เปิดประวัติ “รังนกกระจอก” ห้องทำงานสื่อคู่ทำเนียบรัฐบาล หลังมีข่าว “นายกฯเศรษฐา” เตรียมปรับภูมิทัศน์

เปิดประวัติ “รังนกกระจอก” ห้องทำงานสื่อมวลชนอยู่เคียงคู่ทำเนียบรัฐบาล หลังข่าวว่อน “นายกฯเศรษฐา” เตรียมรื้อก่อนออกมาปฏิเสธไม่เป็นความจริง ขณะทำเนียบปรับภูมิทัศน์รอรับรัฐบาลใหม่ ด้านรองนายกฯ เข้าจับจองห้องทำงานบนตึกบัญชาการแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายจากทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 4 กันยายน ว่า ภายหลังที่มีรายงานว่านายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีได้เดินทางเข้ามาสำรวจพื้นที่ทั้งห้องทำงานบนตึกไทยคู่ฟ้า ตึกบัญชาการ1-2 ตึกสันติไมตรีและบริเวณรังนกกระจอก 1-2-3 และมีดำริว่าอยากใช้ห้องปฎิบัติการสื่อมวลชน 1 หรือ รังนกกระจอก มาเป็นห้องทำงานและห้องประชุมกับบรรดารองนายกฯ และรมต.สำนักนายกฯ ซึ่งล่าสุดนายเศรษฐา ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนแล้วว่า จะไม่เข้าไปจัดระเบียบ หรือเปลี่ยนแปลงอะไร แต่จะดูความเป็นอยู่ของสื่อมวลชน หากจะมีการเปลี่ยนแปลงทุกอย่างต้องดีขึ้น

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ทั้งนี้ เช้าวันเดียวกันนี้ (4 ก.ย.) สื่อมวลชนทุกแขนง ต่างให้ความสนใจ บันทึกภาพห้องพักสื่อมวลชน 1 หรือรังนกกระจอก 1 สถานที่ทำงานแห่งแรกของสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาล ที่ปฏิบัติงานผ่านมามากกว่า 10 รัฐบาล เป็นสัญลักษณ์คู่กับทำเนียบรัฐบาลมาตั้งแต่สมัยพลเอกเกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ อดีตนายกรัฐมนตรี คนที่ 15 โดยได้แสดงความไม่เห็นด้วย ทั้งนี้ห้องปฎิบัติการผู้สื่อข่าว 1 หรือรังนกกระจอก 1 ได้มีการปรับปรุงมาหลายครั้ง โดยเมื่อสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ โดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ได้ต่อเติมชายคาโดยรอบ เพื่อกันแดดและฝน และต่อมาสมัยรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้มีการปรับปรุงเพิ่มเติมในส่วนของหลังคา พื้นทางเดินให้สะดวก และสวยงามขึ้น อีกทั้งยังสามารถให้เจ้าหน้าที่ ผู้ติดตาม ได้มานั่งพักคอยได้

สำหรับความเป็นมาของรังนกกระจอก นั้นเริ่มมีมาตั้งแต่สมัยพลเอกเกรียงศักดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี โดยในสมัยก่อนที่สื่อมวลชนยังมีจำนวนไม่มาก จะมีศาลาพักคอย (เดิม) อยู่ตรงบริเวณประตู 8 ซึ่งปัจจุบันเป็นร้านกาแฟฝึกอาชีพผู้พิการ (60 plus) โครงสร้างของรังนกกระจอกเดิมเป็นอาคารประกอบตึกบัญชาการตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของตึกไทยคู่ฟ้า เป็นตึกทรงแปดเหลี่ยม หลังคามุงกระเบื้อง ซึ่งเป็นสมัยนิยมในขณะนั้น และเมื่อมีการ สร้างตึกบัญชาการใหม่ จึงมีดำริให้ทำเป็นห้องพักของสื่อมวลชน และจากการ มีเสียงจ๊อกแจ๊คจอแจระหว่างการปฏิบัติงานจึงมีการขนาดนามว่า “รังนกกระจอก” ซึ่งปัจจุบัน รังนกกระจอกตั้งอยู่ติดกับตึกนารีสโมสร ซึ่งเป็นห้องแถลงข่าวของรัฐบาล โดยส่วนหนึ่งของตึกนารีสโมสรได้ปรับปรุงห้องทำงานของทีมโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มาเป็นสถานที่ต้อนรับแขกของรองนายกฯและห้องประชุมขนาดเล็ก สมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี

อย่างไรก็ตาม ภายหลังมีข่าวการจะย้ายผู้สื่อข่าวจากรังนกกระจอก และจะปรับปรุง ให้เป็นที่พูดคุยของนายกรัฐมนตรีและรองนายกรัฐมนตรีนั้น ได้เกิดเสียงวิจารณ์อย่างกว้างขวาง ไม่ใช่แค่สื่อมวลชนหรืออดีตสื่อมวลชนแต่บรรดาข้าราชการเก่ารวมถึงนักการเมือง

หลังได้ทราบข่าวได้แสดงความไม่เห็นด้วยเนื่องจากมีสถานที่ที่มีความพร้อมรองรับรองนายกฯ และคณะในการประชุม ทั้งบริเวณห้องประชุมชั้น 3 และชั้น 5 ตึกบัญชาการ 1 รวมถึงตึกภักดีบดินทร์ ด้านหลังตึกไทยคู่ฟ้า และที่ห้อง ภายในตึกนารีสโมสร ที่มีความกว้างขวางและพร้อมรองรับ

ขณะที่ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวจากทำเนียบรัฐบาล ว่า ถึงการจัดเตรียมห้องทำงานของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง โดยในช่วงเช้าที่ผ่านมาได้มีเจ้าหน้าที่ของทำเนียบรัฐบาล ขึ้นไปทำความสะอาด และดูความเรียบร้อย ภายในห้องทำงานบนตึกไทยคู่ฟ้า ว่ามีส่วนไหนที่จะต้องมีการปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงหรือไม่

นอกจากนี้ในส่วนของตึกบัญชาการ 1 ซึ่งเป็นสถานที่ทำงานของรองนายกรัฐบาล และรมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มีรายงานข่าวว่า บรรดารองนายกรัฐมนตรี ได้ส่งคนมาดูห้องทำงาน ซึ่งมีรายงานว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ จะใช้ห้องทำงานที่ชั้น 4 ซึ่งเป็นห้องทำงานเดิมของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ขณะที่พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะใช้ห้องทำงานที่ชั้น 1 ซึ่งเป็นห้องทำงานเดิมของนายดอน ปรมัตถ์วินัย อดีตรองนายกรัฐมนตรีและอดีตรมว.ต่างประเทศ

ด้านนายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศ จะใช้ห้องทำงานชั้น 2 ซึ่งเป็นห้องทำงานของนายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรี ขณะที่นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน จะใช้ห้องทำงานชั้น 2 ซึ่งเป็นห้องทำงานเดิมของนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ อดีตรองนายกรัฐมนตรีและอดีตรมว.พลังงาน

ส่วนนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรีจะใช้ห้องทำงานชั้น 4 ซึ่งเป็นห้องทำงานเดิมของนายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฎ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรีและอดีตรมว.พาณิชย์ ด้านนางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รมต. ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะใช้ห้องทำงานชั้น 2 ของนายอนุชา นาคาศัย อดีตรมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูลรองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย จะใช้ห้องทำงานห้องเดิมที่ชั้น 3 และห้องของผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำพล.อ.ประวิตร ซึ่งอยู่ชั้นเดียวกัน

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น