จากเหตุการณ์สะเทือนใจ คนไทยทั้งประเทศในตอนนี้ คงหนีไม่พ้นคดีลูกน้อง “กำนันนก” ยิงสารวัตรทางหลวงเสียชีวิตคาบ้าน ในพื้นที่จังหวัดนครปฐม หลังจากไม่พอใจที่นายตำรวจที่เสียชีวิต ไม่ยอมวิ่งเต้นย้ายตำแหน่ง ให้หลานชายของตัวเอง จนนำไปสู่โศกนาฎกรรมที่นำมาถึงการกวาดล้างผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่น เหตุการณ์ดังกล่าวกลายเป็นที่สนใจของประชาชนทั่วไปในทันที เมื่องานนี้มี “ตำรวจ” หลายนายเข้ามาเกี่ยวข้องและเป็นผู้กระทำผิดเช่นเดียวกัน
ข่าวที่น่าสนใจ
ด้าน พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ (หลวงพี่น้ำฝน) เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม ได้ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวท็อปนิวส์ ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยหลวงพี่น้ำฝน กล่าวว่า รู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่สุดท้ายก็นำมาปลง ตามหลักคำสอนของพระพุทธศาสนา ว่าทุกสรรพสิ่งเกิดขึ้นจาก รัก โลภ โกรธ หลง ซึ่งเหตุการณ์ของกำนันนก เกิดจากการบันดาลโทสะ เชื่อว่าไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น เมื่อมองย้อนกลับไปก็คงฉุกคิดได้ว่า เหตุการณ์แบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้น
เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่า หลวงพี่น้ำฝน รู้จักกับครอบครัวของกำนันนกหรือไม่ ซึ่งหลวงพี่น้ำฝน กล่าวว่า ไม่รู้จักนายประวีณ จันทร์คล้าย หรือกำนันนก เป็นการส่วนตัว แต่รู้จักพ่อของกำนันนก คือนายประโยชน์ จันทร์คล้าย หรือผู้ใหญ่โยชน์ ซึ่งถือว่าเป็นผู้มีจิตเมตตา มักทำบุญทำทานเป็นประจำ โดยครอบครัวของกำนันนก ประกอบธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ทำถนนหนทาง และรับประมูลงานของภาครัฐมาหลายสิบปี ตั้งแต่หลวงพี่น้ำฝนบวชเป็นพระใหม่ๆ
หลวงพี่น้ำฝน ยังกล่าวต่อว่า จากเหตุการณ์ของกำนันนก ทำให้ภาพลักษณ์ของกำนัน ซึ่งถือเป็นผู้นำท้องถิ่นดูแย่ลง จึงขอบิณฑบาตรวิงวอนสังคม โปรดให้ความเป็นธรรมกับกำนันน้ำดีอีกหลายคน ที่ถือว่าเป็นฟันเฟืองสำคัญ ในการปกป้องดูแลประชาชนระดับท้องถิ่นอย่างเข้มแข็งมาโดยตลอด และเป็นผู้เสียสละ อีกทั้งยังนำพาชุมชนก้าวผ่านวิกฤตต่างๆมาได้ ยกตัวอย่างเช่น เมื่อครั้งมีการระบาดโควิด 19
นอกจากนี้ หลวงพี่น้ำฝน ยังได้กล่าวว่าเพิ่มเติม ถึงกรณีที่มีหลายคน กล่าวหาว่าหลวงพี่น้ำฝน คือผู้มีอิทธิพลในวงการพระสงฆ์ โดยหลวงพี่น้ำฝน ปฎิเสธด้วยเสียงหนักแน่นว่า ตนครองสมณเพศเป็นพระสงฆ์ บวชมาหลายพรรษา ยืนยันว่าไม่ใช่ผู้มีอิทธิพล ในวงการพระสงฆ์อย่างแน่นอน เพราะตลอดระยะเวลาของการครองสมณะเพศ ตนได้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ อยู่ในบวรพระพุทธศาสนาอย่างเคร่งครัด ไม่เคยกระทำผิดกฎหมาย หรือกระทำตัวอยู่เหนือกฎหมาย
ซึ่งถ้าหากตนเป็นผู้มีอิทธิพลจริง อย่างที่หลายๆคนกล่าวหานั้น ป่านนี้ก็อาจจะไม่มีหลวงพี่น้ำฝนอย่างที่ทุกคนรู้จัก และขอให้ญาติโยมทั้งหลาย สบายใจได้ว่าหากตนกระทำผิดหรือเป็นพระสงฆ์ผู้มีอิทธิพล ก็จะต้องถูกตรวจสอบอย่างตรงไปตรงไป จากทางเจ้าหน้าที่ของคณะสงฆ์เช่นกัน ในช่วงท้ายของการให้สัมภาษณ์ หลวงพี่น้ำฝนยังได้หยิบยกเหตุการณ์ของกำนันนก เปรียบประดุจดั่งสายน้ำ ที่ไม่มีวันไหลย้อนกลับ และถือเป็นบทเรียนครั้งสำคัญ ที่ให้ทุกภาคส่วนได้นำกลับไปทบทวน ว่าทุกปัญหาต้องแก้ไขด้วยสติ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
-