คุมคนงาน “บ้านกำนันนก” ค้นจุดซ่อนปืนยิง “สารวัตรแบงค์” รับจงใจทำลายหลักฐาน

คุมคนงาน "บ้านกำนันนก" ค้นจุดซ่อนปืนยิง "สารวัตรแบงค์" รับจงใจทำลายหลักฐาน

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 9 กันยายน 2566 มีรายงานระบุว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวคนงานของกำนันนกรายหนึ่ง เข้ามาที่สำนักงานตำรวจภาค 7 ในลักษณะท่าทางผิดปกติ เนื่องจากขณะที่เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวอยู่นั้น คนงานคนดังกล่าวมีสีหน้าเครียดและร้องไห้ออกมา อาจเป็นอีก 1 ตัวละครที่มีบทบาทในคดีฆ่าตำรวจทางหลวง หลังจากเจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบปากคำเสร็จ และรับสารภาพว่าเอาอาวุธปืนที่ก่อเหตุไปซ่อนไว้แถวหลังบ้านพี่สาว ตำรวจจึงได้นำตัวสวมใส่เสื้อคลุมสีดำ และสวมใส่หน้ากากอนามัยสีขาวปิดบังใบหน้า ขึ้นรถตู้สีขาวของตำรวจออกจากสำนักงานตำรวจภูธรภาค 7

จากนั้นมุ่งหน้าไปที่บริษัทก่อสร้างแห่งหนึ่ง ที่ตั้งอยู่ริมถนนในพื้นที่ อ.เมืองนครปฐม ทั้งนี้ ได้สืบทราบว่านายเก่งคนงานคนดังกล่าว เป็นผู้ที่นำอาวุธปืนยี่ห้อกล็อก ขนาด 9 มม. ห่อด้วยผ้าสีขาวและสีทองคล้ายกับผ้าที่คลุมโต๊ะจีนนั้น โดยสอดคล้องกันกับคืนที่มีงานเลี้ยงสังสรรค์ว่าที่บ้านกำนันนกมีการจัดโต๊ะจีน

ซึ่งชายคนงานดังกล่าวเป็นผู้นำอาวุธปืนไปฝังซ่อนไว้ที่บริเวณกรงหมา ท้ายริมบึงข้างอ่างน้ำประปา เขตตำบลนครปฐม อ.เมืองนครปฐม พบว่า เจ้าตัวใช้เวลาในการหาจุดที่ขุดหลุมฝังประมาณ 5 นาที ก่อนจำได้แล้วขุดลงไป สุดท้ายเจออาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุจริง อยู่ในลักษณะห่อกับผ้าปูโต๊ะจีนและปืนยังขึ้นลำอยู่ ทำให้เจ้าหน้าที่ให้กองพิสูจน์หลักฐานเก็บหลักฐานไว้เพื่อเป็นหลักฐานสำคัญของกลางในคดี

 

 

 

รายงานข่าวแจ้งว่า หลังจากที่คนงานรายนี้ นำอาวุธปืนไปฝังเพื่อเป็นการทำลายหลักฐานอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ จากนั้นได้กลับไปนอนที่บ้านพัก เป็นเวลา 1 คืน โดยนำอาวุธปืนห่อผ้าสีขาวสีทอง และพันด้วยถุงพลาสติกใสวางไว้ที่บริเวณด้านหน้ารถจักรยาน เพื่อรอคำสั่งว่าจะให้ไปทำลายหรือนำไปฝังไว้ที่ไหน

ข่าวที่น่าสนใจ

โดยวันรุ่งขึ้นคนงานจึงได้ขุดหลุมฝังไว้ที่ริมบึงข้างบ่อประปาเขต อ.เมืองนครปฐม แล้วกลับบ้านทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น โดยข้างบ้านยังได้สอบถามเพราะทราบว่านายเก่งทำงานอยู่ที่บ้านกำนันนก แต่เป็นคนไม่ค่อยพูดจา จึงตอบเพียงว่าไม่ทราบ เพราะวันเกิดเหตุนั้นไม่ได้อยู่ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะได้นำตัวกลับมาสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม

 

 

 

 

 

 

 

 

