ภายหลังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง มีคำพิพากษาตัดสินลงโทษ จำคุก 9 ปี และเพิกถอนสิทธิรับสมัครเลือกตั้ง 5 ปี นายนิพนธ์ บุญญามณี เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สงขลา กรณีไม่เบิกจ่ายเงินค่ารถซ่อมบำรุงทางอเนกประสงค์ ให้แก่บริษัท พลวิศว์ เทคพลัส จำกัด ผู้ชนะการประมูล
สำหรับคดีนี้ คณะกรรมการป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดนายนิพนธ์ บุญญามณี เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายก อบจ.สงขลา กรณีไม่อนุมัติเบิกจ่ายเงินแก่บริษัท พลวิศว์ฯ เป็นค่ารถซ่อมบำรุงทางเอนกประสงค์ 2 คัน วงเงิน 50,850,000 บาท โดยเห็นว่านายนิพนธ์ กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ที่ระบุว่าผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ขณะที่ในการพิจารณาตัดสินคดีนี้ ของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง มีรายงานข่าวว่า ผู้บริหารบริษัท พลวิศว์ เทคพลัส จำกัด ผู้ชนะการประมูล ที่เคยมีข่าวว่าเดินทางออกไปนอกประเทศ หลังจากที่ อบจ.สงขลา ถูกศาลปกครองสูงสุด พิพากษาให้ชดใช้เงินจำนวน 50 ล้านบาท ได้เดินทางกลับมาประเทศไทย และเข้าให้การคดีนี้อย่างละเอียดด้วย
นายนิพนธ์ บุญญามณี อดีตรมช.มหาดไทย บอกกับเราว่า ได้เข้ามาเป็นนายกอบจ.สงขลา ภายหลังการจัดซื้อจัดจ้างดังกล่าวเสร็จเรียบร้อยไปแล้ว โดยมีปัญหาการร้องเรียนว่าการจัดซื้อจัดจ้างดังกล่าวอาจมีการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 (พ.ร.บ.ฮั้วฯ) หรือไม่ โดยผู้ร้องเรียนได้ร้องเรียนไปหลายที่ทั้ง อบจ.สงขลา , ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา สตง.ภูมิภาคที่ 15 และสำนักงาน ป.ป.ช.สงขลา ต่อมาจังหวัดสงขลา โดยรองผู้ว่าฯสงขลา ทำหนังสือถึง อบจ.สงขลา ให้ดำเนินการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม พร้อมที่จะสู้
“สำหรับแนวทางคดีต้องไปอุทธรณ์ -ฎีกา ต่อ และขอยืนยันว่าที่ทำเพื่อปกป้องผลประโยชน์ชาติ และไม่จ่ายเงินให้พวกฮั้วประมูล ไม่ได้มีเจตนาแกล้งอะไรใคร ซึ่งก็ต้องเคารพคำตัดสินของศาล เรื่องที่เกิดขึ้นไม่รู้สึกท้อใจและพร้อมจะเดินหน้าต่อ เพราะยังมีโอกาสในศาลสูง”