นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งสื่อ “ผู้จัดการ” หรืออดีตแกนนำพันธมิตรฯ เปิดเผย ในรายการ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” หรือ “สนธิทอล์ก”กรณีที่มีการบุกค้นบ้าน “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ โดยตำรวจไซเบอร์ นำกำลังบุกค้นบ้าน “บิ๊กโจ๊ก” หลังพบเชื่อมโยงพนันออนไลน์ โดยระบุว่า น.ส.ธันยนันท์ หรือ สุชานันท์ สุจริตชินศรี หรือ “มินนี่” ผู้ต้องหาคดีเว็บพนันออนไลน์ คือหน้าเสื่อขาใหญ่คุมเว็บพนันออนไลน์ในภาคอีสาน และทำหน้าที่เป็นหน้าเสื่อคอยเคลียร์ส่วยให้กับตำรวจภาค 4 มาก่อนแล้ว โดยมีการเรียกเก็บค่าคุ้มครองจากเว็บพนันออนไลน์ จำนวนมากเดือนละ 1 ล้าน 5 แสนบาท โดยมินนี่จะเป็นผู้รวบรวมเงินที่เก็บมาจากเว็บพนันออนไลน์ ไปนำส่งให้กับนายตำรวจใหญ่
สำหรับรายได้ของ “มินนี่” มาจากสองทางคือเงินหมุนเวียนจากเครือข่ายเว็บพนัน โดยมีเงินหมุนเวียนจากเว็บพนันประมาณเดือนละสองร้อยล้านบาทต่อเดือน และเงินที่มินนี่ได้จากการเป็นหน้าเสื่อรับเคลียร์เว็บพนันต่างๆประมาณ 10-15 สาย มีรายได้สิบล้านถึงหนึ่งร้อยล้านบาทต่อเดือน จึงทำให้มินนี่กลายเป็น “ขาใหญ่” สามารถเคลียร์กับตำรวจได้
สำหรับเหตุการณ์ที่ถูกเปิดเผยและเชื่อมโยงถึงกันระหว่าง “มินนี่” กับลูกน้องของพลพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ในครั้งนี้ทำให้ “บิ๊กโจ๊ก” เกิดอารมณ์ขึ้นมา ที่สำคัญตนขอตั้งข้อสังเกตว่าว่าคดีของมินนี่นั้น ได้รับการประกันตัว ทั้งๆที่ดำเนินธุรกิจเว็บพนันเช่นเดียวกับเครือข่ายอื่น ๆแต่มินนี่ได้รับการประกันตัวทั้ง ๆ ที่ตำรวจได้คัดค้านการประกันตัวแล้ว จึงทำให้คนในสังคมมองว่า”มินนี่”มีเครือข่ายผู้มีอำนาจคอยหนุนหลังหรือไม่ อย่างไรก็ตามตนเคยเตือนพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ มาก่อนหน้านี้แล้วว่าให้ใจเย็น ๆ อย่าล้ำเส้น
นายสนธิ กล่าวต่อว่า ส่วนตัวมองว่า ตำรวจชั้นผู้ใหญ่ไม่มีใครไม่รับเงิน โดยมีอยู่สองวิธีคือ 1.เปิดบาตรรับ คือมีคนนำเงินมาให้ และ 2.ตั้งทีมล่า ส่วนเรื่อง มินนี่ ที่ข่าวบอกว่าเป็นขาใหญ่ส่งส่วยให้ตำรวจจำนวนหลายล้านบาท ซึ่งมินนี่บังเอิญไปสนิทกับลูกน้อง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ก็อาจไม่รู้เรื่อง แต่ประชาชนจะเชื่อหรือไม่ ตรงนี้ต่างหากเป็นสิ่งสำคัญ เพราะตอนนี้ประชาชนมองว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เป็นเจ้านายของตำรวจคนที่สนิทกับ มินนี่ ซึ่งทำให้คิดและอนุมานไปว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เกี่ยวข้องในเรื่องนี้หรือไม่