คณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย (คสรท.) สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) แถลงการณ์ เรื่อง ประณามการซ้อมทรมานอันขัดหลักสิทธิมนุษยชน ย่ำศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
สืบเนื่องจาก มีการเผยแพร่ภาพจากกล้องวงจรปิดที่สถานีตำรวจภูธร อำเภอเมืองนครสวรรค์ ซึ่งเป็นภาพเหตุการณ์ที่กลุ่มชายฉกรรจ์ ร่วมกันทำร้ายร่างกายและขมขู่ชายคนหนึ่งด้วยวิธีการใช้ถุงพลาสติกคลุมหัว เพื่อทรมานให้ต้องยินยอมทำตามความประสงค์ ของกลุ่มคนดังกล่าวซึ่งทราบภายหลังว่าบุคคลดังกล่าวนั้น เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัด สภ.เมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ ร่วมกันรุมซ้อมผู้ต้องหาคดียาเสพติด โดยใช้ถุงพลาสติกคลุมมัดศีรษะจนเป็นเหตุให้ชายผู้ถูกทำร้ายเสียชีวิตเนื่องจากขาดอากาศหายใจ รวมถึงยังมีการให้ข้อมูลอันเป็นเท็จต่อแพทย์จนส่งผลกระทบต่อการวินิจฉัย
การกระทำดังกล่าว ถือได้ว่าเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นรุนแรง โดยการทรมาน (Torture) ซึ่งเป็นการกระทำที่ขัดต่อหลักการ ตาม “อนุสัญญาต่อต้านการทรมานและการปฏิบัติหรือการลงโทษอื่นที่โหดร้ายไร้มนุษยธรรมหรือที่ย่ำยีศักดิ์ศรี : Convention against Torture and Other Cruel , Inhumanor Degrading Treatment or Punishment : CAT” ซึ่งสมัชชาใหญ่องค์การสหประชาชาติได้รับรองเมื่อวันที่ ๑๐ ธันวาคม ๒๕๒๗ โดยมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๓๐ ซึ่งประเทศไทยได้เข้าเป็นภาคีอนุสัญญาโดยการให้สัตยาบันป็นพันธพหุภาคีนานาชาติที่ประทศไทยต้องยึดถือปฏิบัติเมื่อวันที่ ๒ ตุลาคม ๒๕๕๐ และมีผลบังคับใช้กับประเทศไทยตั้งแต่วันที่ ๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๐ เป็นต้นมา
นอกจากเหตุการณ์ในครั้งนี้แล้ว บ่อยครั้งที่สาธารณชนได้รับทราบถึงพฤติกรรมอันไม่พึงประสงค์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งเป็นต้นทางของขบวนการยุติธรรม ทั้งการร้องเรียนเกี่ยวกับการใช้อำนาจตามกฎหมายที่ไม่ชอบ การรับแจ้งความ การสืบสวน การสอบปากคำ การรวบรวมพยานหลักฐาน การจับกุมผู้ต้องหาและการเปลี่ยนแปลงรูปคดีด้วยหลักฐานอันเป็นเท็จ ซึ่งมักมีข้อกังขาในการใช้อำนาจช่วยเหลือซึ่งกันและกันการซ้อมการทรมานเพื่อให้ผู้ต้องหาหรือผู้ต้องสงสัยรับสารภาพ การประจานผู้ต้องหาต่อสาธารณชนการวิสามัญฆาตกรรม การทำให้สูญหาย เป็นต้น
แน่นอนในทุกสังคม ทุกอาชีพย่อมมีทั้งคนดี และคนไม่ดีปะปนกัน เช่นกันว่า ตำรวจที่ดี ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ด้วยความชื่อสัตย์ สุจริต ในฐานะ “ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์” อย่างแท้จริงนั้นก็มีอยู่ไม่น้อย แต่ตำรวจที่ให้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ ข่มขู่ คุกคาม รีดไถประชาชาชนก็มีให้เห็นบ่อยครั้งเช่นกัน จากพฤติกรรมและกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สภ.เมืองนครสวรรค์ อย่างโหดเหี้ยมอำมหิตป่าเถื่อนย่อมนำมาซึ่งความเสื่อมศรัทธาอย่างรุนแรงต่อสำนักงานตำรวจแห่งซาติ และสร้างความหนักใจต่อตำรวจที่ดี ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่อย่างซื่อสัตย์ สุจริต
คณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย (คสรท.) และ สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) ขอประณามการกระทำอย่างโหดเหี้ยม อำมหิต ของบุคคลดังกล่าว
ดังเหตุผลและปรากฏการณ์ซึ่งพฤติกรรมของการกระทำที่โหดเหี้ยมอำมหิตในครั้งนี้ ก่อนหน้านี้และเพื่อไม่ให้เหตุการณ์เฉกเช่นนี้เกิดขึ้นอีกในอนาคตจึงถึงเวลาแล้ว ที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งฝ่ายนิติบัญญัติ
ฝ่ายบริหารจะต้องเร่งตำเนินการ คือ
๑. ขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตระหนัก และหาทางแก้ไขเรื่องดังกล่าวโดยเร่งด่วน จริงใจในการสอบสวนดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดอย่างจริงจัง โปร่งใส โดยปราศจากการแทรกแซงช่วยเหลือ เพื่อคืนความเป็นธรรมให้กับสังคมโดยเร็วที่สุด ตลอดจนจัดให้มีการคุ้มครองพยานอย่างรัดกุมเพื่อไม่ให้เกิดเหตุข่มขู่ คุกคาม สร้างอันตรายแก่พยาน
๒. ต้องดำเนินการปฏิรูปตำรวจอย่างจริงจังและแก้ไขปัญหากระบวนการยุติธรรมทางอาญาโดยปรับงานสอบสวน งานพิสูจน์หลักฐาน ออกจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อลดปัญหาการรวบอำนาจการ
ดำเนินคดีอาญาชั้นต้น อันส่งผลให้เกิดปัญหาการทุจริต การเรียกรับผลประโยชน์ การสร้างพยานหลักฐานเท็จเป็นต้น
๓. สร้างมาตรการป้องกันระยะยาวโดยตรากฎหมาย และการกำหนดโทษที่รุนแรง เพื่อป้องกันการซ้อมทรมาน การทำให้สูญหายที่เป็นปัญหาด้านการละเมิดสิทธิมนุษยชน และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
ในหลายกรณีที่ผ่านมาจนถึงคดีนี้ จนถูกนานาซาติ เพ่งมองจับตาและวิพากษ์วิจารณ์เสมอมาซึ่งอาจมีมาตรการตอบโต้ที่จะทำให้ประเทศชาติสูญเสียโอกาสในเวทีโลกได้
คณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย (คสรท.) และ สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.)
หวังเป็นอย่างยิ่งว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และรัฐบาล ขบวนการนิติบัญญัติจะให้ความสำคัญ และตระหนักต่อการแก้ปัญหาดังกล่าวในระยะยาวอย่างจริงใจ เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติ และประชาชน และการเคารพในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สืบไป
คณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย (คสรท.)
สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.)
๒๖ สิงหาคม ๒๕๖๔