“บิ๊กโจ๊ก” ย้ำไม่เกี่ยวพนันออนไลน์ โพล่ง “ข้อมูลผมเยอะ” ถ้าคิดเอาคืน สตช.เสื่อมหนักกว่านี้

ภายหลังจาก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ได้เรียกร้องความเป็นธรรมหลังถูกตำรวจบุกเข้าค้นบ้านพักย่านซอยวิภาวดี 60 กรณีลูกน้องคนสนิทมีบัญชีม้าเชื่อมโยงกับเว็บพนันออนไลน์รานใหญ่ นั้น ซึ่งพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ว่า ตนเองไม่เคยเกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ดังกล่าว และไม่เคยมีการโอนเงินจากเว็บพนันออนไลน์ดังกล่าวมาให้กับตนเอง ซึ่งหลังจากนี้ตนเองจะดำเนินคดีนายตำรวจที่เกี่ยวข้องกับการบุกค้นบ้านทั้งหมด โดยยืนยันชัดเจนว่า “วันนี้เตรียมตัวเลย ตายหมู่ มันก็ต้องดำเนินคดีกลับ ออกหมายจับโครมครามๆ ค้นบ้านผม เอาคอมมานโดฯลงมา มันมีที่ไหน”

ข่าวที่น่าสนใจ

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดเผยอีกว่า “วันนี้คนที่น่าสงสารที่สุดคือลูกน้อง เพราะหากสั่งไต่สวนเรื่องละเมิดอำนาจศาล คนต้องถูกดำเนินคดี เนื่องจากที่จะโดนดำเนินคดีอาญา 157 คือ ผู้กำกับโรงพัก พนักงานสอบสวน ซึ่งเป็นคนขอหมาย ส่วนผู้บังคับบัญชาที่ออกมาแถลงข่าวไม่โดน ทำแบบนี้ลูกน้องจะเดือดร้อน เพราะคนออกคำสั่งไม่ ไม่ได้ออกเป็นลายลักษณ์อักษร พอถึงตอนปางตาย ก็จะเข้าสูตรเดิม ทุกคนโดดหนีหมด แล้วก็จะทิ้งลูกน้องตายเรียงแถว”

ส่วนการจะขยายผลถึงคนที่บงการอยู่เบื้องหลังนั้น การต้องสอบสวนตำรวจที่ออกหมายค้นและหมายจับว่า ใครเป็นคนสั่ง แต่ถ้าไม่มีใครสั่ง คนที่ออกหมายจับก็ต้องโดนเอง เนื่องจากการละเมิดอำนาจศาล ถ้าศาลสั่งไต่สวน ก็ต้องมี 2 อย่าง คือ ยุติ กับ 157 และ หากมีความผิด 157 ตนเองก็จะนำเรื่องดังกล่าวไปยื่นต่อศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบ เนื่องจากการออกหมายค้นและหมายจับมีความไม่ชอบมาพากล ไม่ได้ไปขอที่ศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบ ทั้งที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดด้วย แต่กลับขอหมายค้นและหมายจับที่ศาลอาญากรุงเทพใต้

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดเผยอีกว่า หากตำรวจที่ออกหมายค้นและหมายจับอ้างว่า มีพลเรือนกระทำความผิดด้วย จึงขอหมายที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ก็ถือเป็นการกระทำที่มิชอบ เพราะต่อให้มีพลเรือนเกี่ยวข้อง แต่ก็มีตำรวจร่วมอยู่ด้วย ยังไงก็ต้องขอหมายค้นที่ศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบเท่านั้น ส่วนพลเรือนจะเข้าข่ายเป็นผู้สนันสนุนเจ้าหน้าที่ของรัฐในการกระทำความผิด ซึ่งเชื่อว่า ศาลก็ทราบเรื่องนี้อยู่แล้ว แต่ยืนยันว่า ไม่ใช่เป็นการเอาคืน เพราะหากทำอย่างนั้น จะเป็นการทุบหม้อข้าวตัวเอง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะเสื่อมเสียกว่านี้

ล่าสุด พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวถึงกรณีที่ได้เปิดเผยว่ามีข้อมูลอีกเยอะ ถ้าเปิดข้อมูลไปมีหนาวแน่นอน ว่า “ผมไม่อยากทุบหม้อข้าวตัวเอง อยากให้ตำรวจที่เขาไม่เกี่ยวข้องได้มีทางเดินบ้าง ถ้าผมทุบหม้อข้าวเมื่อไหร่ เปิดเมื่อไหร่ ก็ตายกันทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และผมก็สงสารน้องๆผู้กำกับจะอยู่กันอย่างลำบาก เพราะฉะนั้นผมจึงไม่เปิดในรายละเอียดทั้งหมด ผมทำงานสืบสวนมาทั้งชีวิต ผมถนัดเรื่องไล่เส้นทางการเงิน เรื่องแบบนี้ผมไม่อยากไปทุบหม้อข้าวตัวเอง เพื่อให้น้องๆมันมีทางเดินบ้าง” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เมียไรเดอร์ เปิดใจเสียงสั่น กลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังรู้ข่าว หนุ่มอินเดียซิ่งเก๋งได้ประกันตัว ลั่น ‘คนมีเงินมันยิ่งใหญ่’
นายกฯ เปิดงาน Thailand Reception เชิญชวนสัมผัสเสน่ห์อาหารไทย ชูศักยภาพเศรษฐกิจ
จีนแห่ ‘โคมไฟปลา’ แหวกว่ายส่องสว่างในอันฮุย
"พิพัฒน์" ตรวจเยี่ยมเอกชน ต้นแบบอุตสาหกรรม ผลิตด้วยเทคโนฯ AI พร้อมเร่งนโยบาย up skill ฝีมือแรงงานไทย
ผู้นำปานามาลั่นคลองปานามาไม่ใช่ของขวัญจากสหรัฐ
จีนไม่เห็นด้วยหลังไทยยืนยันไม่มีแผนส่งกลับอุยกูร์ในขณะนี้
"ดีเอสไอ" อนุมัติให้สืบสวนคดี "แตงโม" ปมมีการบิดเบือน บุคคลอื่น-จนท.รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่
"พิพัฒน์" นำถก "คบต." ลงมตินายจ้างต้องยื่นบัญชีชื่อต้องการแรงงานต่างด้าว ให้เสร็จใน 13 ก.พ.68
ส่องรายได้ "ดิว อริสรา" หลัง "ไผ่ ลิกค์" เฉลยชื่อดาราดัง ปมยืมเงินปล่อยกู้ โซเชียลจับตา รอเจ้าตัวชี้แจง
ศาลให้ประกันตัว "หนุ่มลูกครึ่งอินเดีย" ขับรถชนไรเดอร์เสียชีวิต ตีวงเงิน 6 แสนบาท คุมเข้มใส่กำไล EM ภรรยาผู้ตาย ลั่นไม่ให้อภัย

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น