“บิ๊กโจ๊ก” เผยผลค้น 15 จุดเครือข่าย “กำนันนก” ยึดหลักฐานเพียบ เตรียมสอบขยายผลเอาผิดเพิ่ม

“บิ๊กโจ๊ก” เผยผลค้น 15 จุดเครือข่าย "กำนันนก" ยึดหลักฐานเพียบ เตรียมสอบขยายผลเอาผิดเพิ่ม

วันนี้ ( 13 ก.ย.) พล.ต.อ. สุรเชษฐ หักพาล รองผบ.ตร. แถลงผลการตรวจค้นเป้าหมายที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายกำนันนก ซึ่งตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ตำรวจกองบัญชาการสอบสวนกลาง ตำรวจภูธรภาค 7 รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง ปปท. กรมบัญชีกลาง ปปง. กรมสรรพากร และอีกหลายหน่วยงาน ระดมกำลังเข้าตรวจค้นพื้นที่ใน จ.นครปฐม 15 จุด ซึ่งมีความสำคัญและเชื่อมโยงกับกำนันนก โดยจะนำหลักฐานทั้งหมดไปตรวจสอบ หาความเชื่อมโยงเทียบกับสำนวนการสอบสวน โดยขณะนี้พยานหลักฐานทั้งหมดเพียงพอแล้ว จากนี้ จะขยายไปสู่ส่วนอื่น ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลผลประกอบการธุรกิจรายได้มหาศาล มีการเสียภาษีหรือหลีกเลี่ยงภาษีหรือไม่ เข้าความผิดมูลฐานหรือไม่

และจากการตรวจค้นพบอาวุธปืนทั้งสิ้น 16 กระบอก พบที่บ้านของ จ่าสิบเอกพิสิฐ หรือจ่าอาร์ท 9 กระบอก เป็นปืนของจ่าอาร์ท 3 กระบอก พ่อจ่าอาร์ท 3 กระบอก พี่ชายจ่าอาร์ทอีก 2 กระบอก ส่วนอีก 1 กระบอกเป็นปืนที่ยืมจากราชการมาใช้ มีใบอนุญาตครบทุกกระบอก แต่ต้องตรวจสอบว่าทำไมถึงมีปืนไว้ครอบครองจำนวนมากขนาดนี้ และมีการนำไปก่อเหตุที่ใดหรือไม่ เพราะวันนี้มีพยานหลายคนเข้ามาให้การว่า เคยลงแข่งยื่นซองประมูลงานแล้วถูกยิงข่มขู่ จึงอยากฝากถึงผู้เสียหายที่เคยถูกข่มขู่หรือถูกยิงในเรื่องการประมูล ให้มาพบตนได้ที่ตำรวจภูธรภาค 7 เพื่อจะให้ความเป็นธรรม ขอให้มั่นใจในการทำงานของเจ้าหน้าที่ ส่วนวันนี้วัตถุพยานที่ถูกข่มขู่พบว่า ยังมีนัอยอยู่ แต่ถึงจะมี 1-2 รายก็ถือว่าเป็นคดีได้ ถ้าสอบปากคำแล้วพบว่าถูกข่มขู่และถูกยิงก็เข้าข่ายคดีอาญา

ย้อนเส้นทาง "บิ๊กโจ๊ก-สุรเชษฐ์ หักพาล" คัมแบ็ก Again !

และสิ่งสำคัญที่พบในวันนี้พบรถฟอร์จูนเนอร์ที่ใช้หลบหนีที่มีตำรวจ 2 นาย นั่งไปในรถช่วยกำนันนกหลบหนี ซึ่งพบว่ามีการถอดไฟออกรอบคันเพื่อปกปิดไม่ให้จำได้ ซึ่งรถที่เจอเป็นรถของกำนันนกที่มีคนขับพาออกจากที่เกิดเหตุและนำมาเก็บไว้ที่จุดดังกล่าว หลังพากำนันนกหนีได้นำไปล้างทำความสะอาดทั้งหมดรอบคันและถอดไฟท้ายออกเพื่ออำพรางไม่ให้จดจำได้ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้เก็บดีเอ็นเอไปตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ส่วนเรื่องการไล่กล้องวงจรปิดและการถอดเซิร์ฟเวอร์ต่าง ๆ ตอนนี้ได้เก็บหลักฐานไว้หมดแล้ว คาดว่า พรุ่งนี้ ( 14 ก.ย.) จะได้เห็นภาพในเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมด ขณะเดียวกันได้ตรวจยึดเอกสารทั้งหมด ทั้งเอกสารบัญชีและเอกสารรายละเอียดพื้นที่ เพื่อจำแนกว่าใครจะทำอะไรบ้าง ซึ่งการตรวจสอบเอกสารทั้งหมดคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ เพราะเอกสารค่อนข้างเยอะ หลังตรวจสอบแล้วจะนำพยานหลักฐานทั้งหมดเข้าสู่สำนวนการสอบสวน โดยการบูรณาร่วมกันของกรรมสรรพากร, ดีเอสไอ, ป.ป.ง. รวมถึงกรมบัญชีกลาง ส่วนจะออกหมายจับใครเพิ่มเติมหรือไม่ วันพรุ่งนี้จะได้ความชัดเจน และวันนี้ได้จับกุมภรรยาเลขาฯ นายก อบจ. 1 ราย พร้อมของกลางโพยหวย 14 รายการ ส่วนนายก อบจ.ตอนนี้ยังไม่ติดต่อเข้ามาให้ข้อมูล แต่อย่างไรก็ตาม ก็ต้องเรียกเข้ามาสอบปากคำด้วย


ส่วนบริษัทของคู่เทียบในการร่วมเสนอชื่อประมูลโครงการต่าง ๆ ที่ อ.กำแพงแสน พบว่า เป็นเครือข่ายคู่ธุรกิจของกำนันนกที่มีความเชื่อมโยงกัน มีธุรกิจในลักษณะเดียวกัน ได้งานประมูลจากหน่วยงานของรัฐในลักษณะเดียวกัน แต่อยู่ที่ว่า จะเชื่อมโยงและมีพฤติการณ์ในการข่มขู่คู่แข่ง รวมถึงฮั้วประมูลในลักษณะเดียวกันหรือไม่ ตอนนี้มีข้อมูลอยู่พอสมควรแล้ว ซึ่งข้อมูลทั้งหมดอยู่ที่กรมบัญชีกลาง ตอนนี้ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ทำงาน และความจริงทุกอย่างจะเปิดเผยออกมาทั้งหมด ซึ่งการทำงานบูรณาการแบบนี้จะทำให้เป็นตัวอย่างเพื่อให้หลายพื้นที่ยึดไปเป็นแนวตัวอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการประมูลงานหรือการดำเนินการต่าง ๆ

ส่วนเรื่องการตรวจสอบเส้นทางการเงินที่พบว่า มีเงินโอนเงินเข้าบัญชีตำรวจทั้ง 5 นาย แต่ยังบอกไม่ได้ว่า โอนไปที่ใครบ้าง ต้องรอภาพรวมเส้นทางการเงินทั้งหมดอีกครั้ง ถึงจะได้ความชัดเจน ซึ่งจะทำให้เร็วที่สุดเพราะประชาชนตั้งคำถามเยอะ โดยยืนยันว่า จะทำให้รวดเร็ว เป็นธรรมและเสมอภาค.

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

คึกคักสุดๆ แห่เที่ยวตามรอย "ลิซ่า" ในซีรีส์ The White Lotus 3 ทำยอดจองโรงแรมเกาะสมุยพุ่ง
ผู้ลี้ภัยแอลจีเรียไล่แทงตำรวจในฝรั่งเศส
เต่าทะเลกว่า 6 แสนตัวแห่วางไข่ที่ชายหาดอินเดีย
ฮามาสปล่อย 6 ตัวประกันสุดท้ายภายใต้ข้อตกลงเฟสแรก
‘Super AI Engineer Season 5’ รวมพลังรัฐ-เอกชน-ประชาสังคม ปั้นบุคลากร AI เสริมขีดความสามารถแข่งขันไทย
"ดร.ปณิธาน" ยกพัทยาโมเดล แก้ปัญหา "ชาวอิสราเอล" ล้นเมืองปาย แนะหน่วยมั่นคงบังคับใช้กม.ใกล้ชิด
"อดีตสว.สมชาย" แฉโพย ฮั้วเลือกสว. ชี้เป็นหลักฐาน ดีเอสไอ เร่งนำลากไส้ตัวการใหญ่
‘ทักษิณ’ ปลื้มลงพื้นที่นราธิวาส ในรอบ 19 ปี ปชช.รอต้อนรับ
นายกฯ รับรายงาน ตร.ไทย-กัมพูชา ร่วมมือทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ฝั่งปอยเปต ช่วยเหยื่อคนไทยนับร้อย หลุดพ้น
“เทพไท” เชื่อ 44 อดีตสส.ก้าวไกล ลงชื่อรื้อ แก้ 112 ถูกตัดสิทธิ์ กระทบหนักยิ่งกว่าถูกยุบพรรค

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น