ศบค.ไฟเขียว เปิดห้าง-ร้านอาหาร ร้านตัดผม-ร้านนวดเท้า

ศบค.ไฟเขียว เปิดห้าง-ร้านอาหาร ร้านตัดผม-ร้านนวดเท้า

แพทย์หญิงอภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศบค. ย้ำว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นประธาน เช้าวันนี้ มีมติเห็นชอบให้ผ่อนคลายมาตรการสกัดกั้นการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยให้ห้างสรรพสินค้า และคอมมูนิตี้มอลล์ รวมถึงร้านอาหารในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดใน 29 จังหวัดเปิดให้บริการได้ แต่ยังต้องอยู่ภายใต้มาตรการเข้มงวดด้านสาธารณสุข รวมทั้งไม่มีการปรับลดจำนวนจังหวัดสีแดงเข้มด้วย โดยให้คงไว้ 29 จังหวัดเท่าเดิม

เปิดห้างสรรพสินค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ร้านอาหาร โดยร้านอาหารที่มีการเปิดเครื่องปรับอากาศนั่งรับประทานในร้านได้ 50% ของจำนวนที่นั่งในร้าน ถ้าไม่เปิดแอร์นั่งได้ 75 % ของจำนวนที่นั่งในร้าน โดยการนั่งรับประทานอาหารในร้านจะต้องฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม

นอกจากนี้ ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมิวนิตี้มอลล์ หรือ สถานประกอบการอื่นที่มีลักษณะคล้ายกัน ร้านสะดวกซื้อ ให้เปิดดำเนินการได้ตามปกติจนถึงเวลา 20.00 น. โดยผู้ให้บริการจะต้องได้รับวัคซีน 2 เข็มแล้ว และจะต้องมีการตรวจคัดกรองด้วยชุด ATK เป็นระยะ

ขณะที่ร้านเสริมสวย ร้านนวด เปิดได้ตามปกติ , สวนสาธารณะ ลานกีฬา สนามกีฬาหรือสถานที่ออกกำลังกาย ที่เป็นพื้นที่โล่งแจ้ง ยกเว้นฟิตเนส และอาคารในสถานศึกษาเปิดได้ตามปกติ แต่ให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการสถานศึกษาพิจารณา

ทั้งนี้ ที่ประชุม ศบค.ยังให้คงจังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด(สีแดงเข้ม) 29 จังหวัด แต่ใช่มาตรการป้องกันโรคส่วนบุคคล Univerasal Prevention พร้อมกันนี้เห็นชอบการรวมกลุ่มทำกิจกรรมที่เดิมกำหนดไม่เกิน 5 คน ขยายเป็น 25 คน

ส่วนการเปิดบริการรถสาธารณะ จะต้องจำกัดจำนวนผู้โดยสารไม่เกิน 75% และพนักงานขับรถจะต้องได้รับวัคซีนแล้ว 2 เข็ม รวมถึงจะเปิดให้เดินทางโดยเครื่องบิน ซึ่งผู้โดยสารจะต้องแสดงเอกสารการฉีดวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 เข็ม หรือผลตรวจโควิด-19 ไม่พบเชื้อ

นอกจากนี้ยังคงพื้นที่ 29 จังหวัดสีแดงเข้มเหมือนเดิม แต่ใช่มาตรการป้องกันโรคส่วนบุคคล Univerasal Prevention ขณะที่เคอร์ฟิวคงเดิมเวลา 21.00-04.00 น. แต่ไม่ห้ามเดินทางข้ามจังหวัด เพียงขอความร่วมมือประชาชนงดเดินทางหากไม่มีความจำเป็น โดยมาตรการผ่อนคลายต่างๆ จะเริ่มมีผลบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.นี้เป็นต้นไป

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เช็กอากาศวันนี้ อุตุฯ เผย 42 จว.ทั่วไทย รับมือฝนฟ้าคะนอง-ลมกระโชกแรง "เหนือ-อีสาน" ลูกเห็บตกบางพื้นที่
ขอแสดงความอาลัย "ธานินทร์ กรัยวิเชียร" อดีตนายกฯ และองคมนตรีใน ร.9 ถึงแก่อสัญกรรม สิริอายุ 97 ปี
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) จีนติด 'หน้าต่างรถไฟอัจฉริยะ' รวมข้อมูลกินเที่ยว
แองเจิล หยิน หวดสถิติใหม่ 28 อันเดอร์พาร์ คว้าแชมป์ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2025 จีโน่-อาฒยา ดีสุดของไทยได้อันดับ 3  แพตตี้-ปภังกร โม-โมรียา อันดับ 4 ร่วม
"พุทธิพงษ์" หนุน "บ้านเพื่อคนไทย" ชี้ควรทำอย่างโปร่งใส กระจายโอกาสถึงผู้มีรายได้น้อยให้ครบทุกภูมิภาค
"อดีตสว.สมชาย" เผย "ท็อปนิวส์" ละเอียดยิบ ขบวนการทุจริต "ฮั้วเลือกสว." ลั่น "ดีเอสไอ" ต้องรับเป็นคดีพิเศษ
"ไทย-กัมพูชา" บุกจับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เมืองปอยเปต พบคนไทยกว่า 100 คน เตรียมส่งกลับประเทศพรุ่งนี้
"จุฬาราชมนตรี" แถลงเตรียมจัดงาน "เมาลิดกลาง แห่งประเทศไทย" ครั้งที่ 59 เริ่ม 18- 20 เม.ย.นี้
จนท.รวบ "หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย" หอบเงิน 15.7 ล้าน เข้าไทย อ้างเล่นพนันได้จากฝั่งปอยเปต
โผล่อีก “หมู่บ้านเขมร” จองแผ่นดินไทย อึ้ง! อุ้มลูกเดินยั้วเยี้ย ตร.เพิ่งจะจับ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น