“พิมพ์ภัทรา” เข้ากระทรวงอุตสาหกรรมวันแรก พร้อมลุย 3 นโยบายเร่งด่วน

“พิมพ์ภัทรา” ได้ฤกษ์เข้ากระทรวงอุตสาหกรรมวันแรก ลั่นยุคใหม่ต้องเป็นที่พึ่งและเป็นความหวังให้ “ผู้ประกอบการ-ประชาชน” พร้อมประกาศนโยบายเร่งด่วน 3 เดือนแรก ขณะที่ “เอกนัฏ” นำผู้บริหารรวมไทยสร้างชาติ ร่วมแสดงความยินดี

เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2566 ที่กระทรวงอุตสาหกรรม นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ถือฤกษ์ดีเดินทางเข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวง เพื่อความเป็นสิริมงคล ประกอบด้วยอนุสาวรีย์ พระนารายณ์ ศาลพระภูมิ และพระพุทธรูปที่ตั้งอยู่ภายในอาคาร โดยมี นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมผู้บริหาร ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ของกระทรวงอุตสาหกรรม นำข้าราชการรอให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น ก่อนที่จะรับฟังบรรยายสรุปภารกิจจากผู้บริหารกรมต่าง ๆ ภายใต้สังกัดกระทรวงอุตสาหกรรม

 

 

 

 

 

 

นางสาวพิมพ์ภัทรา กล่าวว่า วันนี้เป็นวันแรกที่ตนได้มีโอกาสเข้ามาทำงานในกระทรวงอุตสาหกรรม ต้องถือว่า เป็นบ้านของข้าราชการกระทรวงอุตสาหกรรมทุกคน ในฐานะรัฐมนตรีเปรียบเสมือนการมาช่วยทำงาน ให้กับข้าราชการ อำนวยความสะดวก และประสานงานให้เป็นไปอย่างราบรื่น เชื่อว่าข้าราชการทุกหน่วยงานต่างมีความมุ่งมั่นและตั้งใจ ทำงานอย่างเต็มที่อยู่แล้ว

ข่าวที่น่าสนใจ

 

 

 

 

ทั้งนี้ความตั้งใจของตนอีกประการหนึ่งก็คือ ไม่อยากให้กระทรวงอุตสาหกรรม เป็นเพียงแค่หน่วยงานที่อำนวยการให้กับผู้ประกอบการเท่านั้น แต่อยากให้เน้นเรื่องการส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการในทุกด้าน โดยเฉพาะการขจัดขั้นตอนต่างๆ ที่ยุ่งยาก เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการลงทุน ของผู้ประกอบการในทุกระดับ

รวมถึงกลุ่มผู้ประกอบการกลุ่มอุตสาหกรรมเอสเอ็มอี ที่ยังคงต้องการการสนับสนุนเรื่องการลงทุน ปัญหาหนี้สิน ต้องหาแนวทางช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็นการพักหนี้ ปลดหนี้ เพื่อสร้างความมั่นคงให้ผู้ประกอบการ อีกทั้งยังมุ่งเน้นในการสร้างภาพลักษณ์เรื่องความเป็นมิตร สร้างรอยยิ้มระหว่างผู้ประกอบการที่มาติดต่อราชการกับข้าราชการ เพื่อให้กระทรวงอุตสาหกรรมเป็นที่พึ่ง ที่หวังของ ประชาชนต่อไป

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวด้วยว่า จากการประชุมกับปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม และข้าราชการในกระทรวงในการหารือแนวทางร่วมกันสำหรับการวางนโยบายการทำงานนั้น เห็นว่าระยะเริ่มต้นเร่งด่วน 3 เดือนแรก ซึ่งมีนโยบายที่สามารถทำได้ทันที โดยเฉพาะการสนับสนุนอุตสาหกรรมใหม่ ที่มีศักยภาพ เพื่อกระตุ้นรายได้มวลรวมของประเทศ ผ่านอุตสาหกรรมเป้าหมาย

 

 

 

 

ทั้งนี้ ประกอบด้วย อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ อุตสาหกรรมหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ อุตสาหกรรมชีวภาพ และอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ อุตสาหกรรมฮาลาล และอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ด้วยการสนับสนุนระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ 4 ภาค ยกระดับทักษะแรงงานขั้นสูง สร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน พร้อมพิจารณาหามาตรการเพื่อส่งเสริมการผลิตและการใช้รถยนต์ไฟฟ้าอย่างแพร่หลายภายในประเทศ มาตรการทางภาษี และการขยายจุดให้บริการชาร์จแบตเตอรี่สำหรับประชาชน

