29 กันยายน 2566 เมื่อเวลา 15.00 น.ที่ผ่านมา พลเรือเอก เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ท่านเก่า ได้ส่งมอบหน้าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ ให้แก่ พลเรือเอก อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ ท่านใหม่ ณ ท้องพระโรง พระราชวังเดิม เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร
ข่าวที่น่าสนใจ
โดยมีนายทหารชั้นผู้ใหญ่จากหน่วยต่าง ๆ ของกองทัพเรือเข้าร่วมพิธี ในการนี้กองทหารเกียรติยศได้ทำการยิงสลุต จำนวน 19 นัด บริเวณป้อมวิชัยประสิทธิ์ภายในพระราชวังเดิม เพื่อเทิดเกียรติ ให้แก่ พลเรือเอก เชิงชาย ฯ ก่อนที่จะอำลาชีวิตการรับราชการ ทั้งนี้ พลเรือเอก เชิงชาย ฯ เป็นผู้บัญชาการทหารเรือ ลำดับที่ 56 ในขณะที่ พลเรือเอก อะดุง ฯ เป็นผู้บัญชาการทหารเรือ ลำดับที่ 57 แห่งราชนาวีไทย
โอกาสนี้ พลเรือเอก อะดุง ฯ ได้กล่าวเทิดเกียรติ พลเรือเอก เชิงชาย ฯ ว่า “นับตั้งแต่ท่านได้สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายเรือและบรรจุเข้ารับราชการ นายทหารเรือ รุ่นพี่ เพื่อน รุ่นน้อง ตลอดจนผู้ใต้บังคับบัญชาที่ได้เคยปฏิบัติงานร่วมกับท่าน ต่างยอมรับในความรู้ความสามารถ ความซื่อสัตย์สุจริต ความขยันหมั่นเพียร รวมทั้งความเป็นผู้นำในการปกครองบังคับบัญชา จนได้ก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้นำสูงสุดของกองทัพเรือ
ตลอดระยะเวลา 1 ปี ที่ผ่านมา ท่านได้วางรากฐานสำคัญในการพัฒนากองทัพเรือโดยมุ่งเน้นในการพัฒนาในด้านต่าง ๆ เพื่อให้นำไปปฏิบัติให้เกิดผลเป็นรูปธรรม เสริมสร้างความมั่นคงเข้มแข็งให้กับกองทัพเรือ เป็นผลให้กองทัพเรือมีความเจริญก้าวหน้าเป็นที่ยอมรับและศรัทธาของประชาชนโดยทั่วไป
ในวาระที่ ผู้บัญชาการทหารเรือครบเกษียณอายุราชการ กระผมและกำลังพลกองทัพเรือทุกนาย ต่างรู้สึกระลึกถึงเป็นอย่างยิ่ง เพราะตลอดชีวิตการรับราชการอันยาวนานของท่านนั้น ท่านได้สร้างความดีและทำคุณประโยชน์ให้กับกองทัพเรือและประเทศชาตินานับประการ และขอจดจำคุณงามความดีที่ท่านได้กระทำไว้อย่างมิรู้ลืม รวมทั้งจะยึดถือเป็นแบบอย่างที่ดีในการปฏิบัติราชการสืบต่อไป”
จากนั้นพลเรือเอก เชิงชาย ฯ ได้กล่าวในการมอบการบังคับบัญชาให้ผู้บัญชาการทหารเรือ ท่านใหม่ ว่า“ณ ที่แห่งนี้ เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2565 ผมได้กล่าวรับมอบหน้าที่และการบังคับบัญชาผู้บัญชาการทหารเรือ นับจากวันนั้นผมระลึกอยู่เสมอว่าจะปกครองบังคับบัญชาด้วยความเที่ยงธรรม ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ยึดมั่นในผลประโยชน์ของกองทัพเรือและธำรงไว้ซึ่งเอกราชอธิปไตยของชาติเป็นสำคัญ เพื่อให้กองทัพเรือดำรงอยู่อย่างมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี ดังเช่นที่เป็นมา วันนี้นับเป็นอีกวาระหนึ่งที่ผมได้กลับมายืนอยู่ ณ ที่แห่งนี้ แต่เป็นวันที่แตกต่าง ด้วยวันนี้ เป็นวันที่ผมจะต้องพ้นจากหน้าที่ไปตามวาระ ตลอดระยะเวลา 1 ปี ที่ผมดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารเรือ หน่วยต่าง ๆ ของกองทัพเรือได้ร่วมแรงร่วมใจกันปฏิบัติภารกิจอันสำคัญ ทั้งในด้านการป้องกันประเทศ การคุ้มครองรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบภัยพิบัติ การรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตลอดจนการถวายพระเกียรติ
และความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ทหารเรือทุกนายยังคงร่วมกันปฏิบัติหน้าที่ราชการ
อย่างเต็มกำลังความสามารถ ผมขอขอบคุณเพื่อนข้าราชการ ทหาร พนักงานราชการ และลูกจ้างทุกคน ทุกหน่วย ที่ได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดียิ่ง ในการปฏิบัติหน้าที่ตามแนวทางที่ผมได้ตั้งปณิธานไว้ การปฏิบัติเหล่านี้ล้วนเป็นผลให้กองทัพเรือดำรงอยู่ได้อย่างมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี ได้รับการยกย่องดังเช่นที่บรรพบุรุษทหารเรือได้สร้างไว้ในอดีต และเป็นกองทัพที่มีคุณค่ายิ่งสำหรับประเทศชาติและประชาชนอย่างแท้จริง แม้ว่าวันนี้ ผมจะต้องจากกองทัพเรือไปตามวาระ แต่ความภาคภูมิใจในการปฏิบัติหน้าที่ ความประทับใจ และความทรงจำที่ดีตลอดเวลายาวนานกว่า 40 ปี ในกองทัพเรือจะยังคงอยู่ในใจผมตลอดไป สำหรับผู้บัญชาการทหารเรือท่านใหม่
พลเรือเอก อะดุง พันธุ์เอี่ยม เป็นนายทหารเรือที่มีความรู้ ความสามารถ มีความซื่อสัตย์สุจริต ปฏิบัติหน้าที่เพื่อกองทัพเรือด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจมาโดยตลอด ผมจึงมีความเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า ท่านจะสามารถนำกองทัพเรือก้าวไปข้างหน้า ได้อย่างสง่างามเต็มภาคภูมิสืบต่อไป”
ภายหลังจากเสร็จพิธีรับมอบหน้าที่ พลเรือเอก อะดุง ฯ ตลอดจนนายทหารชั้นผู้ใหญ่ รวมถึงข้าราชการกองทัพเรือทุกนาย และรวมถึงสื่อมวลชนได้ร่วมกันตั้งแถวส่ง พร้อมทั้งมอบดอกไม้ แก่ พลเรือเอก เชิงชาย ฯ ก่อนที่จะเดินทางออกจาก กองบัญชาการกองทัพเรือ พระราชวังเดิม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
