“ดร.เจษฎ์” เตือน “ทักษิณ” ควรสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ กลับเรือนจำรับโทษจริง เพื่อความศักดิ์สิทธิ์ของกม.

อ.เจษฎ์ ชี้!! ‘นช.ทักษิณ’ คือจุดเริ่มต้นทำให้ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท แนะควรสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่ทรงพระราชทานอภัยลดโทษ เหลือจำคุกเพียง 1 ปี ด้วยการยอมติดคุกจริง เพื่อความศักดิ์สิทธิ์ ของกฎหมาย อย่าทำตัวเป็นอภิสิทธิ์ชน

จากกรณีราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่พระบรมราชโองการ พระราชทานอภัยลดโทษ “ทักษิณ ชินวัตร” นักโทษเด็ดขาด ตามคำพิพากษาคดีทุจริต จำนวน 3 คดี ซึ่งศาลได้พิพากษาให้จำคุกรวม 8 ปี เหลือโทษจำคุก 1 ปี ขณะที่บรรดา นักกฎหมาย สถาบัน องค์กรต่างๆ รวมถึงนักวิชาการ ต่างออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับขั้นตอนในการรับโทษของ นช.ทักษิณ และวอนให้ทุกฝ่ายเคารพพระบรมราชวินิจฉัย ซึ่งเป็นพระราชอำนาจ ตามที่เสนอข่าวไปนั้น

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ด้าน รองศาสตราจารย์ เจษฎ์ โทณะวณิก นักวิชาการด้านกฎหมาย ได้แสดงความคิดเห็นถึงเรื่องดังกล่าวกับผู้สื่อข่าวท็อปนิวส์ โดยกล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด จุดเริ่มต้นมาจาก นักโทษเด็ดขาดชาย ทักษิณ ชินวัตร มีความคิดที่จะขอพระราชทานอภัยโทษแบบเฉพาะราย ซึ่งโดยปกติตามธรรมเนียมปฏิบัติ จะมีการขอพระราชทานอภัยโทษ 2 ลักษณะประกอบด้วย การขอพระราชทานอภัยโทษแบบทั่วไป และการขอพระราชทานอภัยโทษแบบเฉพาะราย จึงทำให้เวลานี้ มีการพูดถึงเรื่องดังกล่าวอย่างกว้างขวาง และปฏิเสธไม่ได้ว่า นักโทษเด็ดขาดชาติ ทักษิณ คือจุดเริ่มต้นของการทำให้ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท

 

รองศาสตราจารย์ เจษฎ์ ยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมา นช.ทักษิณ คิดแต่เพื่อตัวเอง โดยไม่คิดถึงใคร ว่าจะได้รับผลกระทบอย่างไรบ้าง แม้ว่าก่อนหน้านี้ นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความของ นักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ขอร้องประชาชนคนไทย ไม่ให้วิพากษ์วิจารณ์ หรือออกมาโต้แย้งคัดค้านใดๆ เพราะอาจเป็นก้าวล่วง หรือละเมิดพระราชอำนาจพระมหากษัตริย์ นั้น

แต่ส่วนตัวมองว่า นักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ต้องสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ พระราชทานอภัยลดโทษ ด้วยการน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม อย่างเป็นรูปธรรมด้วยการ ติดคุกจริงเป็นเวลา 1 ปี เพื่อปกป้องกฎหมายให้คงความศักดิ์สิทธิ์ต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"พิพัฒน์" ตรวจเยี่ยมเอกชน ต้นแบบอุตสาหกรรม ผลิตด้วยเทคโนฯ AI พร้อมเร่งนโยบาย up skill ฝีมือแรงงานไทย
ผู้นำปานามาลั่นคลองปานามาไม่ใช่ของขวัญจากสหรัฐ
จีนไม่เห็นด้วยหลังไทยยืนยันไม่มีแผนส่งกลับอุยกูร์ในขณะนี้
"ดีเอสไอ" อนุมัติให้สืบสวนคดี "แตงโม" ปมมีการบิดเบือน บุคคลอื่น-จนท.รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่
"พิพัฒน์" นำถก "คบต." ลงมตินายจ้างต้องยื่นบัญชีชื่อต้องการแรงงานต่างด้าว ให้เสร็จใน 13 ก.พ.68
ส่องรายได้ "ดิว อริสรา" หลัง "ไผ่ ลิกค์" เฉลยชื่อดาราดัง ปมยืมเงินปล่อยกู้ โซเชียลจับตา รอเจ้าตัวชี้แจง
ศาลให้ประกันตัว "หนุ่มลูกครึ่งอินเดีย" ขับรถชนไรเดอร์เสียชีวิต ตีวงเงิน 6 แสนบาท คุมเข้มใส่กำไล EM ภรรยาผู้ตาย ลั่นไม่ให้อภัย
ทบ.ขานรับนโยบายปราบยาเสพติด เพิ่มทหาร 6 กองกำลัง วัดเคพีไอ 10 กพ.-10 มิ.ย.
ซีพีเอฟ ซีพี-เมจิ ร่วมหนุนสระบุรีแซนด์บ๊อกซ์ "รวมพลังสร้างเมืองคาร์บอนต่ำแห่งแรกของประเทศไทย”
สละเรือแล้ว! "ผบ.อิสราเอล" ยื่น "ลาออก" เซ่นเหตุ 7 ต.ค. ไล่แทงกันในเทลอาวีฟเจ็บ 5

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น