จากกรณี พันตำรวจเอก ธิติสรรค์ อุทธนผล ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ กับพวกกระทำความผิด “เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด, ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย ฯ” และได้มีการเผยแพร่ในสื่อสาธารณะได้รับรู้โดยทั่วไปว่า ผู้ต้องหาได้มีการครอบครองรถยนต์หรู จำนวน 29 คัน
พันตำรวจโทกรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ แถลงการทำงานหลังจากคดีเกิดขึ้นได้ตรวจสอบฐานข้อมูลในระบบบริหารคดีของพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ พบว่า หนึ่งในคดีที่ส่งอัยการ มี พันตำรวจเอก ธิติสรรค์ เคยเป็นผู้ถือครองครองรถยนต์ ยี่ห้อลัมโบร์กินี รุ่นปี ค.ศ.2014 สีเหลือง หมายเลขตัวถัง ZHWEC1ZD6ELA หมายเลขเครื่องยนต์ L53902610 เป็นคดีพิเศษที่ 199/2560 เป็นมือแรกเพียงแค่ระยะเวลา 1 ปี ก่อนที่จะมีการเปลี่ยนชื่อผู้ครอบครองในเวลาต่อมา
กรมสอบสวนคดีพิเศษจึงได้มีการดำเนินคดีกับ บริษัทนำรถยนต์หรูเข้าที่ตั้งบริษัทอยู่ในประเทศไทย ซึ่งสามารถจับกุมผู้ร่วมกันกระทำความผิดได้ 8 ราย ในฐานความผิดร่วมกันนำรถยนต์ใหม่สำเร็จรูปจากต่างประเทศมาในราชอาณาจักรโดยสำแดงราคานำเข้าเป็นเท็จ ต่ำกว่าราคาซื้อขายที่แท้จริง เพื่อหลีกเลี่ยงการเสียภาษี ในฐานความผิดตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 (มาตรา 27 และมาตรา 115 จัตวา แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2469) พระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 (มาตรา 165 มาตรา 167 แห่งพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2527) และตามประมวลกฎหมายอาญา
กรณีนี้ทำให้รัฐเสียหายคิดเป็นราคาขาด 9,512,525.61 บาท อากรขาด 7,610,020.00 บาท ภาษีสรรพสามิตขาด 19,025,050.27 บาท ภาษีเพื่อมหาดไทยขาด 1,902,505.33 บาท และภาษีมูลค่าเพิ่มขาด 2,663,507.48 บาท ทำให้ภาษีอากรรวมขาด 31,201,083.08 บาท และได้ส่งสำนวนการสอบสวนคดีพิเศษคดีดังกล่าวไปยังพนักงานอัยการแล้วเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2562 สารบบระบุว่าปัจจุบันคดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาของอัยการสูงสุด
พันตำรวจโทกรวัชร์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ กล่าวอีกว่า คดีพิเศษที่กรมสอบสวนคดีพิเศษรับผิดชอบในส่วนที่เกี่ยวกับรถยนต์ราคาแพง (รถหรู)ความผิดที่เกี่ยวกับการสำแดงราคานำเข้าเป็นเท็จต่ำกว่าราคาซื้อขายที่แท้จริงทั้งหมด มีจำนวนทั้งสิ้น 216 คดี และได้สอบสวนเสร็จสิ้นส่งสำนวนการไปยังพนักงานอัยการแล้ว จำนวน 150 คดี หนึ่งในนี้พบ ผกก.โจ้ เป็นผู้ถือครอบครอง จำนวน 1 คดี และอยู่ระหว่างดำเนินการ จำนวน 66 คดี ส่วนรถหรู 29 คันของ ผกก.โจ้ ขณะนี้ได้ทำการเร่งตรวจสอบหลังจากเกิดคดี โดยบูรณาการร่วมกับกรมศุลกากร หากพบฐานความผิดก็จะ ส่งดำเนินคดีไปตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป