“สว.เสรี” ฝากเตือน “นายกฯเศรษฐา” ระวังการใช้อำนาจเอื้อพวกพ้อง ทำงานต้องเป็นไปอย่างมีเหตุผล

"สว.เสรี" ฝาก "เศรษฐา" ระวังการใช้อำนาจเอื้อตัวเอง พวกพ้อง ต้องเตือนตัวเอง ทำงานต้องเป็นไปอย่างมีเหตุผล อย่าใช้อารมณ์ตัดสินใจ วางแนวทางอภิปรายนโยบายรัฐบาล 11 ก.ย.นี้ เตือนรัฐบาลต้องให้ความสำคัญยุทธศาสตร์ชาติ เหตุอยู่ในบทบัญญัติรัฐธรรมนูญปัจจุบัน ไม่ขัดข้องไอเดียออก พ.ร.ก.นิรโทษกรรม

5 ก.ย.2566 เวลา 10.15 น. ที่รัฐสภา นายเสรี สุวรรณภานนท์ สว. ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.)พัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา กล่าวว่า เมื่อวันที่ 4 ก.ย. ได้มีการประชุม กมธ. โดยมีการหารือถึงการแถลงนโยบายของรัฐบาลที่จะมีขึ้นในวันที่ 11 ก.ย. โดยกมธ.ได้วางแนวทางเบื้องต้นให้ผู้สนใจหรือเชี่ยวชาญในแต่ละเรื่องช่วยกันเสนอแนะทิศทาง หรือการทำงานของรัฐบาล ซึ่งจะมีเรื่องสำคัญเกี่ยวกับนโยบายที่หาเสียงไว้ และนโยบายที่จะต้องดำเนินการที่เป็นหน้าที่ของรัฐตามรัฐธรรมนูญ รวมถึงในส่วนของเศรษฐกิจ อย่างนโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ที่จะมีนายสถิตย์ ลิ่มพงษ์พันธ์ สว. ซึ่งเป็นอดีตปลัดกระทรวงการคลัง จะเป็นผู้ดำเนินการ ส่วนนโยบายที่เกี่ยวกับเรื่องการเมือง จะมีข้อห่วงใยเกี่ยวกับเรื่องเสถียรภาพของรัฐบาล เพราะการบริหารรัฐบาลที่มาจากพรรคการเมืองหลายพรรค ในแต่ละพรรคจะมีนโยบายของแต่ตัวเอง

 

ซึ่งจะต้องผสมผสานกันให้สามารถนำไปปฏิบัติได้จริง ข้อสำคัญแต่ละนโยบายนั้นเป็นผลงานของแต่ละพรรค ซึ่งสว.คงจะต้องเสนอแนวทางให้สามารถบริหารรัฐบาลไปได้ด้วยความราบรื่นและนายกฯ ก็ต้องวางแนวทางในการบริหารประเทศ โดยต้องดูนโยบายรัฐบาลและของรัฐเป็นหลัก ต้องนำความรู้ความสามารถเดิมที่บริหารองค์กรภาคเอกชนมาเท่าที่จะทำได้

ข่าวที่น่าสนใจ

 

 

 

เมื่อถามว่าต่างชาติยังเป็นตัวกำกับนโยบายของรัฐบาล นายเสรี กล่าวว่า คิดว่าต่างชาติคงไม่แสดงออกอะไรมาก คงต้องรอดูต่อไป เพราะเป็นเรื่องความมั่นคงที่จะต้องพึ่งระมัดระวัง เพราะในยุคปัจจุบันหลายประเทศ หลายชาติที่เป็นมหาอำนาจพยายามก้าวก่ายแทรกแซงประเทศต่าง ๆ และส่งผ่านมาทางองค์กรภาคเอกชน ที่จะสร้างปัญหาได้เช่น เรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ หรือจัดให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เกิดขึ้น ซึ่งผ่านองค์กรภาคเอกชนที่มีเงินอุดหนุน มีงบประมาณสนับสนุน ตนคิดว่ารัฐบาลพึ่งต้องระมัดระวังและอย่าคล้อยตามเรื่องเหล่านี้

เมื่อถามว่าอยากฝากการบ้านอะไรไปถึงรัฐบาลชุดใหม่บ้าง นายเสรี กล่าวว่า สิ่งที่ระมัดระวังคือการบริหารประเทศ หรือดำเนินการที่เกิดขึ้นในรัฐบาลชุดปัจจุบัน สิ่งสำคัญคือการระมัดระวังตัวเอง เพราะในการทำงานถ้ามัวแต่ระวังคนอื่น แล้วไม่ระวังตัวเองก็อาจจะใช้อำนาจในแนวทางที่มากเกินไป หรือใช้อำนาจไปแนวทางผลประโยน์ ดังนั้นรัฐบาลต้องเตือนตัวเองและระมัดระวังตัวเอง และการทำงานต้องเป็นไปอย่างมีเหตุผล อย่าใช้อารมณ์ตัดสินใจ

 

 

 

“ในช่วงนี้มีการพูดถึงในหลาย ๆ เรื่อง ซึ่งอยู่ในช่วงที่รัฐบาลต้องตัดสินใจ ที่อาจจะกระทบต่อความรู้สึกของประชาชน จึงอยากให้ระมัดระวังการใช้อำนาจของรัฐบาล เพราะในยุคปัจจุบันถูกจับตามองจากพี่น้องประชาชนอยู่แล้ว ดังนั้นการเชื่อมั่นอะไรต่างๆที่จะเกิดขึ้น หากทำด้วยความระมัดระวังแล้วอย่าไปยึดอยู่ผลประโยชน์ของตัวเองและพวกพ้อง ต้องใช้มาตรการทางกฎหมายที่เป็นธรรม ไม่มีการกระทำใดที่ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำ ก็จะไม่ถูกต่อต้านมาก”นายเสรี กล่าว

 

 

 

เมื่อถามถึงนโยบายของรัฐบาลที่มียุทธศาสตร์ชาติกำกับการทำงาน นายเสรี กล่าวว่า ยุทธศาสตร์ชาติเป็นหลักการในการบริหารประเทศอยู่แล้ว และเป็นเรื่องที่รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันได้กำหนดที่จะไม่ให้ใช้อำนาจในการบริหารประเทศที่มากเกินไป ซึ่งจะมีเรื่องของการกำหนดทิศทาง เป็นยุทธศาสตร์มีกระบวนการตรวจสอบที่อาจจะเข้มข้น แนวทางเหล่านี้รัฐบาลก็ต้องให้ความสำคัญด้วย เพราะยังอยู่ในบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญปัจจุบัน ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญที่จะถูกผิดกันได้ในการที่จะต้องดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติที่ถือเป็นเป้าหมายในการบริหารประเทศขั้นสูง ดังนั้นรัฐบาลพึ่งต้องกระทำ อย่างไรก็ตามนายกฯ มีส่วนสำคัญในเรื่องยุทธศาสตร์ชาติอยู่แล้ว ก็อาจจะทำให้เรื่องเหล่านี้ลดน้อยลงไป

 

 

เมื่อถามถึงกรอบเวลาที่เหมาะสมในการอภิปรายในการแถลงนโยบายรัฐบาล นายเสรี กล่าวว่า ก็อยู่ที่สมาชิกว่าจะมีคนสนใจที่จะอภิปรายกี่คน และมีเรื่องอะไรบ้าง ถ้าคนอภิปรายน้อยวันเดียวก็พอได้ แต่ถ้ามีคนอภิปรายเยอะคิดว่า 2 วันก็น่าจะเพียงพอ

 

 

เมื่อถามถึงนโยบายปรองดองที่มีผู้เสนอให้ออก พ.ร.ก.นิรโทษกรรมนักโทษคดีการเมือง นายเสรี กล่าวว่า ในประเด็นดังกล่าวหากเห็นพ้องต้องกัน ไม่ขัดข้องต่อกัน ขอให้ดำเนินการไป อย่างไรก็ดีในประเด็นความขัดแย้งทางการเมืองที่เกิดขึ้นหากจะทำให้เลิกขัดแย้งและบ้านเมืองสงบจริง คนที่กระทำผิดต้องยอมรับผิดในความผิดของตนเอง รวมถึงต้องระบุว่าไม่กลับไปทำผิดในคดีซ้ำอีก

 

 

“ผมเชื่อว่าหากทำได้ จะทำให้เกิดความปรองดอง และความสงบในบ้านเมือง เรื่องความปรองดองในรัฐบาลนั้น ผมมองว่าจากการรวมกันตั้งรัฐบาลและจัดครม.ใหม่ นับว่าเป็นความปรองดองที่เกิดขึ้นได้แล้ว” นายเสรี กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ผู้นำสูงสุดปัดอิหร่านไม่มีกองกำลังตัวแทน
ฮูตีเคลมผลงาน F/A-18 โดนสอยร่วงทะเลแดง
สื่อทำเนียบฯ จัดเต็มฉายาครม.ปี 67 "รัฐบาล (พ่อ) เลี้ยง" นายกฯท่องโพย วาทะแห่งปี "สามีคนใต้"
“ว้าแดง”เหิมหนัก! สั่งคนไทยห้ามเก็บของป่า ชาวบ้านผวา-ซ้อมอพยพถี่ยิบ
เมีย-แม่ยาย หอบเงินล้าน บุกติดสินบนตำรวจ ช่วยผัวค้าเฮโรอีน สุดท้ายถูกซ้อนแผนโดนรวบตัว
ไทยตอนบนอากาศยังหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 12 องศา ใต้เจอฝนฟ้าคะนองบางแห่ง กทม. มีหมอกบางตอนเช้า ร้อนสุด 31 องศา
ฮีโร่โอลิมปิคเหรียญทองน้องอร “ฉายาสู้โวย” ร่วมแข่งขันกีฬาพื้นบ้าน ในงานกีฬาประจำปีอบต.ไทยสามัคคี พร้อมลงแข่งขันตีกอล์ฟบก สร้างความสนุกสนานเฮฮา
"สธ." ยันพบชาวเมียนมา ป่วยอหิวาฯ รักษาฝั่งไทย 2 ราย อาการไม่รุนแรง
สุดทน "พ่อพิการ" ร้อง "กัน จอมพลัง" หลังถูกลูกทรพี ใช้จอบจามหัว-ทำร้ายร่างกาย จนนอน รพ.นับเดือน
สลด กระบะชนจยย.พลิกคว่ำตก "ดอยโป่งแยง" เชียงใหม่ เจ็บตายรวม 13 ราย

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น