จากกรณีที่ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษายกฟ้อง ในกรณีของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ยื่นฟ้อง กระทรวงมหาดไทย (มท.) อธิบดีกรมที่ดิน และปลัดกระทรวงมหาดไทย กรณีที่มีคำสั่งอธิบดีกรมที่ดิน ลงวันที่ 29 มี.ค.2565 เพิกถอนหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส. 3. ก. เลขที่ 158 และเลขที่ 159 ตำบลด่านทับตะโก อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี เนื้อที่ 43 ไร่ 3 งาน และเนื้อที่ 38 ไร่ 67 ตารางวา ของนายธนาธร ทำให้นายธนาธรฟ้องเพิกถอนคำสั่งอธิบดีกรมที่ดินดังกล่าว
โดยศาลเห็นว่าเนื่องจากตำแหน่งที่ดินตามหนังสือ น.ส. 3.ก. ทั้งสองแปลง พื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ในเขตป่าไม้ถาวร “ป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 18 ก.พ.2512 จึงเป็นการออกหนังสือ น.ส.3. ก. ที่เป็นการฝ่าฝืนประมวลกฎหมายที่ดิน ที่ห้ามมิให้ดำเนินการในเขตป่าไม้ถาวรและเป็นที่ดินต้องห้ามมิให้ออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส. 3.ก.) และการที่กระทรวงมหาดไทย กับ ปลัด มท. มีคำวินิจฉัยยกอุทธรณ์ของนายธนาทรที่ขอเพิกถอนคำสั่งดังกล่าว จึงเป็นการกระทำที่ใช้ดุลพินิจชอบด้วยกฎหมายแล้ว
อย่างไรก็ตาม การที่นายอำเภอจอมบึง ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ในสังกัดของกระทรวงมหาดไทย) ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการออกหนังสือ น.ส.3. ก. ไม่ได้ใช้ความระมัดระวัง ความรู้ความชำนาญและความละเอียดรอบคอบในการตรวจสอบสภาพและที่ตั้งของที่ดินดังกล่าวว่าเป็นที่ดินที่ต้องห้ามออกหนังสือ น.ส. 3. ก. ตามกฎหมายหรือไม่ ได้ออกหนังสือ น.ส.3.ก. เลขที่ 158 ให้แก่นาย อ.และออกหนังสือ น.ส.3.ก. เลขที่ 159 ให้แก่นาย ช. เมื่อวันที่ 3 ต.ค.2521 ตามโครงการเดินสำรวจโดยมิได้แจ้งการครอบครองที่ดินตามตามกฎหมาย ต่อมา นาย อ. และนาย ช. ได้จดทะเบียนขายทั้งสองแปลงดังกล่าวให้แก่ บริษัทแห่งหนึ่ง เมื่อวันที่ 12 ก.ย.2528 หลังจากนั้น บริษัทดังกล่าว ได้จดทะเบียนขายรวมสองแปลงให้แก่ นาย ส.เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 2534 และนาย ส. ขายรวมสองแปลงดังกล่าวให้แก่นายธนาธร เมื่อวันที่ 23 พ.ค.2543
นายธนาธร จึงเป็นบุคคลที่ซื้อที่ดินดังกล่าวโดยสุจริต เสียค่าตอบแทน และได้รับความเสียหาย การกระทำของนายอำเภอจอมบึง ในฐานะผู้ปฏิบัติหน้าที่ตามประมวลกฎหมายที่ดินดังกล่าว เป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และเป็นการละเมิดต่อนายธนาทร กรมที่ดิน จึงต้องรับผิดในผลแห่งละเมิดอันเกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายของนายอำเภอจอมบึง