นายกรัฐมนตรีโอลาฟ ชอลซ์ แห่งเยอรมนี ขึ้นกล่าวกับส.ส. ในสภาว่า เยอรมนีจำเป็นต้องเร่งการไหลเข้ามา ของแรงงานที่มีทักษะจากนอกสหภาพยุโรป โดยใครก็ตามที่อ้างว่า เยอรมนีสามารถผ่านไปได้ แบบไม่ต้องใช้คนงานจากต่างประเทศนั้น นั่นแสดงให้เห็นว่า พวกเขาไม่เคยพูดคุยกับเจ้าของบริษัทขนาดกลาง หรือผู้ดำเนินการโรงพยาบาลเลย ขณะนี้ มีคนงานประมาณ 13 ล้านคนในเยอรมนีจะเกษียณอายุในอีกไม่ถึง 10 ปีข้างหน้านี้แล้ว
ชอลซ์ทำการเรียกร้องไปถึงหน่วยงานราชการ ทั้งในรัฐบาลกลาง และระดับท้องถิ่นว่า ให้ช่วยกันลดข้อจำกัด ของระบบการรับคนเข้าทำงาน ทุกคนควรปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการย้ายถิ่นฐานแรงงานที่มีทักษะ ที่เพิ่งนำมาใช้เมื่อเร็วๆ นี้ เพื่อที่ว่า พยาบาลจากจอร์เจีย หรือผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีจากอินเดีย จะได้ไม่ต้องรอวีซ่าหรือใบอนุญาตทำงาน เป็นเวลานานหลายเดือน อย่างไรก็ดี ในส่วนของการต่อสู้กับคนเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายนั้น รัฐบาลมีความก้าวหน้าในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก
ขณะที่ทางด้านของนายฟรีดริช เมิร์ซ ผู้นำฝ่ายค้านก็ได้กล่าวว่า ในส่วนของการเรียกร้องเรื่องแรงงานนั้น รัฐบาลควรให้มีการกำหนดใช้มาตรการ เพื่อทำให้รายได้จากงาน่าสนใจมากกว่าการจ่ายสวัสดิการ และเพื่อสร้างแรงจูงใจให้พนักงานสูงอายุ รักษางานของตัวเองเอาไว้ ให้เป็นระยะเวลานานขึ้น ขณะที่ในส่วนการเข้าเมืองผิดกฎหมายนั้น ตนยังคงขอยืนยันว่า การเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย ควรถือเป็นปัญหาที่ใหญ่ที่สุดในวาระการประชุมนี้ และควรได้รับการแก้ไขก่อน
ผลสำรวจที่จัดทำในเดือนพฤษภาคมแสดงให้เห็นว่า ชาวเยอรมันส่วนใหญ่ต้องการนโยบายการเข้าเมืองและขั้นตอนการลี้ภัยที่เข้มงวดมากขึ้น พลเมืองชาวเยอรมันประมาณครึ่งหนึ่ง ต้องการให้ประเทศรับผู้ลี้ภัยน้อยกว่าที่ยอมรับในปัจจุบัน ทั้งนี้ 54 เปอร์เซ็นต์ของผลสำรวจชี้ให้เห็นว่า ชาวเยอรมันเชื่อว่าข้อเสียของการเข้าเมืองมานั้น มีมากกว่าผลประโยชน์