จังหวัดชัยภูมิ เยียวยาญาติผู้เสียชีวิต 6 ราย รายละ 1.5 ล้านบาท เหตุโศกนาฏกรรม กระบะชนรถอีแต๋นดับยกคัน

เริ่มคุ้มครองวันที่ 30 พฤศจิกายน 2565 สิ้นสุดความคุ้มครองวันที่ 30 พฤศจิกายน 2566 โดยกรมธรรม์ให้ความคุ้มครองต่อความเสียหายต่อชีวิตร่างกายหรืออนามัยของบุคคลภายนอก จำนวน 1 ล้านบาทต่อคน และสำหรับรถยนต์เพื่อใช้ในการเกษตร(อีแต๋น) คันดังกล่าวจากการตรวจสอบพบว่าได้ทำประกันภัยภาคบังคับไว้กับบริษัทอินทรประกันภัย จำกัด(มหาชน)เริ่มคุ้มครอง 19 ธันวาคม 2565 สิ้นสุด 19 ธันวาคม 2566 ทั้งนี้ในการติดตามค่าสินใหม่ทดแทนให้กับครอบครัวญาติของผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้นั้น เบื้องต้นในกรณีรถยนต์กระบะตู้ทึบ(เป็นฝ่ายผิด)ทายาทโดยธรรม ของผู้ขับขี่และทายาทโดยทำของผู้โดยสารที่เสียชีวิตในรถยนต์ที่ใช้เพื่อการเกษตร(อีแต๋น)ทั้ง 6 ราย ซึ่งสำนักงาน คปภ.จังหวัดชัยภูมิ ได้ประสานงานบริษัทประกัน โดยบริษัทตกลงชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรายละ 500,000 บาท จากการทำประกันภัยภาคบังคับ(พรบ.) และการทำประกันภัยรถภาคสมัครใจจากการทำประกันภัยภาคบังคับจะได้รับค่าสินไหมทดแทนรายละ 1 ล้านบาท รวมเงิน ที่ได้รับการชดใช้ค่าสินใหม่ให้กับญาติผู้เสียชีวิตทั้ง 6 รายของรถอีแต๋น จะได้รับเงินครั้งนี้รายละ 1 ล้าน 5 แสนบาท รวม 9 ล้านบาท เพื่อมอบให้ครอบครัวญาติของผู้เสียชีวิตต่อไปในครั้งนี้แล้ว

โดยนายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชารจังหวัดชัยภูมิ ที่เราไม่อยากให้เกิดการสูญเสียชีวิตของชาวชัยภูมิแบบนี้เลยรวมมากถึง 6 ศพ แต่เมื่ออุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกเวลา การทำประกันภัยรถจึงอยากให้กรณีนี้เป็นกรณีศึกษาตัวอย่าง ให้กับชาวจังหวัดชัยภูมิ ทุกคนให้ความสำคัญในการทำประกันภัยรถให้มากขึ้นครบทุกคนที่มีรถใช้ และเป็นจังหวัดนำร่องที่ชาวบ้านอาจจะไม่ทราบว่ารถขนส่งสินค้าการเกษตรประเภทรถอีแต๋น ที่มีทะเบียนรถอีแต๋นถูกต้องสามารถทำประกันภัยรถอุบัติเหตุได้ ซึ่งทาง นายอาณัติ โพธิบัติ ตัวแทนบริษัทอินทรประกันภัย แจ้งว่าการทำประกันรถอีแต๋นไม่เป็นภาระต่อเกษตรกรในพื้นที่คนที่มีรถอีแต๋น หากต้องการทำประกันภัยอุบัติเหตุเสียเบี้ยค่าประกันต่อปีเพียง 97 บาท/ปี เท่านั้น และมีวงเงินคุ้มครองสูงถึง 5 แสนบาทต่อราย ที่ในวันนี้ก็นำมามอบให้ญาติผู้เสียชีวิตของรถอีแต๋นรวม 6 ราย รายละ 5 แสนบาทได้อีกด้วย