"พายุดาเนียล" พัดถล่มกรีซ ตุรกี และบัลแกเรีย เกิดฝนตกหนักที่สุดในรอบหลายปี จนเกิดน้ำท่วมหนัก ล่าสุด รายงานพบผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 12 ราย
ข่าวที่น่าสนใจ
“พายุดาเนียล” ที่เกิดจากอากาศร้อนจัด คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วอย่างน้อย 12 รายในกรีซ ตุรกี และบัลแกเรีย โดยในกรีซ เกิดฝนตกอย่างหนัก หลังเพิ่งจะฟื้นตัวจากไฟป่าที่กินเวลานานหลายสัปดาห์
โดยในเขตแมกนีเซียตอนกลางมีปริมาณน้ำฝนถึง 600 – 800 มิลลิเมตร ภายใน 24 ชั่วโมง ซึ่งนายดิมิทริส เซียโกปูลอส เจ้าหน้าที่อุตุนิยมวิทยากล่าวว่า ฝนตกหนักในครั้งนี้ เป็นปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ตั้งแต่เริ่มมีการบันทึกสถิติในปี 2498
พายุ ดาเนียลได้เข้าถล่มกรีซตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา ทำให้เขตแมกนีเซีย และเมืองโวลอส ที่อยู่ห่างจากเอเธนส์ไปทางเหนือ 300 กิโลเมตร ได้รับผลกระทบอย่างหนัก และมีรายงานหญิงวัย 87 ปี และชายวัย 51 ปี เสียชีวิต เนื่องจาก ถูกกระแสน้ำพัดพาไป
ในเมืองโวลอสเกิดไฟฟ้าดับตั้งแต่เช้าวันอังคาร ขณะที่อาคารและถนนในหมู่บ้านใกล้เคียงได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง จากดินถล่มและน้ำท่วม ส่วนที่ตุรกี ฝนที่ตกอย่างหนักทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 รายในกรุงอิสตันบูล อีกทั้งยังมีผู้เสียชีวิต 5 ราย และสูญหาย 1 รายจากน้ำท่วมที่ถล่มเมืองคีร์กลาเรลี ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ
และที่บัลแกเรีย เมืองตามชายฝั่งทะเลดำ ได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักที่สุดในรอบหลายปี โดย อเล็กซานดาร์ ซาร์ตอฟ หัวหน้าแผนกดับเพลิงระบุว่า ฝนครั้งนี้ตกหนักที่สุดในรอบ 29 ปี โดยปริมาณน้ำฝนภายใน 24 ชั่วโมง เทียบเท่ากับปริมาณน้ำฝนที่ตกรวมหลายเดือน
ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 ราย อีกทั้ง ฝนตกหนักและพายุฝนฟ้าคะนองตั้งแต่ช่วงดึกของวันจันทร์ที่ผ่านมา ทำให้แม่น้ำหลายสายไหลล้น สร้างความเสียหายให้กับสะพาน และตัดการเข้าถึงในพื้นที่ทางตอนใต้ของเมืองชายฝั่งเบอร์กาส
ทั้งนี้ ปัญหาอุทกภัยซึ่งเกิดขึ้นไม่บ่อยนักในพื้นที่ชายฝั่งทะเลดำ กำลังกลายเป็นเรื่องธรรมดามากขึ้นในบัลแกเรีย โดยได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและปัญหาด้านโครงสร้างพื้นฐานที่ไม่มีประสิทธิภาพ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
-