ลิเกรัวๆ “หมออ๋อง”แจงเลือกนั่งรองปธ.สภาฯทิ้งสมาชิกภาพก้าวไกล

ลิเกรัวๆ "หมออ๋อง"แจงเลือกนั่งรองปธ.สภาฯทิ้งสมาชิกภาพก้าวไกล

29 ก.ย. 2566 ที่รัฐสภา นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาฯคนที่ 1 สส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล ที่พรรคก้าวไกล ได้แถลงการณ์ มีมติขับออกจากพรรค เมื่อคืนที่ผ่านมา ออกจากการเป็นสมาชิกพรรคก้าวไกล เพื่อรักษาตำแหน่ง รองประธานสภาฯ คนที่ 1 เอาไว้

 

 

โดยนายปดิพัทธ์ แถลงข่าวว่า จากการพิจารณาอย่างถ้วนถี่ ตนคิดว่า หากลาออกจากตำแหน่งรองประธานสภาคนที่หนึ่ง จะเป็นการผิดคำมั่นสัญญาที่ได้ให้ไว้กับประชาชนและรัฐสภา จึงตัดสินใจจะทำหน้าที่ต่อในตำแหน่งรองประธานสภา ทำให้พรรคก้าวไกลมีมติขับออกจากพรรค ซึ่งเหตุผลที่ใช้ในการประกอบการตัดสินใจมี 3 ส่วน

1.ตนต้องใช้ตำแหน่งรองประธานสภาฯ ในการขับเคลื่อนนโยบายเพื่อยกระดับการทำงานของสภาผู้แทนราษฎรให้มีความโปร่งใส มีประสิทธิภาพสูงและเป็นของประชาชนตามที่ได้แถลงไว้ตั้งแต่ต้น รวมถึงพี่อีกหลายอย่างอย่าง เช่น การทำให้สภามีระบบการจัดเก็บและเปิดเผยข้อมูลตามมาตรฐานสากลเพื่อทำให้ทุกภาคสามารถนำข้อมูลไปวิเคราะห์ต่อได้

ข่าวที่น่าสนใจ

 

ความพร้อมในการตรวจรับงานสภามากขึ้น จะพัฒนาระบบตรวจจับใบหน้าเพื่อป้องกันการเสียบัตรแทนกันในสภา และจะนำเทคโนโลยีเทคโนโลยีทันสมัย มาใช้เพื่อเป็นการประหยัดต้นทุนและเพิ่มความปลอดภัย รวมถึง ฟื้นฟูความเชื่อมั่นของประชาชนต่อการเมืองไทยในระบบรัฐสภาผ่านการมีส่วนร่วมโดยเฉพาะเยาวชนโดยจะเปิดให้มีพื้นที่รองรับการทำกิจกรรมทางการเมือง อย่างการเปิดลานกิจกรรม

 

 

 

2. ตนต้องการปฏิบัติหน้าที่รองประธานสภาฯ อย่างเป็นกลางกับทุกพรรคการเมืองในสภาและตอบประชาชนทุกชุดความคิด ไม่ว่าจะชื่นชอบพรรคใดก็ตาม ยืนยันว่า การที่ตนต้องเปลี่ยนสังกัดจะไม่ส่งผลกระทบต่อหน้าที่และแผนงานของตนในฐานะรองประธานสภาฯ อย่างแน่นอน

 

3. มั่นใจว่า พรรคก้าวไกล มีบุคลากรและมีความพร้อมในการจะดูแลความพร้อมของพี่น้องประชาชนจากพิษณุโลก เขต 1 ซึ่งการตัดสินใจครั้งนี้ตนได้สอบถามพี่น้องในเขตและทั่วประเทศอย่างคร่าวๆ เรียบร้อยแล้ว มั่นใจว่า ทำหน้าที่ในการเป็นรองประธานสภาฯ จะเป็นประโยชน์ต่อการดูแลทุกข์สุขของชาวพิษณุโลกเหมือนเดิม และการทำงาน และพรรคก้าวไกลจะมีบุคลากรมาทำหน้าที่แทนอย่างแน่นอน

 

 