ทั้งนี้มีข้อมูลเพิ่มเติมด้วยว่า เจ้าหน้าที่ได้ขุดพบอาวุธปืน ที่นายธนัญชัย หมั่นมาก หรือ “หน่อง ท่าผา” ใช้ลั่นไกสังหาร พ.ต.ต.ศิวกร แล้ว จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า เป็นอาวุธปืนของเจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นประทวน นายหนึ่งซึ่งทำหน้าที่พลขับ ให้ผู้บังคับการจังหวัดนครปฐม ซึ่งนำมาขายต่อให้นายประวีณ หรือ กำนันนก ก่อนที่ นายประวีณ จะมอบให้ นายธนัญชัย ลูกน้องคนสนิทพกติดตัวไว้ใช้ เพื่อคุ้มกันตนเอง ซึ่งหลังนายธนัญชัย ก่อเหตุเสร็จได้นำอาวุธปืนกระบอกดังกล่าวไปฝากไว้กับคนงานชาวเมียนมา เพื่อให้นำไปฝังซ่อนไว้ใต้กรงสุนัข ส่วนอาวุธปืนอีกกระบอกที่นายธนัญชัย พกติดตัวในวันที่ถูกวิสามัญ นั้น ก็เป็นของ นายประวีน ที่ให้ไว้ใช้พกพาติดตัวเช่นเดียวกัน

 

 

 

นอกจากนี้จากแนวทางสืบสวนของชุดคลี่คลายคดีดังกล่าว ยังพบหลักฐานว่า หลังเกิดเหตุมีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยให้การช่วยเหลือ นายธนัญชัย จริง อีกทั้งยังปล่อยเวลาล่วงเลยนานพอสมควรก่อนจะโทรประสานแจ้งเหตุกับทางสถานีตำรวจท้องที่ จึงทำให้กลุ่มลูกน้องของกำนันนก มีเวลามากพอที่จะจัดเก็บทำลายพยานหลักฐานต่างๆโดยเฉพาะเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุได้ทันก่อนที่ตำรวจท้องที่จะเข้ามาถึง เบื้องต้นได้มีการเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอและร่องรอยลายนิ้วมือแฝง ไว้เป็นดำเนินการตรวจสอบเป็นเรียบร้อยแล้ว

 

อย่างไรก็ตาม ทางด้านพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดเผยความคืบหน้า ผลการสอบสวน เพิ่มเติมว่า สำหรับวัตถุพยานในที่เกิดเหตุหรือมูลเหตุว่า กำนันเป็นคนสั่งยิงจริงหรือไม่ ขณะนี้ เรามีพยานหลักฐาน จากการเร่งสอบปากคำเมื่อวาน ซึ่งน่าจะช่วยยืนยันชัดเจนแล้วว่า คนที่สั่งยิง พ.ต.ต.ศิวกร นั้นคือกำนันนก ถือเป็นประเด็นในสำนวนที่สำคัญ

 

 

วันนี้เราก็ต้องให้ความเป็นธรรม ตราบใดก็ตามที่ศาลยังไม่พิพากษาถึงที่สุดก็ถือว่า เป็นผู้บริสุทธิ์ แต่ว่าในการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อนำเข้าสู่ศาลก็ถือว่าเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ วันนี้ก็มีความก้าวหน้าไปเยอะ คดีนี้ไม่มีอะไรที่ซับซ้อนเพราะว่าพยานหลักฐานนิ่ง ตัวผู้ต้องหาก็นิ่งอยู่แล้ว สิ่งสำคัญที่กำลังทำต่อก็คือการไล่ข้อมูลทั้งหมด เพื่อขยายวงว่าใครเป็นเครือข่ายของกำนันนกบ้าง จะได้ถอนกล้าถอนโคนให้สิ้นซาก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ขุนพล "พท." รุมเจาะยาง "ลุงป้อม" หมายให้ล้มทั้งยืน
"สาว" อัดคลิป สั่งสอนพรรคส้ม ชี้แค่เสี้ยววินาทีคนพิษณุโลกตัดสินใจได้ ว่าไม่เลือก จนต้องพ่ายแพ้
รัฐบาล "อุ๊งอิ๊ง" เหยียบมิดไมล์ ลุยไฟทำเรื่องร้อน ไม่สนแรงเสียดทาน
"เลขาปปง." เผย "บิ๊กโจ๊ก" ยื่นเพิกถอนคำสั่งยึดทรัพย์ "คดีเว็บพนัน" ยันไม่ได้ทำงานช้า ยึดเงิน 4.8 แสนบาท
เวียดนามส่งออก ‘ทุเรียนแช่แข็ง’ ไปจีน 300 ล้านดอลล์ปีนี้
เปิด 2 มุมมอง ผู้เชี่ยวชาญการเมือง เคลียร์ชัด แก้รธน.ปมจริยธรรม ใครได้ ใครเสีย
คนจีนที่เซี่ยงไฮ้เจอไต้ฝุ่นลูกที่สอง
"วันนอร์" เผยแบ่งงาน รองประธานสภาฯทั้ง 2 แล้ว
CEO กุลพรภัสร์ คว้ารางวัล สุดยอดผู้บริหารองค์กรแห่งปี 2024
สะเทือนขวัญ ตร.ตามรวบ "แม็ก" ฆาตกรโหด ลวงฆ่าชิงรถสาวทอม พบประวัติสุดฉาว

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น