการณ์ ทำให้ตนถูกกลุ่มบริษัท คิงเพาเวอร์ ฟ้องร้องกล่าวหาว่าพูดเท็จ หมิ่นประมาท
จากคดีดังกล่าวมีการต่อสู้กันถึง 3 ศาล จนบัดนี้ คดีถึงที่สุด โดยศาลมีคำพิพากษาให้ยกฟ้องแล้ว ซึ่งศาลชั้นต้นได้ตัดสินว่า มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 328 จำคุก 8 เดือน กับให้ลงโฆษณาคำพิพากษาฉบับเต็มในหนังสือพิมพ์ มติชน ข่าวสด เดอะเนชั่น และสยามรัฐ 7 วันติดต่อกัน โดยให้นายชาญชัยเป็นผู้ออกค่าใช้จ่าย
จากนั้นในชั้นอุทธรณ์-ฎีกา ศาลได้ตัดสินว่านายชาญชัยไม่มีความผิด และยกฟ้อง ด้วยเหตุผลว่า การแถลงข่าวล้วนเป็นข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคำพิพากษาของศาล อท. การแจกสำเนาคำพิพากษาเป็นการเผยแพร่คำพิพากษา แม้คำพิพากษาจะพิพากษายกฟ้องเนื่องจากไม่ใช่ผู้เสียหายแต่ศาลก็ยังไม่ได้วินิจฉัยว่ามีการกระทำผิดตามฟ้องและไม่มีการปั้นแต่งข้อความอื่นนอกเหนือไปจากข้อความในคำพิพากษา ถือได้ว่าเป็นการแจ้งข่าวด้วยความเป็นธรรมเรื่องการดำเนินการโดยเปิดเผยในศาลโดยสุจริต ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย
ส่วนการที่จะไปดำเนินการต่อด้วยการทูลเกล้าถวายฎีกาหรือร้องต่อนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกระทรวงการคลังและรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม เพื่อให้มีการตรวจสอบและเอาเงินคืน ก็เป็นเรื่องที่แจ้งให้สื่อมวลชนทราบว่าจะดำเนินการต่อไปเท่านั้น มิใช่เป็นการหมิ่นประมาท