จากกรณีเมื่อวันที่ 31 ส.ค.2566 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เปิดเผยกรณี ‘น้ำ วารุณี’ หญิงชาวพิษณุโลก ผู้ต้องขังคดี ม.112 ซึ่งถูกควบคุมตัวอยู่ที่ทัณฑสถานหญิงกลาง ว่า ได้เข้าเยี่ยมวารุณี ที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ โดยการเยี่ยมผ่านจอ โดยวันนี้ถือเป็นวันที่ 11 ของการอดอาหารเพื่อเรียกร้องสิทธิในการประกันตัววารุณีแจ้งว่า มีอาการหายใจถี่ หอบ ปวดท้อง ปวดตามร่างกาย และอ่อนเพลียมาก เมื่อได้รับการตรวจน้ำตาลในเลือดเพิ่มเติม มีค่าน้ำตาลอยู่ที่ 54 มิลลิกรัม/เดชิลิตร (ระดับน้ำตาลของคนปกติอยู่ที่ 70-100 มิลลิกรัม/เดชิลิตร)
วารุณียอมจิบเกลือแร่เพียงเล็กน้อย ยังคงปฏิเสธการดื่มน้ำ รับน้ำเกลือทางเส้นเลือด และยังคงไม่ขับถ่าย ระหว่างการพูดคุยตอบสนองได้ช้า โดยวานนี้ได้รับยานอนหลับ ส่วนยาปรับฮอร์โมนรักษาโรคไบโพลาร์นั้นอยู่ระหว่างการจัดสั่งของโรงพยาบาล
ศูนย์ทนายฯ ยังระบุเพิ่มว่า วารุณีแจ้งว่า แพทย์เป็นห่วงเรื่องไตวายและเรื่องการหายใจ อย่างไรก็ตาม ยังไม่ประสงค์ที่จะรับการรักษาใด ๆจากทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ โดยระหว่างการพูดคุยวารุณีได้เขียนบันทึกไว้ในสมุดว่า
“ข้าพเจ้านางสาววารุณี วีระศักดิ์ ต้องการตรวจและรักษาที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ตามที่ข้าพเจ้าประสงค์” พร้อมทั้งจดเบอร์โทรศัพท์ทนายความ และน้องสาวไว้สำหรับติดต่อในกรณีฉุกเฉิน โดยยังยืนยันอดน้ำและอาหารต่อไปจนกว่าจะได้รับสิทธิในการประกันตัว ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างรอฟังคำสั่งขอปล่อยตัวต่อศาลอุทธรณ์ครั้งที่ 5 (ยื่นคำร้องเมื่อวันที่ 29 ส.ค.66) โดยขอให้ศาลแต่งตั้งบิดา เป็นผู้กำกับดูแล
ต่อมาเมื่อวันที่ 1 ก.ย.2566 ทวิตเตอร์ TLHR / ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้โพสต์ข้อความ ระบุว่า กรณีของ #วารุณี #ผู้ต้องขังคดี112 หลังยื่นประกันตัวอีกครั้ง ใช้หลักทรัพย์ 150,000 บาท
ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งลงวันที่ 31 ส.ค. 66 #ไม่อนุญาตปล่อยชั่วคราว
พิเคราะห์ว่าจำเลยให้การสารภาพ ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุก 1 ปี 6 เดือน มีเหตุอันควรเชื่อว่าจำเลยจะหลบหนี ประกอบกับศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาเคยไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ในระหว่างอุทธรณ์มาหลายครั้ง
ที่จำเลยอ้างว่าเจ็บป่วยนั้น กรมราชทัณฑ์สามารถดูแลจัดการให้ได้ตาม พ.ร.บ.ราชฑัณฑ์ เหตุตามคำร้องไม่มีเหตุจะเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว โดยขณะนี้วารุณีอดอาหารเพื่อประท้วงสิทธิการประกันตัว