“รังสิมันต์ โรม” ดันร่างพ.ร.บ.ฉุกเฉิน ฉบับก้าวไกล จี้ถามเพื่อไทย ยังสนับสนุนเหมือนเดิมหรือไม่

รังสิมันต์ โรม เดินหน้าดัน ร่างพ.ร.บ.ฉุกเฉิน ฉบับก้าวไกล หวังคุมอำนาจรัฐบาล ถามเพื่อไทย ยังสนับสนุนเหมือนเดิมหรือไม่หลังเป็นรัฐบาล จี้ หาก นายกฯ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินต้องผ่านอำนาจสภา

เมื่อเวลา 12.00 น. ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย สส.พรรคก้าวไกล แถลงการยื่นร่างพระราชบัญญัติการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.บ.ฉุกเฉิน) สืบเนื่องจากการที่ นายรอมฎอน ปันจอร์ สส.บัญชีรายชื่อ ตั้งกระทู้ถามสดต่อ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งร่างกฎหมายฉบับนี้เคยยื่นไปในสภาสมัยที่แล้ว และเราก็เกือบที่จะผ่านในวาระที่ 1 โดยได้รับความร่วมมือจากพรรคการเมืองฝ่ายค้าน เช่น พรรคเพื่อไทย อีกทั้งการประกาศใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) ถูกประกาศใช้ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มาอย่างยาวนาน และยังถูกในสถานการณ์ทางการเมืองหลายครั้ง

”การประกาศใช้โดยปราศจากการถ่วงดุล และตรวจสอบจากสภา เช่น การประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในสถานการณ์โควิด ถูกใช้ปราบปรามผู้ชุมนุมที่มีความเห็นต่างทางการเมือง จนมีเสียงสะท้อนกลับมาว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มีจุดประสงค์อะไร ต้องการแก้ปัญหาโควิดหรือต้องการใช้ปกป้องผู้มีอำนาจ เราจึงเสนอ พ.ร.บ.ฉุกเฉิน ให้มีกฎหมายที่สภามีอำนาจในการตรวจสอบฝ่ายบริหาร“

ข่าวที่น่าสนใจ

โดยมีรายะละเอียดดังนี้ 1.การประกาศใช้ พ.ร.บ.ฉุกเฉิน ยังคงอำนาจให้นายกรัฐมนตรีเป็นผู้ประกาศใช้ได้ แต่มีเงื่อนไขว่า การประกาศนั้น จะต้องมีการขออนุมัติจาก ครม. ภายใน 3 วัน และจะต้องขออนุมัติจากสภาภายใน 7 วัน เพื่อให้ สส. อนุญาตให้รัฐบาลใช้กฎหมายจำกัดสิทธิเสรีภาพ ตามหลักการพื้นฐานของระบอบประชาธิปไตย

2.ในการขออนุมัติจากสภา รัฐบาลต้องทำแผนการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน จะแก้วิกฤตอย่างไร เมื่อไหร่

3.พ.ร.ก.ฉุกเฉินฉบับปัจจุบัน ศาลปกครองไม่มีอำนาจในการเข้ามาตรวจสอบ แต่ พ.ร.บ.ฉุกเฉิน ฉบับก้าวไกล ให้อำนาจกับประธานสภา ผู้ตรวจการแผ่นดิน คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ในการร้องไปยังศาลปกครอง หากต้องประกาศ

4.สามารถดำเนินคดีต่อเจ้าหน้าที่หรือผู้มีอำนาจ หากการใช้อำนาจทำให้เกิดความเสียหาย

นายรังสิมันต์ กล่าวย้ำว่า หลักการที่เราเสนอใน พ.ร.บ.ฉุกเฉิน ฉบับก้าวไกล คือหลักการสากลที่ประเทศไทยของเราควรจะมี และจะนำไปสู่การคุ้มครองสิทธิเสรีภาพควบคู่ไปกับการใช้อำนาจพิเศษ ซึ่งเราเข้าใจว่าบางครั้งก็จำเป็นต้องมีในสถานการณ์ที่เราอาจจะไม่สามารถคำนวณหรือคาดคะเนได้ตลอดเวลา และคาดหวังว่ากฎหมายฉบับนี้จะได้รับการสนับสนุนจากเพื่อนสส. โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย ที่ก่อนหน้านี้เคยให้การสนับสนุนร่างกฎหมายฉบับนี้ไปแล้ว และหวังว่าการที่พรรคเพื่อไทยไปเป็นรัฐบาลในวันนี้ จะไม่ทำให้จุดยืนของพรรคเพื่อไทยที่เคยมีต่อจดหมายฉบับนี้เปลี่ยนไป

