จากกรณีราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่พระบรมราชโองการ พระราชทานอภัยโทษ “ทักษิณ ชินวัตร” นักโทษเด็ดขาด ตามคำพิพากษาคดีทุจริต จำนวน 3 คดี ซึ่งศาลได้พิพากษาให้จำคุกรวม 8 ปี เหลือโทษจำคุก 1 ปี ขณะที่บรรดา นักกฎหมาย สถาบัน องค์กรต่างๆ รวมถึงนักวิชาการ ต่างออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับขั้นตอนในการรับโทษของ นช.ทักษิณ และวอนให้ทุกฝ่ายเคารพพระบรมราชวินิจฉัย ซึ่งเป็นพระราชอำนาจ ตามที่เสนอข่าวไปนั้น เช่นเดียวกับ นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ อดีตแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชน เพื่อประชาธิปไตย และเป็นอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม โดยนายไชยวัฒน์ เคยถูกศาลฎีกาพิพากษาสั่งจำคุก ในคดีการชุมนุม ร่วมกับกลุ่มพันธมิตรประชาชน เพื่อประชาธิปไตย เมื่อครั้งบุกรุกทำเนียบรัฐบาล เพื่อขับไล่ระบอบทักษิณ ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนั้น ศาลพิพากษาสั่งจำคุก 8 เดือนโดยไม่รอลงอาญา
"ไชยวัฒน์" อดีตแกนนำ พธม. ชี้!! นช.ทักษิณ ต้องกลับเนื้อกลับตัว ตอบแทนพระมหากรุณาธิคุณ ด้วยการติดคุก
ข่าวที่น่าสนใจ
ทั้งนี้ นายไชวัฒน์ ได้ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวท็อปนิวส์ กรณีที่มีพระราชทานอภัยลดโทษ ให้นักโทษเด็ดขาดชาย ทักษิณ ชินวัตร โดย กล่าวว่า นี่เป็นอีกหนึ่งบทเรียนครั้งสำคัญของประเทศไทย ที่ทุกคนควรนำไปทบทวนและถอดบทเรียนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สำหรับการพระราชทานอภัยลดโทษ นับเป็นพระราชวินิจฉัยส่วนพระองค์ ที่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ พระราชทานให้สำหรับผู้ต้องขัง ที่กระทำความผิด และเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม จากคำพิพากษาจนถึงที่สุดแล้ว ดังนั้น การที่นักโทษเด็ดขาดชาย ทักษิณ ชินวัตร ควรน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่ทรงพระราชวินิจฉัยอภัยลดโทษ จากจำคุก 8 ปี เหลือจำคุก 1 ปี นั้น เหนือสิ่งอื่นใด นักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ต้องกลับเนื้อกลับตัวเสียใหม่ หากยังไม่ได้ปรับตัวใหม่ ยังเป็นนายทักษิณเหมือนเช่นในอดีต ดังเช่นสุภาษิตที่ว่า “สันดอนขุดง่าย สันดานขุดยาก” เชื่อว่าสังคมจะรุมประณาม ขณะเดียวกันโจทย์ใหญ่ของนักโทษชายทักษิณ ตกไปอยู่ที่กรมราชทัณฑ์ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ด้วยเช่นกัน หากไม่สามารถทำให้นักโทษเด็ดขาดชายรายนี้ กลับเป็นคนดีคืนสู่สังคมได้
ไม่เพียงเท่านั้น นายชัยวัฒน์ยังได้ฝากถึงนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ว่าให้จงทำตัวเสมือนเป็นนักโทษชายทั่วๆ ไปอย่ายึดติดกับยศฐาบรรดาศักดิ์ หรือตำแหน่งใดๆในอดีต เพราะในวันนี้ตัวเองตกอยู่ในฐานะเป็นนักโทษเด็ดขาดชาย และที่สำคัญต้องติดคุก ตามกระบวนการยุติธรรมกำหนด ไม่ควรมีข้อเรียกร้องใดๆ นอกเหนือจากสิทธิ์ที่พึงจะได้รับ เมื่อเข้าไปอยู่ในเรือนจำแล้ว จะไม่มีคำว่าอภิสิทธิ์ชน และควรใช้โอกาสในเรือนจำทุกวินาที ในการคิดทบทวนกับสิ่งที่ทำลงไป ตลอดระยะเวลากว่า 15 ปี ปีที่ผ่านมา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง