21 ก.ย.2566 นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึงกรณีที่ โฆษกรัฐบาลได้ออกมากล่าวถึงกระบวนการตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณแผ่นดินของนายกรัฐมนตรี ว่า ในระบบประชาธิปไตยกระบวนการตรวจสอบ เพื่อให้เกิดความโปร่งใสในการปฏิบัติหน้าที่ โดยเฉพาะการใช้งบประมาณแผ่นดิน ถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะไม่เช่นนั้นรัฐบาล นายกรัฐมนตรี ก็จะปฏิบัติหน้าที่ใช้อำนาจโดยอำเภอใจ ไม่สนใจใยดีต่อหลักการความถูกต้อง การเปิดใจรับการตรวจสอบ จะช่วยให้ความสุจริตโปร่งใสมีมากขึ้น รัฐบาลก็ต้องใช้โอกาสเหล่านี้ในการชี้แจงทำความเข้าใจ ส่วนจะฟังได้หรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง โฆษกรัฐบาลไม่ควรคิดว่า นายกรัฐมนตรีจะถูกด้อยค่า หรือมีการจับผิด
“ราเมศ” ชี้ “นายกฯ”บินยูเอ็นความสำเร็จวัดที่ปฏิบัติงานไม่ได้อยู่ที่ “เครื่องบินเช่าเหมาลำ” เชื่อทุกคนคิดได้เหมาะสมหรือไม่ใช้งบเดินทาง 30ล้าน สวน “โฆษกรัฐบาล” อย่าคิดว่าการตรวจสอบนายกฯเป็นการด้อยค่าหรือจับผิด ย้ำ “ปชป.” จะตามเก็บข้อมูลเป็นระยะ
ข่าวที่น่าสนใจ
นายราเมศ กล่าวต่อว่า เชื่อว่าคนไทยทุกคนเห็นด้วยที่นายกรัฐมนตรีได้ไปแสดงบทบาททำหน้าที่การประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 78 (UNGA78) ที่นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา แต่ความเหมาะสมในการใช้งบประมาณในการเดินทางที่มีการใช้งบประมาณถึง 30 ล้านบาทเช่าเครื่องบินเหมาลำเหมาะสมหรือไม่ เป็นเรื่องที่ทุกคนคิดได้ว่าเหมาะสมหรือไม่ เพราะถ้ายึดหลักการประหยัดงบประมาณแผ่นดินดังที่รัฐบาลอ้าง การใช้วิธีการอื่นที่มีความเหมาะสมคงมีอีกหลายแนวทาง การเดินทางด้วยสายการบินปกติที่ไม่ได้มีการเหมาลำ เชื่อว่าไม่ได้ทำให้ศักดิ์ศรีของนายกรัฐมนตรีไทยลดน้อยถอยลง เพราะการร่วมประชุมที่จะประสบผลสำเร็จไม่ได้วัดที่ขบวนการเดินทางที่ใหญ่โตเช่าเหมาลำเครื่องบิน แต่ความสำเร็จอยู่ที่การปฏิบัติหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีที่ไปทำหน้าที่แทนคนไทยทุกคนว่าจะประสบความสำเร็จหรือไม่
นายราเมศกล่าวตอนท้ายว่า ประชาชนฝากคำถามมายังรัฐบาลว่า หากประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง งบประมาณที่ไม่ต้องสูญเสียไปกับการเดินทางที่ใช้งบมหาศาล สามารถนำไปใช้เพื่อการศึกษา จัดหาคอมพิวเตอร์ให้กับเด็กนักเรียนในโรงเรียนที่ยังขาดแคลน ได้กว่า 2000 เครื่อง หากนำงบไปซ่อมแซมบ้านให้กับครัวเรือนที่ด้อยโอกาส ฐานะยากจน ยกตัวอย่างที่สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนจังหวัดทำที่นครสวรรค์ ปี 2566 มีเป้าหมายครัวเรือนที่ด้อยโอกาส ฐานะยากจน รวม 30 ตำบล จำนวน 273 ครัวเรือน งบประมาณรวม 5.7 ล้านบาทเศษ ตกหลังละ 20,000 เศษ กรณีนี้ยกตัวอย่างให้เห็นว่างบประมาณแผ่นดินหากใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชน เป็นเรื่องที่มีความคุ้มค่ามีประโยชน์อย่างแน่นอน ก็อยากให้รัฐบาลได้คิดในส่วนนี้ให้เหมือนกับที่แถลงนโยบายต่อรัฐสภา ว่าจะบริหารราชการแผ่นดินให้มีประสิทธิภาพและโปร่งใส รัฐบาลก็ต้องปฏิบัติให้เห็น
ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์มีการเก็บข้อมูลการทำงานของรัฐบาลเป็นระยะ เพื่อใช้ประกอบในการทำหน้าที่ฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฏร ยึดหลักการตรวจสอบที่สร้างสรรค์ ไม่ใช่ค้านทุกเรื่องแต่จะเป็นฝ่ายค้านที่จะทำหน้าที่ให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชนให้สมบูรณ์ที่สุด และรัฐบาลก็เช่นกันที่ต้องแจงฝ่ายค้านอย่างสร้างสรรตรงไปตรงมา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
-