หอการค้าฯถก”รมว.พิพัฒน์” ฝากการบ้าน 4 เรื่อง แก้ปัญหาแรงงาน

หอการค้าฯ หารือรมว.แรงงาน ฝากการบ้าน 4 เรื่อง แก้ปัญหาด้านแรงงานของประเทศฟื้นเศรษฐกิจไทย ส่วนนโยบายขึ้นค่าแรง 600 บาท ภายในปี 2570 ต้องปรึกษาร่วมกับคณะกรรมการไตรภาคีเพื่อกำหนดแนวทางความเหมาะสม

วันนี้ (8 ก.ย.66) นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการ หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และ ดร.พจน์ อร่ามวัฒนานนท์ รองประธานกรรมการ หอการค้าไทย และประธานคณะกรรมการแรงงานและพัฒนาฝีมือแรงงาน พร้อมด้วยคณะกรรมการแรงงานและพัฒนาฝีมือแรงงาน ร่วมหารือ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกระทรวงแรงงาน ณ สำนักงานหอการค้าไทย

 

ข่าวที่น่าสนใจ

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า การหารือกับหอการค้าฯ ในวันนี้ เพื่อเป็นการรับฟังข้อมูลและข้อเสนอแนะด้านแรงงานในไทย เพื่อนำไปวิเคราะห์และพัฒนานโยบายที่เกี่ยวข้อง ขณะเดียวกันรองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย จะจัดทำ MOU ร่วมกัน 4 กระทรวง ประกอบด้วย กระทรวงมหาดไทย /กระทรวงแรงงาน/ กระทรวงศึกษาธิการ / และกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เพื่อยกระดับและพัฒนาเยาวชนไทยให้เป็นแรงงานฝีมือที่มีประสิทธิภาพและตรงตามความต้องการของตลาดแรงงาน

นอกจากนี้ ก.แรงงาน เห็นด้วยกับข้อเสนอหอการค้าฯ ที่มีการพิจารณาแนวทางการจ้างงานรายชั่วโมงในบางธุรกิจที่สามารถดำเนินการได้ การสนับสนุนแรงงานภาคการท่องเที่ยวให้เพียงพอและสอดคล้องกับการเติบโตของการท่องเที่ยวของประเทศ ควบคู่ไปกับการพัฒนาฝีมือแรงงานไทยส่งออกไปยังต่างประเทศเพื่อนำเงินตราเข้ามาสู่ประเทศ

นายพิพัฒน์ ระบุว่า สำหรับข้อกังวลของภาคเอกชนในฐานะนายจ้างต่อเรื่องการขึ้นค่าแรง 600 บาท ภายในปี 2570 ตามนโยบายของรัฐบาล จำเป็นต้องมีการปรึกษาหารือร่วมกับคณะกรรมการไตรภาคีเพื่อกำหนดแนวทางความเหมาะสมในการขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าวต่อไป

ด้านนายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวภายหลังการหารือร่วมกับกระทรวงแรงงานว่า ที่ผ่านมาภาคแรงงานในไทยเผชิญความท้าทายหลายด้าน ทั้งปัญหาการขาดแคลนแรงงานต่างด้าวในภาคการผลิตและอุตสาหกรรมเข้มข้นที่เป็นปัญหามายาวนานและรุนแรงขึ้นในช่วงวิกฤตโควิด 19 รวมทั้งปัญหาการขาดแคลนแรงงานไทยในภาคบริการและอุตสาหกรรมใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีขึ้นสูง ซึ่งยังไม่สอดคล้องกับผลิตภาพของแรงงานไทยที่ยังต้องเร่งยกระดับทักษะและความรู้ให้ตรงตามความต้องการของตลาดแรงงานที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ตลอดจนทิศทางนโยบายการปรับอัตราตอบแทนค่าจ้างหรือค่าจ้างขั้นต่ำของรัฐบาลที่จำเป็นต้องมีการหารือกับภาคเอกชนเพื่อไม่ให้กระทบต่อความสามารถของผู้ประกอบการ และมีความเหมาะสมกับชีวิตความเป็นอยู่ของผู้ใช้แรงงาน เหล่านี้จึงเป็นสิ่งจำเป็นเร่งด่วนที่ภาครัฐและเอกชนจะต้องสร้างความร่วมมือและทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้กลายเป็นปัญหารื้อรังที่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อเศรษฐกิจไทยในอนาคต

