“อัษฏางค์” ขุดให้ดู “ธนาธร” บิดเบือนอะไรบ้าง ย้อนถาม “สถาบันพระปกเกล้า” ใครเชิญคนแบบนี้มาเป็นวิทยากร

"อัษฏางค์" ขุดให้ดู "ธนาธร" บิดเบือนอะไรบ้าง ย้อนถาม "สถาบันพระปกเกล้า" ใครเชิญคนแบบนี้มาเป็นวิทยากร

28 กันยายน 2566 เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค ได้โพสต์ข้อความ ระบุว่า สถาบันพระปกเกล้า กำลังเล่นอะไรกับธนาธร ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ได้รับเชิญเป็นวิทยากรบรรยายหลักสูตรการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตย สำหรับนักบริหารระดับสูง รุ่นที่ 27 (ปปร.27) โดยสถาบันพระปกเกล้า ภายใต้โจทย์ ‘การเมืองใหม่ในโลกปัจจุบัน

 

คำถามคือ ใครในสถาบันพระปกเกล้าเป็นผู้เชิญธนาธรมาเป็นวิทยากรอบรมนักบริหารระดับสูง ทั้งที่คนทั้งชาติทราบว่าธนาธรสนับสนุนให้มีการยกเลิก ม.112 และ ม.116 https://www.thaipost.net/x-cite-news/307412/

ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญเคยพิจารณา ข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุมที่ ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ที่เสนอให้แก้ไขหรือยกเลิกกฎหมายดังกล่าว เป็นภัยต่อความมั่นคงอันนำไปสู่ล้มล้างการปกครองได้

ทั้งที่สถาบันพระปกเกล้า เป็นสถาบันวิชาการชั้นนำด้านการพัฒนาประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ธรรมาภิบาล และสันติวิธี มุ่งนำความรู้สู่สังคม เพื่อประโยชน์ส่วนรวม

ธนาธรบรรยายที่สถาบันพระปกเกล้า ด้วยการยกผลงานของก้าวไกลถือเป็นการมาหาเสียหรือไม่ นอกจากนี้ยังให้ข้อมูลที่ไม่ตรงกับสถานการณ์จริงหรือข้อมูลที่แสดงถึงความไม่เข้าใจสถานการณ์จริงในปัจจุบัน https://thestandard.co/thanathorn-26092023/

ข่าวที่น่าสนใจ

ธนาธร กล่าวหาว่า :

การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่ต่ำกว่าอัตราเฉลี่ยของโลกหลายปีติดต่อกัน
ข้อมูลจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา https://www.krungsri.com/…/industry-outlook-2023-2025

 

 

ระบุว่า เศรษฐกิจโลกปี 2566-2568 ประเทศแกนหลักมีแนวโน้มชะลอตัว ท่ามกลางกระแส Deglobalization หรือการทวนกระแสโลกาภิวัตน์ เมื่อโลกไม่อภิวัฒน์ กันแบบเดิม โลกาภิวัตน์กำลังเปลี่ยนโฉมไปหลังจากสงคราการค้าระหว่างสองประเทศมหาอำนาจใหญ่ คือ สหรัฐอเมริกาและจีน ที่แสดงท่าทีล่าสุดออกมาชัดเจนว่า ต่างตั้งเป้าจะเป็นประเทศมหาอำนาจผู้นำของโลก และมีเจตนาจะแข่งขันกันจริงจังขึ้นอีกในระยะข้างหน้า เมื่อกระแสโลกาภิวัตน์กำลังจะเปลี่ยนภาพไปจากเดิม

Deglobalization หรือการทวนกระแสโลกาภิวัตน์ คือ“โลกาภิวัตน์บนเงื่อนไขความเป็นมิตร” การเชื่อมโยงการค้าการลงทุนระหว่างประเทศจะยังเดินหน้าไปได้ แต่จะไม่เน้นประสิทธิภาพสูงสุดของห่วงโซ่การผลิตเช่นเดิมแล้ว จะกลายเป็นเชื่อมโยงกับกลุ่มมิตรประเทศเท่านั้น
ธนาธรเข้าใจเรื่องดังกล่าวนี้หรือไม่? มากน้อยแค่ไหน? จึงออกมาโจมตีว่าประเทศไทยมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจต่ำกว่าอัตราเฉลี่ยโลกจริงหรือไม่

 

 

อัตราการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจโลก จะอยู่ที่ 2.7% ในปี 2566 และจะเพิ่มขึ้นเป็น 3.0% ในปี 2567-2568 ในขณะที่เศรษฐกิจไทยคาดว่าจะขยายตัวเฉลี่ย 3.5% ต่อปีในช่วงปี 2566-2568 ดังนั้น การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยต่ำกว่าอัตราเฉลี่ยของโลกตรงไหน ?
มาดูรายละเอียดตรงนี้กัน

 

เศรษฐกิจโลกในระยะ 3 ปีข้างหน้ามีแนวโน้มเติบโตชะลอลงจาก 3.2% ในปี 2565 สู่ 2.7% ในปี 2566 ก่อนจะกระเตื้องขึ้นเล็กน้อยสู่ราว 3.0% ในปี 2567-2568 แม้ว่าผลเชิงลบจากโรค COVID-19 จะคลี่คลายลงแต่หลายปัจจัยยังคงกดดันเศรษฐกิจโดยเฉพาะประเด็นสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่นำไปสู่มาตรการคว่ำบาตรทางการค้าและวิกฤตพลังงานที่มีแนวโน้มยืดเยื้อ การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน รวมถึงการแบ่งขั้วทางเศรษฐกิจซึ่งนำโดยสหรัฐฯ และจีน จะส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานโลก และอาจทำให้การทวนกระแสโลกาภิวัตน์ (Deglobalization) เข้มข้นขึ้น

 

เศรษฐกิจสหรัฐฯ มีแนวโน้มเติบโตต่ำในปี 2566-68 โดยคาดว่าอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจจะชะลอลงจาก 1.6% ในปี 2565 เหลือ 1.0% ในปี 2566 และ 1.2% ในปี 2567 ก่อนจะกระเตื้องขึ้นสู่ 1.8% ในปี 2568

 

 

 

 

เศรษฐกิจของยุโรปจะเผชิญวิกฤตพลังงานที่รุนแรงและยืดเยื้อนาน โดยคาดว่าในช่วงปี 2566-2568 เศรษฐกิจจะขยายตัวเฉลี่ยเพียง 1.4% ต่อปี ชะลอลงแรงจากที่ขยายตัว 3.1% ในปี 2565 ผลพวงจากสงครามรัสเซีย-ยูเครนโดยเฉพาะปัญหาการขาดแคลนพลังงานที่เข้าขั้นวิกฤต

 

เศรษฐกิจญี่ปุ่นยังเติบโตต่ำจากปัจจัยเชิงโครงสร้างที่จำกัดการเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยคาดว่าขยายตัวเฉลี่ย 1.3% ต่อปีในช่วงปี 2566-2568 จาก 1.7% ในปี 2565 เศรษฐกิจจีนคาดว่าจะขยายตัวเฉลี่ย 5.4% ต่อปี ชะลอลงจาก 8.0% ในปี 2564

 

เศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มเผชิญหลายปัจจัยกดดันให้การเติบโตต่ำกว่าช่วงก่อนการระบาดของ COVID-19 แม้เศรษฐกิจอาจปรับดีขึ้นจาก 3.2% ในปี 2565 สู่เฉลี่ย 4.5% ต่อปีในช่วงปี 2566-2568 แต่คาดว่าจะต่ำกว่า 6-7%
เศรษฐกิจไทยคาดว่าจะขยายตัวเฉลี่ย 3.5% ต่อปีในช่วงปี 2566-2568 ปรับตัวดีขึ้นจากที่เติบโต 3.2% ในปี 2565

 

 

ธนาธร กล่าวหาว่า :
ประเทศไทยติดอยู่ใน 5 อันดับแรกของประเทศที่มีความเหลื่อมล้ำที่สุด

ความจริงคือ :
ความเหลื่อมล้ำของไทยเคยติด TOP 5 โดยอยู่ในอันดับที่ 4 ประเทศที่มีความเหลื่อมล้ำด้านความมั่งคั่งมากที่สุดในโลก จากข้อมูล Gini Wealth Index ปี 2018 ของ เครดิต สวิส (Credit Suisse)
แต่อันดับของ Gini Wealth Index ในปี 2021 ไทยมีอันดับที่ดีขึ้นแบบก้าวกระโดด คือก้าวจากจาก อันดับ 4 มาอยู่ที่อันดับ 97 ของประเทศที่มีความเหลื่อมล้ำมากที่สุด

 

ที่มา: https://theactive.net/data/inequality-index-truth/
คุณไปอยู่ไหนมาธนาธร คุณยังหลงหรือจมปรักอยู่ที่ปี 2018 หรือ พ.ศ.2561 หรือ ?
คุณจะบริหารประเทศด้วยข้อมูลที่ล่าหลังขนาดนั้นเลยหรือ แล้วประเทศจะเป็นอย่างไร ?
สถาบันพระปกเกล้า ปล่อยให้คุณธนาธรเอาข้อมูลเก่าตกยุคไปอบรมข้าราชการที่เป็นนักบริหารระดับสูงแบบนี้ แล้วผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร ?
คุณกล่าวว่า ปัญหาปัญหาความเหลื่อมล้า ผูกพันอย่างแยกไม่ได้ กับอัตราการเกิดของประชากรที่ตกต่ำลง ซึ่งสวนทางกับอัตราการตายของประชากร ซึ่งจะทำให้ประชากรวัยทำงานมีแนวโน้มต้องทำงานหนักขึ้นเพียงเพื่อให้ประเทศไทยยังยืนที่เดิมในด้านผลิตภาพ และการดูแลประชากรผู้สูงอายุที่มีสัดส่วนเพิ่มมากขึ้น

 

นี่เป็นการหาเสียของคุณกับประชากรวัยทำงาน ด้วยการสร้างภาพว่ารัฐบาลบริหารประเทศผิดพลาดจนทำให้ประชากรวัยทำงานต้องทำงานหาเงินเลี้ยงประชากรผู้สูงอายุ หรือไม่ ?

