นายกรณ์ จาติกวณิช อดีตหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้าและดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊กเรื่อง ว่าด้วยนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ กับ ภาระทางการคลัง โดยระบุรายละเอียดว่า ระหว่างที่ถกเถียงกันเรื่องนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยเงินดิจิทัล 10,000 บาท ขอให้สังเกตประมาณการสถานะทางการเงินล่าสุดของประเทศให้ดี กระทรวงการคลังเสนอประมาณการชุดนี้ในการประชุมครม.แรกของรัฐบาลเศรษฐา สำหรับใครที่ไม่ชอบดูตารางข้อมูลแบบนี้ ผมขอสรุปประเด็นสำคัญให้ดังนี้
"กรณ์" ห่วงหนี้สาธารณะพุ่ง สวนทางเศรษฐกิจโตช้า ฟันธงเงินดิจิทัล "รบ.เศรษฐา" ต้องกู้มาแจก
ข่าวที่น่าสนใจ
- 1. รายได้รัฐบาลเพิ่มขึ้น
- 2. แต่รายจ่ายเพิ่มขึ้นมากกว่า
- 3. รัฐบาลเลยจะขาดดุลมากขึ้น 3% ของ GDP จากที่เดิมคาดว่าจะลดลงเหลือ 2.8% ในปีหน้า
- 4. ในขณะที่เศรษฐกิจโตช้ากว่าที่คาดไว้เดิม
- 5. ดังนั้นสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP จึงสูงขึ้นมาก คือ 64% จากเดิม 61.35%
นายกรณ์ ระบุอีกว่า ประมาณการใหม่นี้กำลังสร้างความกังวลให้นักเศรษฐศาสตร์อย่างมาก เพราะทุกอย่างมีต้นทุน คือมี ‘ราคาที่ต้องจ่าย’ ซึ่งราคาที่ว่านี้ปรากฏชัดเจนในส่วนของต้นทุนดอกเบี้ยของรัฐบาลที่เพิ่มขึ้น อย่างอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาล 10 ปี ทะลุ 3% ไปแล้ว เพิ่มขึ้นมากว่า 50bps ในช่วงไม่กี่อาทิตย์ที่ผ่านมา และประมาณการนี้ยังไม่ได้รวมนโยบายแจกเงิน 10,000 บาทของรัฐบาล ซึ่งอย่างไรรัฐบาลก็ต้องกู้ หรือยืมรัฐวิสาหกิจมาแจก
อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังระบุอีกว่า วันนี้หนี้รัฐบาลมีอยู่ 11 ล้านล้านบาท รัฐบาลต้องออกพันธบัตรใหม่มาชำระชุดเก่าตลอดเวลา ซึ่งต้นทุนก็จะมีแต่สูงขึ้น เป็นภาระต่องบประมาณมากขึ้น แนวโน้มดอกเบี้ยเราจะสูงขึ้นเรื่อยๆ ด้วยหลากหลายปัจจัย เช่น การส่งออกที่ซบเซา ราคานํ้ามันโลกที่สูงขึ้น รวมไปถึงรายจ่ายภาครัฐจากนโยบาย ‘กระตุ้นเศรษฐกิจ’ ของรัฐบาลใหม่ จุดแข็งของไทยเราคือ เราแทบไม่มีหนี้สกุลเงินต่างประเทศ แต่อย่างไรเราก็เป็นส่วนหนึ่งของระบบเศรษฐกิจของโลก ไม่ระวังไม่ได้ครับ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
-