วันนี้ หอการค้าฯ ต้องขอขอบคุณท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานท่านใหม่ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ ที่ได้ให้ความสำคัญกับปัญหาดังกล่าวและเดินหน้าพูดคุยเพื่อหาทางออกร่วมกับหอการค้าฯ ทันทีหลังจากเข้ารับตำแหน่ง เนื่องจากปัญหาด้านแรงงานมีความซับซ้อนและต้องอาศัยหลายหน่วยงานในการบูรณาการการทำงานร่วมกันเพื่อให้มาตรการและแนวทางต่าง ๆ ที่ออกมาสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด เพราะต้องยอมรับว่าที่ผ่านมาแรงงานถือเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศไทยให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง

ดร.พจน์ อร่ามวัฒนานนท์ รองประธานกรรมการ หอการค้าไทย และประธานคณะกรรมการแรงงานและพัฒนาฝีมือแรงงาน กล่าวว่า สถานการณ์เศรษฐกิจไทยอยู่ในทิศทางการฟื้นตัวจากนโยบายการเปิดประเทศหลังการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ถึงแม้จะกำลังเผชิญความท้าทายจากเศรษฐกิจระหว่างประเทศและการส่งออกสินค้าของไทย แต่ภาคธุรกิจท่องเที่ยวและบริการเป็นตัวช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยเติบโตจากรายได้ ปี 2566 คาดการณ์ว่าจะมีรายได้ 2.38 ล้านล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ภาคธุรกิจเอกชนยังประสบปัญหาหลายด้าน อาทิ ปัญหาการขาดแคลนแรงงาน และมีความต้องการแรงงานจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคธุรกิจท่องเที่ยวและบริการ ภาคธุรกิจก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ ภาคธุรกิจอุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร และผู้ประกอบการ SMEs เพื่อรองรับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ

หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ได้เสนอนโยบายเร่งด่วนด้านแรงงานของประเทศไทย เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ ดังนี้
1. นโยบายการปรับอัตราตอบแทนค่าจ้างหรือค่าจ้างขั้นต่ำ โดยภาคธุรกิจเอกชนเห็นด้วยกับการปรับอัตราค่าตอบแทนให้เป็นไปตามสถานการณ์เศรษฐกิจและสังคมของประเทศ เพื่อให้ลูกจ้างมีคุณภาพชีวิตที่ดี โดยใช้กลไกการพิจารณาจากคณะอนุกรรมการพิจารณาอัตราค่าจ้างขั้นต่ำจังหวัดและคณะกรรมการค่าจ้าง (ไตรภาคี) และใช้หลักเกณฑ์การปรับขึ้นอัตราค่าจ้างตามมาตรา 87 แห่ง พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 และองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO)
2. นโยบายแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานไทย ควรกำหนดทิศทางของประเทศไทยในการเจริญเติบโตของภาคธุรกิจเพื่อผลิตกำลังคนในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พร้อมทั้ง บรูณาการหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อจัดทำข้อมูลฐานแรงงานของประเทศไทย (Big Data) และสนับสนุนนโยบายกองทุนเพื่อการปรับปรุงเครื่องจักรและองค์ความรู้ (Knowhow) สำหรับผู้ประกอบการ
3. นโยบายการแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าว ควรมีการจัดทำยุทธศาสตร์และแผนงานนำเข้าแรงงานต่างด้าวระยะยาว พร้อมทั้ง จัดระเบียบการขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าวระบบใหม่ ผ่านศูนย์บริการเบ็ดเสร็จด้านแรงงาน (OSS) และลดขั้นตอนและค่าใช้จ่ายการนำเข้าแรงงานต่างด้าวในอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานเข้มข้น อาทิ ค่าธรรมเนียมการตรวจลงตรา VISA แรงงานต่างด้าว และกำหนดค่าธรรมเนียมการจัดหางาน (Recruitment Fee) ให้ชัดเจน เป็นต้น
4. นโยบายเพิ่มผลิตภาพแรงงาน ควรเพิ่มศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานให้ครบทุกจังหวัดทั่วประเทศ พร้อมทั้งขยายมาตรฐานฝีมือแรงงาน (จำนวน 272 สาขา) และอัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ (จำนวน 129 สาขา) ให้ครอบคลุมทุกสาขาอาชีพ และสอดรับกับอัตราตอบแทนค่าจ้าง และส่งเสริมนโยบาย “คูปองฝึกทักษะ Re-Skill & Up-Skill” เพื่อสามารถไปรับการฝึกทักษะที่ต้องการได้จากผู้ให้บริการฝึกอบรมที่มีคุณภาพ