 

ธนาธร กล่าวหาว่า :
การที่ประเทศไทยมีการเปลี่ยนรัฐธรรมนูญเฉลี่ยทุก 4.5 ปี แสดงให้เห็นว่าเรายังไม่มีฉันทมติร่วมกันว่าจะอยู่ร่วมกันภายใต้กติกาอย่างไร
ขอยกตัวอย่าง รัฐธรรมนูญปี 60 ประชาชนได้ร่วมกันทำประชามติว่าให้อำนาจ สว. เลือกนายกรัฐมนตรีแต่พรรคก้าวไกลกลับไม่ยอมรับรัฐธรรมนูญและประชามตินี้ แต่กลับเสนอให้ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ ดังนั้นอาจกล่าวได้ว่าพรรคก้าวไกลก็เป็นหนึ่งในตัวปัญหาที่ต้องการเปลี่ยนรัฐธรรมนูญเพราะไม่ยอมรับในฉันทามติร่วมกัน ว่าจะอยู่ร่วมกันภายใต้กติกาที่กำหนด หรือไม่

 

สถาบันพระปกเกล้าเปิดสถานที่ให้ธนาธรมาให้ข้อมูลที่ไม่ตรงกับสถานการณ์จริงหรือไม่ตรงกับความเป็นจริง หรือไม่ ?
นอกจากนี้ ยังมีถ่อยในลักษณะการเสียงกับผู้บริหารระดับสูง หรือไม่ ? เช่นเรื่องระบบการคิดค่าน้ำประปาเป็นระบบไอโอที ! หรือเรื่องความสำเร็จของพรรคก้าวไกลคือความสำเร็จของการเมืองแบบใหม่ที่เป็นไปได้ ! และเรื่องที่คณะก้าวหน้าได้ทำร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหลายแห่ง เช่น การทำน้ำประปาที่ดื่ม ! ระบบการคิดค่าน้ำประปาเป็นระบบไอโอที !

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“อนุทิน” น้อมรับฉายา “ภูมิใจขวาง” ลั่นไม่ได้คิดขวางใคร ชื่นชม “นายกฯ” ตั้งใจทำงาน หลังถูกมองเป็นรบ. (พ่อ) เลี้ยง
“รทสช.” เคลื่อนไหว หลังสื่อทำเนียบฯตั้งฉายา “พีระพันธุ์” Fc แห่คอมเมนต์ให้กำลังใจ
ชวนเที่ยวงาน "เที่ยวถิ่น กินอร่อย สมุทรปราการ" ปี 67 จัดใหญ่จัดเต็มส่งท้ายความสุขช่วงปลายปี
"ทักษิณ" เล่นใหญ่ กลับเชียงใหม่ นำ "พิชัย" ชิงนายกอบจ. เชื่อเลือกตั้งครั้งหน้า เพื่อไทยได้ 10 สส.
แตกตื่นทั้งวอร์ด! หามผู้ป่วยพม่าติดโรคห่า 1 ราย ข้ามแดน ส่ง รพ.แม่สอด
ซีพีเอฟ ประมงเพชรบุรี และเรือนจำกลางเพชรบุรี นำภูมิปัญญาท้องถิ่นทำน้ำปลาจากปลาหมอคางดำ ตรา “หับเผย เขากลิ้ง”
หน่อยยลดา มั่นใจ 4 ปี ผลงานเข้าถึงใจ พี่น้องประชาชน ย้ำอีก4 ปี ผลงานที่ค้างจะเดินหน้าก้าว ให้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี
DSI ส่งสำนวนฟ้องคดี "ดิไอคอน" 3.4 แสนแผ่น ยึดทรัพย์สินได้ 747 ล้าน จ่อเอาผิดกลุ่มแม่ข่ายเพิ่ม
‘ทักษิณ’ ถึงเชียงใหม่ กินก๋วยเตี๋ยวร้านดัง เตรียมพร้อมขึ้นปราศรัยช่วยผู้สมัครนายกอบจ. เพื่อไทย เย็นนี้
กรมส่งเสริมสหกรณ์ ขนสินค้าดีมีคุณภาพจากสหกรณ์มาจำหน่ายสู่ผู้บริโภค พบกันในงาน “Co-op Market Fair พลังสหกรณ์ ขับเคลื่อนสินค้าเกษตรอัตลักษณ์พื้นถิ่น By ร้านสหกรณ์เทเวศร์ จำกัด”

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น