นางสาวพิมพ์ภัทรา กล่าวว่า ขอเน้นย้ำให้ทุกการดำเนินงานมุ่งสู่เป้าหมายอุตสาหกรรมที่ยั่งยืน เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การวางระบบดูแล ควบคุม และกำจัดของเสียในภาคอุตสาหกรรมที่ไม่ส่งผลกระทบต่อชุมชน การใช้พลังงานทางเลือกสู่การเป็น อุตสาหกรรมไบโอชีวภาพ (Bio Circular Economy) ซึ่งจะได้หารือเพื่อขับเคลื่อนให้เกิดต้นแบบอุตสาหกรรมคาร์บอนเป็นศูนย์ (Zero Carbon Industry) ในลำดับต่อไป

 

 

“สำหรับนโยบายดี ๆ ของกระทรวงที่ดำเนินการมาแล้ว ก็จะต้องทำต่อไป เช่น นโยบายอีอีซี ที่ประสบความสำเร็จ และอยากให้ขยายไปทุกภาคของประเทศ เช่น ภาคใต้ ที่ต้องการผลักดันให้อุตสาหกรรมฮาลาล เป็นรูปร่างให้เกิดขึ้นจริง และเน้นภาพลักษณ์ของกรมโรงงานอุตสาหกรรม อยากให้มีรอยยิ้ม ดำเนินการในลักษณะ one stop sevice เพื่ออำนวยความสะดวก ให้กับผู้ประกอบการมาให้เป็นไปอย่างรวดเร็ว” น.ส.พิมพ์ภัทรา กล่าว

สำหรับการเดินทางเข้าทำงานที่กระทรวงอุตสาหกรรมครั้งแรกของ นางสาวพิมพ์ภัทรา มีผู้บริหารของพรรครวมไทยสร้างชาติ มาร่วมแสดงความยินดีและให้กำลังใจด้วย อาทิ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ สส.บัญชีรายชื่อ เลขาธิการพรรค, นายวิทยา แก้วภราดัย สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรค, นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี และโฆษกพรรค , นางพิชชารัตน์ เลาหพงศ์ชนะ สส.ระบบบัญชีรายชื่อ รองเลขาธิการพรรค , นายวิชัย สุดสวาสดิ์ สส.ชุมพร, นายสันต์ แซ่ตั้ง สส.ชุมพร พรรครวมไทยสร้างชาติ รวมทั้งผู้ประกอบการในวงการอุตสาหกรรม และตัวแทนประชาชนจากจังหวัดนครศรีธรรมราช มาร่วมแสดงความยินดีเป็นจำนวนมาก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ฮีโร่โอลิมปิคเหรียญทองน้องอร “ฉายาสู้โวย” ร่วมแข่งขันกีฬาพื้นบ้าน ในงานกีฬาประจำปีอบต.ไทยสามัคคี พร้อมลงแข่งขันตีกอล์ฟบก สร้างความสนุกสนานเฮฮา
"สธ." ยันพบชาวเมียนมา ป่วยอหิวาฯ รักษาฝั่งไทย 2 ราย อาการไม่รุนแรง
สุดทน "พ่อพิการ" ร้อง "กัน จอมพลัง" หลังถูกลูกทรพี ใช้จอบจามหัว-ทำร้ายร่างกาย จนนอน รพ.นับเดือน
สลด กระบะชนจยย.พลิกคว่ำตก "ดอยโป่งแยง" เชียงใหม่ เจ็บตายรวม 13 ราย
“สมศักดิ์” ยกนวดไทยเป็นมรดกชาติ สร้างมูลค่าเศรษฐกิจสุขภาพ เล็งพาหมอนวดโกอินเตอร์ โชว์ฝีมืองาน เวิลด์เอ็กซ์โปโอซาก้า ญี่ปุ่น
ห่ามาแล้ว! “แม่สอด” พบติดเชื้ออหิวาต์ เผยญาติฝั่งพม่าซื้อข้าวมากินด้วยกัน
ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ สั่งตั้งคกก.สอบ "ตร.จราจร" รีดเงินแทนเขียนใบสั่ง
สตม. บุกทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ กลางคอนโดหรูห้วยขวาง รวบ 6 คนจีน อึ้งเจอซิมการ์ด 2 แสนซิม
ครูบาอริยชาติ เชิญชวนพุทธศาสนิกชน ฉลองสมโภช 18 ปีวัดแสงแก้วโพธิญาณ และทำบุญฉลองอายุวัฒนมงคล 44 ปี
กกต.สั่งดำเนินคดีอาญา "ชวาล" ส.ส.พรรคประชาชน ยื่นบัญชีใช้จ่ายเท็จ โทษคุก-ตัดสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น