กลายเป็นประเด็นร้อนที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่าหนักหลังนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวบลูมเบริก์ทีวีหากนายทักษิณ ชินวัตร พ้นโทษจะให้มีบทบาทในรัฐบาลนี้ โดยอาจจะดำรงตำแหน่งประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีใหม่ในรัฐบาลชุดนี้
ทั้งนี้ทันทีที่การสัมภาษณ์ของนายเศรษฐาออกสู่สาธารณชนเกิดคำถามมากมายว่า เป็นเรื่องเหมาะสมแล้วหรือไม่ที่นายเศรษฐาจะตั้งนายทักษิณเข้ามามีบทบาทในรัฐบาลแม้ในฐานะประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะบรรดาแกนนำพรรคเพื่อไทยอย่างนายภูมิธรรม เวชชยะ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ออกมาแซ่ซ้องว่า “ผมคิดว่าเป็นไปได้ ถ้าเป้าหมายอยู่ที่ประเทศชาติดีขึ้น เพราะการบริหารราชการแผ่นดินนายทักษิณมีประสบการณ์ สามารถบริหารมา 6 ปีต่อเนื่อง ตนคิดว่าเป็นเรื่องที่ดี ถ้าหากมีความร่วมมือและรับฟังความคิดเห็นจากท่านไป”
ขณะที่มุมมองอีกฝั่งนึงอย่างนายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ออกมาเห็นแย้งว่า ไม่มีความจำเป็น เพราะมีอดีตนายกรัฐมนตรีหลายคนที่ควรพบและขอคำปรึกษาได้ เช่น นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์, นายชวน หลีกภัย, นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ,นายอานันท์ ปันยารชุน แม้กระทั่งน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ดังนั้นควรให้นายทักษิณอยู่นอกตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีในรัฐบาลนี้จะดีกว่า
“ผมคิดว่าเร็วเกินไปที่นายเศรษฐาจะมาตอบว่าจะให้นายทักษิณมาเป็นที่ปรึกษารัฐบาล เพราะเรื่องนี้จะกระทบความเชื่อมั่น กระทบกระบวนการยุติธรรม และความศรัทธาต่อการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ถ้าเป็นไปได้ก็อย่าไปตั้งเลย ขอคำปรึกษาอย่างไม่เป็นทางการดีแล้ว”
การแต่งตั้งนายทักษิณเป็นประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีครั้งนี้มีการมองกันว่าอาจเป็นการเปิดทางให้เจ้าของรัฐบาลตัวจริงเข้ามาบริหารประเทศอย่างเต็มตัว แม้ในฉากหน้าจะเป็นแค่ตำแหน่งประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีเท่านั้น แต่ในฉากหลังคนในประเทศไทยรู้ดีว่า นายทักษิณคือตัวจริง