ดร.พจน์ ระบุว่า เป้าหมายที่ภาคเอกชนอยากเห็นจากรัฐบาล โดยกระทรวงแรงงาน ภายใน ปี 2567 คือ
– อัดฉีดงบประมาณและกำลังคนให้กระทรวงแรงงาน
– คณะกรรมการไตรภาคี ต้องปรับโครงสร้างและบูรณาการการทำงานที่สร้างสรรค์และพัฒนาแรงงานของประเทศไทย
– ยกระดับงานประกันสังคม เพื่อสิทธิประโยชน์ของแรงงานไทย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ขุนเขา ‘ฮว่าซาน’ ่ของจีนสวยสะกดยามห่มหิมะขาว
ทหารพรานจัดกำลังตรวจค้นเก็บกู้บ่วงดักสัตว์ป่า
ผลักดัน ! แรงงานต่างด้าวมากกว่า 100 ราย ออกนอกประเทศ หวั่นเกรงมาสร้างความวุ่นวายในพื้นที่
เมืองคอนน้ำท่วมหนักหลายพื้นที่ หากผลไม่หยุดตกคืนนี้ตัวเมืองอ่วมอรทัยแน่นอน-ในเบื้องต้นนายอำเภอ,นายกเล็กฯจับมือศูนย์ข่าวนคร 24 ชั่วโมงสมาคมสื่อมวลชนและชมรมรถจิ๊ปลุยช่วยชาวบ้านแล้ว-เรียกร้องเจ้าพนักงานที่ดินเด้งตรวจสอบนายทุนถมลำคลองปิดกั้นทางน้ำว่าออกโฉนดที่ดินโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
โซเชียลถามกลับ “พรรคส้ม” รู้ยังมีทหารไว้ทำไม? หลังเกิดเหตุการณ์ "กลุ่มว้าแดงและทหารไทย"
ผบ.สอ.รฝ.ประดับเครื่องหมายเลื่อนยศ นักรบต่อสู้อากาศยาน 46 นาย
‘สามารถ’ คอตกศาลไม่ให้ประกัน เตรียมส่งเข้าเรือนจำ ส่วน ‘แม่’ วางเงิน 5 แสนบาท ได้รับปล่อยตัว
"กองทัพภาคที่ 3" แถลงข่าวแจงพื้นที่ "กองกำลังว้าแดง" ตั้งฐานปฏิบัติการลุกล้ำไทย ยังไม่มีการสำรวจ หรือปักปันเขตแดน
ตึงเครียด! “ว้าแดง” บุกประชิดชายแดนไทย “บิ๊กอ้วน” พูดแล้ว รบ-ไม่รบ
ชาวบ้านเดือดร้อนหนักน้ำท่วมเดือดร้อนแสนสาหัส - หลังนายทุนออกโฉนดที่ดินถมลำคลอง"ห้วยพาน" ปิดกั้นทางน้ำสิ้นเชิง นายกเล็กฯ เบื้องต้นระดมกำลังช่วยเหลือ ที่ร้องเรียนเจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบว่าออกจะโดดที่ดินชอบด้วยกฎหมายหรือไม่แต่กลับ ล่าช้า อึดเหมือนเรือเกลือ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น