วันที่ 15 ก.ย.66 นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)หรือ BTSC เปิดเผยถึงกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ได้มีมติชี้มูลความผิด ต่อ ม.ร.ว. สุขุมพันธุ์ บริพัตร ขณะดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กับพวกรวม 12 คน ซึ่งรวมถึง BTSC และผู้บริหาร เกี่ยวกับกรณีการทำสัญญาให้บริการเดินรถ และซ่อมบำรุงโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายตั้งแต่ปี 2555 (“สัญญาจ้างเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย”) นั้น ซึ่งอาจทำให้ กทม. และบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด หรือ KT นำไปเป็นข้ออ้าง ในการไม่จ่ายค่าจ้างเดินรถ หลังจากที่มีคดีความฟ้องร้องจ่ายค่าจ้างเดินรถ และนำไปต่อสู้คดีหลังจากนี้
นายสุรพงษ์ ระบุว่า เข้าใจว่าทางเคที ได้ยกประเด็นนี้ขึ้นมาอยู่แล้ว และไม่ค่อยกังวลใจมากนัก เพราะตนคิดว่าข้อเท็จจริงก็คือข้อเท็จจริง และขณะนี้ยังไม่ได้มีการหารือกับนายชัชชาติ กทม. หรือเคที แต่อย่างใด ซึ่งล่าสุด ที่ทางกทม.ได้เชิญบีทีเอสซี เข้าไปหารือคือ ในเรื่องของค่าจ้างติดตั้งระบบการเดินรถ และหลังจากนั้นยังไม่มีการหารือร่วมกัน
นายสุรพงษ์ กล่าวยืนยันว่า บริษัทดำเนินการโดยสุจริตและทำทุกอย่างอย่างถูกต้อง อีกทั้ง ก่อนทำสัญญาก็มีที่ปรึกษากฎหมายเข้ามาตรวจสอบว่าสามารถดำเนินการได้ และที่สำคัญทางบริษัทมองว่าเป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์กับทุกฝ่าย ประชาชนได้รับความสะดวก และได้ใช้ระบบในราคาที่ไม่สูงมากนัก เพราะหากกทม.ดำเนินการส่วนต่อขยายเองจะทำให้ค่าโดยสารที่เกิดขึ้นสูงกว่าปัจจุบันนี้ พร้อมยืนยันตามที่ นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ได้เคยระบุไว้ว่า สิ่งสุดท้ายที่บีทีเอส จะดำเนินการคือการหยุดเดินรถ และขณะนี้จะยังคงให้บริการประชาชนจนถึงที่สุด