นายรอมฎอน แถลงด้วยว่า ตนเห็นใจ นายสมศักดิ์ ที่ต้องตอบคำถามนี้หลังรับตำแหน่งได้เพียงไม่นาน ท่านยังไม่ชัดเจน ขอเวลา แต่ตนต้องการย้ำว่า คนในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ อยู่ในเขตปกครองพิเศษไม่เคยรู้จักความชอบธรรม หลักนิติ สภาต้องทำให้ประชาชนชายแดนได้รับการปฎิบัติ เคารพสิทธิเสรีภาพ หวังว่า สส.ชายแดนใต้ 12 คน จะทำให้เป็นฉันทามติร่วมกัน เปลี่ยนโฉมประเทศ

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า การใช้ ร่างพ.ร.บ.ฉุกเฉิน ฉบับก้าวไกล เป็นการบังคับใช้หรือตามสถานการณ์ นายรังสิมันต์ เผยว่า ฉบับนี้เป็นจุดเริ่มต้นในการอาศัยเครื่องมือเป็นของสภา เมื่อเห็นชอบประกาศใช้อำนาจ หากรัฐบาลต้องการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน แต่ต้องมีแผนชัดเจนจะแก้อย่างไร ไม่ให้อำนาจพิเศษอยู่กับรัฐบาล ส่งเสริมให้รัฐบาลทำงานโปร่งใส

ส่วนกรอบการขยายเวลาที่ลดจาก 60 วัน เหลือเพียง 30 วัน ยืนยันว่า ไม่สั้น หากมี สส. ขัดขวางการทำงานของรัฐบาล จะโดนสังคมตัดสินเอง อีกทั้งคนที่ทำหน้าที่รัฐบาลมีเสียงข้างมากในสภา ไม่สามารถประวิงเวลาได้ เป็นการเปิดเผยให้ประชาชนเข้าใจการทำงานของรัฐบาล เลิกสวดมนต์หาทางออกเอง ส่วนหากมีเหตุฉุกเฉินจึง สามารถผ่าน ครม. ได้ ไม่ต้องผ่านสภา

เมื่อถามว่า ได้คุยกับพรรคเพื่อไทยถึงการทำร่าง พ.ร.บ.ฉุกเฉิน ฉบับก้าวไกล หรือยัง นายรังสิมันต์ เผยว่า ไม่ได้คุยเป็นทางการ แต่ส่งสัญญาณถึงจุดยืนของพรรคก้าวไกล “ร่างนี้คล้ายร่างเดิมที่พรรคเพื่อไทยเคยเห็นชอบตอนเป็นฝ่ายค้านด้วยกัน สถานการณ์ต่างแค่ปัจจุบันเพื่อไทยเป็นรัฐบาล”

ทั้งนี้ หวั่นจะมีความขัดแย้งกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายรอมฎอน ย้ำว่า ต้องลุ้นรัฐบาลจะเอายังไง มีแผนอะไร คิดอะไรอยู่ รัฐบาลพลเรือนมาจากเลือกตั้ง จะกล้าหาญแก้กฎหมายบริหารสถานการณ์ความมั่นคงหรือไม่ ตนอยากทำให้ดีขึ้น รวมทั้งกฎอัยการศึกต้องรื้อใหม่ ให้ทันสมัยมากขึ้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สมาคมผู้อาสาสมัครช่วยการศึกษา และ คัดเลือกพ่อตัวอย่างแห่งชาติ ร่วม ลงนามถวายพระพร หน้าพระรูปสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี
สารวัตรชาติ นายตำรวจน้ำดี เจ้าของแหวนอัศวิน นำคณะจัดอบรม หนี-ซ่อน-สู้ เอาตัวรอดเมื่อเผชิญเหตุร้าย
"แพนเค้ก" ร่วมชมการแสดง​โขนมรดกชาติ ได้รับรองจาก UNESCO ฉลองครบ 6 รอบ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ไม่รอด จนท.สกัดจับ "พ่วง 18 ล้อ" ดัดเเปลงเสริมถังน้ำมัน "ลอบขนน้ำมันเถื่อน" จากประเทศเพื่อนบ้าน
ระทึก ม้าเหล็กขยี้รถเก๋ง โค้ชฟุตบอลอะคาเดมี่รอดปาฏิหาริย์
"พิพัฒน์" ห่วงแรงงานไทย นำคณะ ถก "ระบบบำนาญสวีเดน" สร้างมาตรฐาน พัฒนาบริการผู้ประกันตน-รองรับสังคมสูงอายุ
คลังเลือดสำรองไม่พอ! "สภากาชาดไทย" เชิญชวนบริจาคเลือด ช่วยชีวิตผู้ป่วยทั่วประเทศ
ตร.จ่อเชิญ ‘เจ๊อ้อย’ สอบปากคำเพิ่ม ปมตั้ง ‘ทนายตั้ม’ จัดการมรดก
บอร์ดกลั่นกรอง เคาะโผนายพล ชงก.ตร.พรุ่งนี้
กอ.รมน.พาเปิดประวัติ ชมเครื่องปั้นดินเผา ณ ศูนย์ศิลปาชีพ พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ นราธิวาส ร่วมต่อยอดช่างฝีมือไทย

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น