นายปดิพัทธ์ ขอน้อมรับมติของพรรคก้าวไกล ที่ต้องการทำหน้าที่ฝ่ายค้านให้สมบูรณ์แบบและตัดสินใจให้ตนยุติการเป็นสมาชิกของพรรค ต่อไปนี้ไม่ว่าตนจะผลักดันการทำงานของสภาอย่างเต็มที่ ที่ได้ให้คำสัญญาไว้ในฐานะรองประธานสภาที่เป็นกลางต่อทุกพรรคและพี่น้องประชาชน

 

 

การตัดสินใจของพรรคก้าวไกลเมื่อวานนี้ ไม่ได้การตัดสินใจในระยะสั้นแต่เป็นการคิดช่วงระยะเวลาหนึ่ง ต่อไปการตัดสินใจของตนว่า จะไปอยู่พรรคไหนแต่จำว่าต้องสอดคล้องกับอุดมการณ์ไม่สามารถไปอยู่กับพรรคการเมืองที่ขัดแย้งกับอุดมการณ์ของตนเองได้

ส่วนที่หลายคนมองว่า เป็นการสมคบคิดเพื่อรักษาตำแหน่งรองประธานสภาเอาไว้ นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า แล้วแต่คุณจะคิด ย้ำว่าการขับตนออกจากพรรคก้าวไกลครั้งนี้ ทางพรรคก้าวไกลเองก็ตัดสินใจอย่างยากลำบากและรอบคอบ จึงไม่ใช่การสมคบคิดอย่างแน่นอน แต่ด้วยข้อจำกัดของรัฐธรรมนูญจึงจำเป็นที่ต้องหาทางออกที่ดีที่สุดให้เกิดขึ้น

 

 

 

ส่วนกรณีที่มีหลายคนคาดการณ์ว่า จะไปอยู่กับพรรคเป็นธรรม หรือพรรคไทยสร้างไทยนั้น นายปดิพัทธ์ บอกว่ายังไม่ได้มีการพูดคุยกันอย่างเป็นทางการ ซึ่งตนมีเวลาอีก 30 วันในการตัดสินใจว่า จะไปอยู่พรรคไหน ตอนนี้ขอกลับไปอยู่ที่บ้านกับครอบครัวและประชาชนในพื้นที่เพื่อทำความเข้าใจ เชื่อว่าการทำงานที่ผ่านมาและอนาคตจะเป็นบทพิสูจน์ว่า ตนได้ทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชนหรือไม่

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ตร.ตม." ขยายผลรวบ 2 ผู้ต้องหา เอี่ยวคดีอุ้มคนจีนรีดค่าไถ่ 12 ล้าน
เปิดสาเหตุพรรคปชน.ส่งผู้สมัคร นายก อบจ.อีก 12 จังหวัด
ระทึก เปิดภาพนาที "ช้างป่า" บุกรื้อค้น ทำลายร้านขายของชำ พังเสียหาย
สำนึกกี่โมง? “พระปีนเสา” ปลุก FC ฮือบุกทำเนียบ-ท้าตี “หลวงพี่น้ำฝน”
ข่าวดี! “กลุ่มเปราะบาง” ดู “หมูเด้ง” เข้าสวนสัตว์ทั่วไทยฟรี 3 ปี
"ธรรมนัส" ยันลงพื้นที่ จ.อุดรธานี เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ปัดช่วย "ผู้สมัคร" หาเสียงชิ้งเก้าอี้ นายก อบจ.
หิมะขาวตกห่มหิน ราว‘เห็ดหิมะ’ ในจีน
เกาหลีเหนือขู่ขยายกองทัพนิวเคลียร์แบบไร้ขีดจำกัด
“บิ๊กเต่า” พบเส้นเงินใหม่จากบัญชีแม่ ถึงนาย ส.อีก 10 ล้าน จ่อส่งให้ DSI ทำคดีฟอกเงิน
ตำรวจเชิญ “ปานเทพ” ให้ข้อมูลเพิ่ม ฐานะพยาน “คดีทนายตั้ม” รู้เบาะแสแบ่งเงิน 39 ล้าน ให้ใครบ้าง

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น