ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนจำคุก 2 ปี 5 วัน “ภูมิ ศศลักษณ์” หนุ่ม 3 นิ้ว ร่วมชุมนุมม็อบ 13 ตุลาคม ปี 63

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนจำคุก 2 ปี 5 วัน "ภูมิ ศศลักษณ์" หนุ่ม 3 นิ้ว ร่วมชุมนุมม็อบ 13 ตุลาคม ปี 63


4 ก.ย.2566 ทวิตเตอร์ TLHR / ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้โพสต์ข้อความระบุว่า ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนจำคุก 2 ปี 5 วัน #ภูมิ ศศลักษณ์ คดีเข้าร่วมชุมนุมกับ #คณะราษฎรอีสาน ใน #ม็อบ13ตุลา เมื่อปี 63

วันนี้ 4 ก.ย. 2566 ศาลเยาวชนฯ นัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ในคดีของ ‘ภูมิ ศศลักษณ์’ จากการถูกฟ้องว่าเข้าร่วมชุมนุมกับ #คณะราษฎรอีสาน ใน #ม็อบ13ตุลา ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2563

ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วยกับคำพิพากษาของศาลชั้นต้นจำเลยกับพวกกระทำผิดตามฟ้อง ลงโทษจำคุกรวม 2 ปี 5 วัน ตามศาลชั้นต้น

แต่พร้อมกันนี้ศาลอุทธรณ์ให้แก้โทษเป็น ‘ไม่เปลี่ยนโทษจำคุก’ เป็นการส่งจำเลยไปควบคุมศูนย์ฝึกอบรม แต่ให้ ‘รอการลงโทษ’ จำคุกไว้ โดยมีกำหนด 2 ปี

โดยให้ควบคุมประพฤติภายในระยะเวลาดังกล่าวภายใต้เงื่อนไข ดังนี้

1.ให้รายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติทุก 4 เดือนและให้ตรวจปัสสาวะ

2. ให้ตั้งใจศึกษาเล่าเรียนนำผลการเรียนมารายงาน หากผลการเรียนไม่ดีให้พนักงานคุมประพฤติรายงานต่อศาล

3. ให้จำเลยไม่คบค้าสมาคมกับบุคคลไม่ดี ควบคุมประพฤติไม่ออกในเวลากลางคืนหรือออกตระเวนราตรีเว้นแต่ได้รับอนุญาตจากผู้ปกครอง

4. ให้จำเลยทำกิจกรรมหรือบริการสาธารณะบำเพ็ญประโยชน์เพื่อสังคมภายในกำหนดเวลา 24 ชั่วโมงภายใน 1 ปี

ข่าวที่น่าสนใจ

 

 

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 2565 เวลา 09.00 น. ศาลเยาวชนและครอบครัวกลางนัดฟังคำพิพากษาคดีของ “ภูมิ ศศลักษณ์” นักกิจกรรมเยาวชนวัย 19 ปี กรณีถูกสั่งฟ้องจากเหตุเข้าร่วมชุมนุมกับ #คณะราษฎรอีสาน ใน #ม็อบ13ตุลา ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2563

ในคดีนี้ พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีเยาวชนและครอบครัว 3 เป็นผู้สั่งฟ้องทั้งหมด 8 ข้อกล่าวหา ประกอบไปด้วย ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 215 มั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กําลังประทุษร้าย ก่อให้เกิดความวุ่นวาย, ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ มาตรา 114, พ.ร.บ.รักษาความสะอาดฯ มาตรา 19, ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 358 ทำให้เสียทรัพย์, มาตรา 368 ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าพนักงาน, มาตรา 391 ร่วมกันใช้กำลังทำร้ายผู้อื่น และมาตรา 140 ร่วมกันต่อสู้ ขัดขวางเจ้าพนักงาน

คดีนี้มีนัดสืบพยานโจทก์และจำเลย เมื่อวันที่ 21 – 23 ก.ย. และ 28 ก.ย. 2565 โดยภูมิตัดสินใจสู้คดีถึงที่สุด โดยยืนยันว่าตนเองไม่ได้มีความผิดตามฟ้อง และได้ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาตั้งแต่ในชั้นสอบสวน

ต่อมาเวลา 10.30 น. ณ ห้องพิจารณาคดีที่ 10 ภูมิและครอบครัวเดินทางมาพร้อมที่ปรึกษาทางกฎหมาย แต่ศาลไม่อนุญาตให้ผู้สังเกตการณ์เข้าไปฟังคำพิพากษาในวันนี้ด้วย โดยแจ้งว่าเป็นมาตรการป้องกันโควิดและอนุญาตเฉพาะคู่ความในคดีเท่านั้น

ศาลให้ภูมิและที่ปรึกษาทางกฎหมายเดินไปฟังคำพิพากษาที่บริเวณหน้าบัลลังก์ โดยศาลพิพากษาให้จำเลยมีความผิดแยกเป็น 3 กรรม ได้แก่ ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เห็นว่าเป็นการชุมนุมที่จำเลยและพวกร่วมกันจัดขึ้นเป็นการมั่วสุมที่มีลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค ลงโทษจำคุก 1 ปี, ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 215 มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย กระทำการให้เกิดความวุ่นวาย และข้อหาทำให้เสียทรัพย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 358 ลงโทษจำคุกรวม 1 ปี ตลอดจนข้อหาไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าพนักงาน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 368 ให้จำคุก 5 วัน รวมลงโทษจำคุก 2 ปี 5 วัน

ศาลเห็นว่าจากรายงานของสถานพินิจ จำเลยควรได้รับการฝึกอบรมเพื่อขัดเกลานิสัยความประพฤติสักระยะหนึ่ง อาจจะเป็นประโยชน์กับจำเลยมากกว่าโทษจำคุก อาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.ศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ.2553 มาตรา 142 (1) เปลี่ยนจากโทษจำคุกเป็นคุมประพฤติ นำตัวไปฝึกอบรมที่ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน เป็นระยะเวลา 6 เดือน ให้จำเลยเรียนต่อให้จบมัธยมศึกษาตอนต้น และจัดให้ฝึกอบรมวิชาชีพ 2 อย่าง

หลังฟังคำพิพากษา ครอบครัวของภูมิตกอยู่ในความเศร้า โดยทั้งหมดเปิดเผยว่าคำพิพากษาของศาลในวันนี้ เป็นสิ่งที่ไม่ได้คาดหวังเอาไว้ เนื่องจาก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ได้ถูกยกเลิกไปแล้ว ทั้งหมดจึงคิดว่าในคดีนี้ศาลจะมีคำพิพากษายกฟ้องให้กับภูมิ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ศาลได้นำตัวภูมิไปที่ห้องควบคุม ซึ่งที่ปรึกษาทางกฎหมายได้ยื่นขอประกันตัวในระหว่างอุทธรณ์คดี โดยแต่งตั้งให้ยายของภูมิเป็นนายประกันทันที

เวลา 15.00 น.ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง มีคำสั่งอนุญาตให้ประกันตัวภูมิในระหว่างอุทธรณ์ โดยวางหลักทรัพย์ประกันเป็นจำนวนเงิน 5,000 บาท จากกองทุนราษฎรประสงค์

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น