พร้อมทำงาน “หมอชลน่าน” ควง “สันติ” เข้ากระทรวงสาธารณสุขวันแรก ประกาศตั้งนโยบาย “คกก.สุขภาพแห่งชาติ”

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ตนต้องขอบคุณที่สื่อมวลชนใช้คำว่าบรรยากาศการกลับมา เพราะตนเคยมีโอกาสมาทำงานที่นี่เมื่อ 10 ปีที่ผ่านมาในฐานะ รมช.สธ. ซึ่งวันนี้ตนได้รับการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็น รมว.สธ. พร้อมกับท่านสันติ จึงต้องขอบคุณทุกท่านที่มาต้อนรับในวันนี้ สำหรับการทำงานที่นี่ ตนมีความตั้งใจและทุกอย่างจะเป็นไปตามนโยบายที่รัฐบาลแถลงต่อรัฐสภา ส่วนนโยบายกระทรวงสาธารณสุขตนจะแถลงภายในวันที่ 22 ก.ย. ซึ่งจะมีนโยบายที่จะต้องทำให้สำเร็จใน 100 วันด้วย

นพ.ชลน่าน กล่าวอีกว่า เรื่องการยกระดับบัตรทอง 30 บาทนั้นเป็นที่ชัดเจนอยู่ในถ้อยแถลงนโยบายของรัฐบาลแล้ว ซึ่งตนขอเน้นย้ำเรื่องคำว่า “30 บาท รักษาทุกโรค” เป็นเพียงชื่อโครงการแต่ไม่ใช่การเรียกเก็บค่าใช้จ่ายจากประชาชน ทั้งนี้ การยกระดับจะต้องยกทุกมิติไม่ว่าจะการส่งเสริมป้องกันโรค การสร้างสุขภาวะดีทั้งจิตใจ จิตวิญญาณ สติปัญญารวมถึงมิติทางสังคม

“เราต้องยอมรับว่าสุขภาพเชิงสังคมมีปัญหามากในบ้านเมืองเรา ก็จะเป็นหนึ่งในนโยบายที่เราต้องดูแลในเชิงระบบทั้งหมด เราตั้งใจว่ามิติสุขภาพที่เรามีส่วนร่วมดูแลภาระงานเราจริงๆ ประมาณ 60-70% แต่ใน 100% เป็นผู้รับผิดชอบมิติสุขภาพเชิงรวม ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขจะเขาไปเป็นแกนหลักขับเคลื่อน เราตั้งใจถึงการตั้งคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ(National Health Security Board) ในนามของภาพใหญ่ โดยที่มีท่านนายกรัฐมนตรีเป็นประธานบอร์ด เพื่อวางแนวขับเคลื่อนนโยบายทั้งหมด ซึ่งจะครอบคลุมทุกกองทุกสุขภาพที่มีความคาบเกี่ยวกันหลายกระทรวง จึงต้องมีแกนกลางมารองรับ” นพ.ชลน่าน กล่าว

เมื่อถามว่าคณะกรรมการชุดดังกล่าวจะครอบคลุมตระกูล ส. ทั้งหมดรวมถึงกระทรวงสาธารณสุขใช่หรือไม่ แล้วจะเกิดความซ้ำซ้อนหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ไม่ซ้ำซ้อนกัน เพราะแต่ละหน่วยงานจะมีกฎหมายแต่ละฉบับโดยมีบอร์ดกลางเป็นผู้ดูแล ซึ่งจะเป็นการร่วมมือจากทุกกระทรวงที่รับผิดชอบงานด้านมิติสุขภาพ โดยมีท่านนายกฯ เป็นประธาน ประกอบกับ รมต.ทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ และมีองค์กรอื่นๆ ทั้งรัฐและเอกชนมาร่วมกัน เพื่อขับเคลื่อนงาน เนื่องจากตอนนี้การทำงานทุกส่วนงานเป็นแบบแยกส่วน การตอบสนองความต้องการด้านสุขภาพจึงยังไม่เต็มที่

เมื่อถามถึงนโยบายกัญชาทางการแพทย์ และจะนำกลับไปเป็นยาเสพติดหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เราเขียนชัดเจนในนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงฯ ที่เน้นการใช้กัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์อย่างครบวงจร ไม่ใช่เฉพาะการรักษาอย่างเดียว ส่วนจะกลับเป็นยาเสพติดหรือไม่ จะต้องไปดูกฎหมาย เพราะตอนนี้กัญชาที่มีค่า THC มากกว่า 0.2% โดยน้ำหนักก็ยังเป็นยาเสพติดอยู่