“อดิศร” จ่อชงญัตติด่วนสภา ปม “หมออ๋อง” ถูกขับพ้นก้าวไกล ไม่สง่างามนั่งรองปธ.

วันที่ 2ต.ค.66 ที่อาคารรัฐสภาฯ นาย นายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าร่วมประชุมวิปรัฐบาลว่า วาระของวิปรัฐบาลที่จะเสนอต่อพรรคร่วมรัฐบาลวันนี้คือ 1.ญัตติเกี่ยวกับกรณีน้ำท่วมทั่วไปที่เป็นปัญหาอย่างร้ายแรง ทางคณะรัฐมนตรี และ สส.ก็เข้าไปดูแล และต้องการนำเรื่องนี้มาพูดในสภาฯ

ส่วนญัตติประการที่ 2 คือ ญัตติกรณีนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ควรนำเรื่องนี้มาพิจารณาเป็นญัตติด่วน ถึงความเหมาะสมการดำรงตำแหน่งรองประธาน เหมาะสมหรือไม่ ที่จะทำหน้าที่นี้ต่อไป เพราะไปค้นตามข้อบังคับพรรคก้าวไกลข้อ 64 วงเล็บ 5 ของพรรคก้าวไกลที่จะขับใครออกจากสมาชิก คือ พรรคการเมืองมีมติให้ออกจากเพราะกระทำผิดวินัย หรือจรรยาบรรณอย่างร้ายแรง หรือ มีเหตุร้ายแรงอย่างอื่น

นายอดิศร กล่าวว่า ดังนั้นพอรู้ได้ว่า การขับ นายปดิพัทธ์ รองประธานสภาคนที่ 1 ออกจากสมาชิกพรรค ไม่เป็นไปตามข้อบังคับ จึงต้องมาคุยกันในสภาผู้แทนราษฎร เป็นญัตติด่วน ไม่ได้มีเจตนาร้ายเป็นการส่วนตัว เพราะตนเลือก นายปดิพัทธ์ ด้วยมือตนในนามของพรรคก้าวไกล ถ้าพ้นจากก้าวไกลแล้ว ตนก็ไม่มีความผู้พันอันใด เพราะตนไม่รู้จักท่านเป็นการส่วนตัวมาก่อน

ข่าวที่น่าสนใจ

ผู้สื่อข่าวถาม ความคาดหวังเกี่ยวกับญัตติของนายปดิพัทธ์ จะมีการโหวตใหม่หรือไม่ นายอดิศร ระบุว่า ต้องดูการอภิปรายในสภา เพราะลักษณะแบบนี้ไม่ค่อยเกิดขึ้นในสภาผู้แทนราษฎร ในการถกเถียงเรื่องคุณสมบัติของประธานฯ ซึ่งตนและนายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยพบว่าไม่อยู่ในข้อบังคับพรรคที่ถูกขับออก จึงเป็นประเด็นว่าควรดำรงตำแหน่งรองประธานที่เหมาะสมหรือสง่างามต่อไปหรือไม่

“อย่าอ้างว่าเพราะรัฐธรรมนูญมีความผิด นายปดิพัทธ์จึงต้องทำเช่นนี้ ใช้วาทกรรมที่ไม่ถูกต้อง เมื่อกระดุมเม็ดแรกไม่ถูกต้อง เม็ดที่ 2 และ 3 ก็จะผิดตามมา จะได้พูดจากันในสภา” นายอดิศร กล่าว

เมื่อถามว่า กรณีดังกล่าวจะถือว่าใช้เวทีสภาฯแทรกแซงกิจการของพรรคก้าวไกลหรือไม่ นายอดิศร กล่าวว่าไม่ใช่เรื่องภายในของพรรคก้าวไกล เป็นเรื่องตำแหน่งรองประธานสภา ซึ่งสส.500 คนต้องทำความเคารพ ปฏิบัติตามท่านในการขึ้นทำหน้าที่ ไม่ใช่แทรกแซงพรรคก้าวไกล การขับไล่พ้นจากสมาชิกภาพแล้วให้พวกตนมาเคารพในฐานะรองประธานสภาก็ไม่เหมาะสมอยู่แล้ว

เมื่อถามว่าการเสนอญัตติในสภาหวังผลอะไรหรือไม่ นายอดิศร กล่าวว่า หวังผลให้มีความสำนึก ความเหมาะสมที่จะเกิดขึ้นตอนการอภิปราย ว่าควรเป็นรองประธานต่อไปหรือไม่ เพราะไม่ได้มีเจตนาขับกันออกจริงๆ การขับออกจากสมาชิกเป็นการประหารชีวิตทางการเมืองอย่างร้ายแรงที่สุดของพรรคการเมือง เมื่อถามว่าในอดีตพรรคก้าวไกลเคยมีมติขับสส.งูเห่าเหมือนกรณีนายปดิพัทธ์ที่ไม่ทำตามมติพรรค นายอดิศร กล่าวว่า มติการละครกับมติจริงมันลำบาก ไม่ใช่เรื่องจริงเหมือนตอนที่ขับ ส.ส.ที่เป็นงูเห่า กรณีนายปดิพัทธ์เป็นมติ หมอลำ ลิเกและการละคร ไม่ใช่เรื่องจริงเหมือนตอนที่ขับ ส.ส.ที่เป็นงูเห่า

เมื่อถามว่าจะพิสูจน์ได้อย่างไร นายอดิศร กล่าวว่า พิสูจน์โดยการอภิปรายและพยานหลักฐานที่จะเกิดในสภา ซึ่งนายปดิพัทธ์ควรมาชี้แจงด้วยตัวเอง พรรคก้าวไกลก็ไม่ต้องมาช่วยเพราะขับออกแล้วไม่มีหน้าที่มาช่วยเพราะไม่ต้องการนายปดิพัทธ์แล้ว ส่วนที่อ้างไม่เห็นด้วยกับรัฐธรรมนูญนั้น สส.ทุกคนที่เข้ามาก็ภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ ที่ต้องการแยกชัดเจนระหว่างฝ่ายบริหารและฝ่ายค้านออกจากกันเด็ดขาด เป็นหลักการทั่วโลก เจตนาต้องสุจริต

ก้าวไกล, อดิศร, หมออ๋อง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง