“บีเอเอสเอฟ” จัดเสวนา คาร์บอนฟุตพรินท์ผลิตภัณฑ์ส่วนผสมอาหารคน-สัตว์ เสริมสร้างโปร่งใสลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

บีเอเอสเอฟ จัดงานเสวนา “Sustainability Forum” ว่าด้วยความสำคัญในการจัดทำคาร์บอนฟุตพรินท์ของผลิตภัณฑ์ที่ใช้เป็นส่วนผสมในอาหารและโภชนาการ เพื่อส่งเสริมการสร้างความโปร่งใสในปริมาณการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในผลิตภัณฑ์อาหาร เครื่องดื่ม และอาหารเสริม เนื่องจากสภาวะการเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน เป็นหนึ่งในความท้าทายใหญ่ที่สุดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ที่กลุ่มธุรกิจของบีเอเอสเอฟได้ตระหนักและให้ความสำคัญในการสร้างความร่วมมือกับภาครัฐและพันธมิตรทางธุรกิจ “ลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์” เพื่อสร้างอนาคตที่ยั่งยืน

ทั้งนี้บีเอเอสเอฟ และมุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นศูนย์ภาย (Net Zero) ในปี ค.ศ. 2050 (ขอบเขต 1 และ 2) โดยส่งเสริมการมีส่วนร่วมและรับผิดชอบในการเป็นผู้กำหนดการเปลี่ยนแปลงไปสู่สังคมที่เป็นกลางทางคาร์บอน และขั้นตอนสำคัญประการหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงนี้ คือการสร้างความโปร่งใสในการเข้าถึงค่าคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงตลอดห่วงโซ่คุณค่า

 

 

คุณรสจันทร์ โลหะกิจสงคราม กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัทบีเอเอสเอฟ ในประเทศไทยและเวียดนาม กล่าวว่า “บีเอเอสเอฟ ให้ความสำคัญต่อการสร้างสมดุลระหว่างการเติบโตทางเศรษฐกิจควบคู่กับการดูและสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม และผลักดันการสร้างความร่วมมือ เพื่อยกระดับการขับเคลื่อนให้เกิดความยั่งยืนในทุกกระบวนการของการดำเนินธุรกิจ โดยแผนในการบรรลุเป้าหมาย Net Zero ของบริษัทมุ่งเน้นใน 5 เรื่องหลัก คือ

(1) เพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) ที่ใช้ในโรงงาน ในสัดส่วนมากกว่า 60% ภายในปีค.ศ. 2030 (ปัจจุบันมีสัดส่วน 16%) โดยมีการลงทุนในโครงการฟาร์มกังหันลมและติดตั้งแผงโซลาร์มากมาย

(2) การใช้พลังงานไฟฟ้าทดแทนพลังงานจากฟอสซิลในโรงงาน

(3) การใช้เทคโนโลยีใหม่ ที่ทำให้ปราศจากคาร์บอนในกระบวนการผลิต

(4) การทดแทนวัตถุดิบที่มาจากน้ำมันด้วยวัตถุดิบหมุนเวียนได้ที่มาจากพืช

(5) การเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิต ทั้งหมดนี้เพื่อส่งเสริมการบรรลุเป้าหมายการลดการปล่อยคาร์บอนตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ

 

ด้านบีเอเอสเอฟ ประเทศไทย นั้นเราให้ความร่วมมือทั้งกับภาครัฐ และเอกชนต่างๆ ที่เป็นพันธมิตร อาทิ Alliance to End Plastic Waste (AEPW) เพื่อจัดการกับความท้าทายระดับโลกเกี่ยวกับการจัดการขยะพลาสติก รวมทั้งการสนับสนุนโซลูชั่นหลังการใช้งานเพื่อให้สามารถรีไซเคิลพลาสติกได้อย่างมีประสิทธิภาพและนำกลับมาหมุนเวียนใช้ซ้ำได้ตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน นอกจากนี้เรายังมีส่วนในการปลูกฝังและให้ความรู้แก่นักเรียนและนักศึกษาในเรื่องความสำคัญของความยั่งยืนด้วยเช่นกัน”

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

จากการทำงานของ บีเอเอสเอฟ เมืองลุดวิกส์ฮาเฟน ประเทศเยอรมนี: การคำนวณข้อมูลคาร์บอนฟุตพรินท์หรือปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของผลิตภัณฑ์ในกลุ่มวิตามินแคโรทีนอยด์ โพลีเมอร์สำหรับเครื่องดื่มแปรรูป เอนไซม์สำหรับอาหารสัตว์ และส่วนผสมสำหรับเพิ่มประสิทธิภาพในอาหารสัตว์สำหรับตลาดอาหารและโภชนาการของมนุษย์และสัตว์1 นั้นใช้วิธีการคำนวณที่ได้รับการรับรองจาก TÜV Rheinland ตามมาตรฐานสากล ISO 14067:2018

ค่าคาร์บอนฟุตพรินท์ของผลิตภัณฑ์เป็นผลรวมปริมาณก๊าซเรือนกระจกทั้งหมดที่ปล่อยออกมาจากผลิตภัณฑ์ตลอดวัฏจักรชีวิต นับตั้งแต่การได้มาของวัตถุดิบ การผลิต การขนส่ง การใช้งาน และการกำจัด ซึ่งข้อมูลเหล่านี้มีความสำคัญในการสร้างความโปร่งใสเกี่ยวกับ ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของผลิตภัณฑ์ ทั้งยังช่วยให้ผู้ผลิตและผู้บริโภคสามารถตัดสินใจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้ดียิ่งขึ้น

 

 

จากการเปรียบเทียบค่าคาร์บอนฟุตพรินท์ของผลิตภัณฑ์วิตามินเอและอีของบีเอเอสเอฟกับผลิตภัณฑ์จากบริษัทอื่นๆ ในตลาดพบว่า ผลิตภัณฑ์หลายกลุ่มของบีเอเอสเอฟมีปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกน้อยกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดโลกอย่างน้อย 20 เปอร์เซ็นต์2 โดยการเปรียบเทียบนี้ได้ดำเนินการตามมาตรฐาน ISO14044, ISO14067 และมาตรฐาน GHG protocol ซึ่งได้รับการรับรองจาก TÜV Rheinland ใบรับรองนี้ยืนยันการคำนวณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของผลิตภัณฑ์ของบีเอเอสเอฟและค่าเฉลี่ยของตลาดตาม ISO 14067:2018 ทั้งนี้ ใบรับรองดังกล่าวยังได้รับการเผยแพร่ในฐานข้อมูล (www.certipedia.com) โดยลูกค้าสามารถตรวจสอบข้อมูลดังกล่าวได้โดยตรง ปัจจัยสำคัญที่ทำให้การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องต่ำลงคือระบบการผลิตแบบบูรณาการของบีเอเอสเอฟ ซึ่งรวมถึงการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพสูงและการใช้แหล่งพลังงานและวัตถุดิบที่มีปริมาณการปล่อยคาร์บอนต่ำ

 

 

จูเลีย ราเกต์ รองประธานอาวุโสหน่วยงาน Global Business Unit Nutrition Ingredients กล่าวว่า “เรามุ่งมั่นที่จะสนับสนุนลูกค้าในการบรรลุเป้าหมายการลดการปล่อยมลพิษ ผลิตภัณฑ์วิตามินเอและอีบางชนิดของเรามีข้อมูลปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการรับรองดีกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดโลกถึง 20 เปอร์เซ็นต์ บริษัทมีความภูมิใจที่ได้มอบข้อได้เปรียบด้านสิ่งแวดล้อมนี้ให้กับลูกค้า”
ผลิตภัณฑ์ของบีเอเอสเอฟ ที่มีปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกน้อยกว่าผลิตภัณฑ์จากบริษัทอื่นๆ ในตลาดโลกโดยเฉลี่ยอย่างน้อย 20 เปอร์เซ็นต์ ได้แก่

• โภชนาการสัตว์: Lutavit® A 1000 NXT และ Lutavit® E 50
• โภชนาการคน: Vitamin AP 1,7 TOC และ Vitamin E Acetate 98% และ DL-alpha-Tocopherol

บีเอเอสเอฟ มุ่งมั่นที่จะเสนอแนะแนวทางสำหรับผลิตภัณฑ์ดังกล่าว ในการคำนวณข้อมูลปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของผลิตภัณฑ์ตลอดช่วงวงจรชีวิตในอุตสาหกรรมเคมี เพื่อให้เกิดการแข่งขันที่เป็นธรรมและความสามารถในการเปรียบเทียบผลิตภัณฑ์ที่ถูกต้อง

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น