กสม.เสียใจเหตุยิงกลางห้าง ย้ำหยุดแชร์ข้อมูลผู้ก่อเหตุ ขัดกม.สิทธิเด็ก

กสม.เสียใจเหตุยิงกลางห้าง ย้ำหยุดแชร์ข้อมูลผู้ก่อเหตุ ขัดกม.สิทธิเด็ก

คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ได้ออกแถลงการณ์ระบุว่า ตามที่ปรากฏเหตุกราดยิงในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ย่านปทุมวัน เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 3 ตุลาคม 2566 ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายรายนั้น คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งต่อครอบครัวและญาติมิตรของผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บ เหตุการณ์นี้ถือเป็นเหตุสะเทือนขวัญที่เกิดขึ้นใจกลางเมืองซึ่งมีความเสี่ยงสูงที่ผู้คนจำนวนมากจะได้รับผลกระทบ อันเป็นการกระทำผิดต่อกฎหมาย และละเมิดต่อสิทธิในชีวิตและร่างกายอย่างไม่ควรเกิดขึ้น

 

ข่าวที่น่าสนใจ

อย่างไรก็ดี จากการติดตามสถานการณ์ปรากฏว่า ภายหลังเหตุการณ์มีการเผยแพร่และส่งต่อภาพที่เป็นการเปิดเผยอัตลักษณ์ ตลอดจนข้อมูลส่วนบุคคลของเด็กผู้ก่อเหตุวัย 14 ปีและครอบครัวอย่างแพร่หลายในสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งอาจนำไปสู่การตีตราและสร้างความเกลียดชังในสังคม โดยมิได้คำนึงถึงสิทธิในความเป็นส่วนตัวและสิทธิในชื่อเสียงเกียรติยศของบุคคลตามที่ได้รับการรับรองไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 32 ประกอบพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ทั้งยังขัดต่อหลักอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก (CRC) และพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 ที่ระบุว่า เด็กมีสิทธิที่จะได้รับความเคารพในความเป็นส่วนตัว ในทุกขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรม และแม้แต่ในกระบวนการชั้นพิจารณาก็สมควรจะต้องหลีกเลี่ยงการแสดงตัวเด็กต่อสาธารณชน โดยเฉพาะข้อมูลเกี่ยวกับรูปพรรณสัณฐาน ชื่อ และห้ามมิให้ผู้ใดโฆษณาหรือเผยแพร่ทางสื่อมวลชนหรือสื่อสารสนเทศประเภทใด ซึ่งข้อมูลเกี่ยวกับตัวเด็กหรือผู้ปกครอง โดยเจตนาที่จะทำให้เกิดความเสียหายแก่จิตใจ ชื่อเสียง เกียรติคุณ หรือสิทธิประโยชน์อื่นใดของเด็กด้วย

 

ด้วยเหตุผลข้างต้น กสม.จึงขอเรียกร้องให้สังคมโดยเฉพาะผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ ตลอดจนสื่อมวลชนหยุดเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นการเปิดเผยอัตลักษณ์และข้อมูลส่วนบุคคลของเด็กผู้ก่อเหตุและครอบครัว ตลอดจนใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างยิ่งในการนำเสนอข่าวสารที่สืบเนื่องจากกรณีดังกล่าว และหลีกเลี่ยงการนำเสนอรายละเอียดของเหตุรุนแรงหรือข้อมูลอันเป็นการซ้ำเติมความสูญเสียของผู้เสียหาย

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ก.แรงงาน" เตรียมเปิดขึ้นทะเบียน "แรงงานต่างด้าว" รอบใหม่
เจาะ "MOU44" พื้นที่ทับซ้อนทางทะเลไทย-กัมพูชา "เกาะกูด" เป็นของใคร
"สมชัย" เผยเคยทำงานร่วม "กิตติรัตน์" ยอมรับเป็นคนเก่ง แต่เพราะเคยตามใจฝ่ายการเมืองทำประเทศชาติเสียหาย
ระทึก "รถทัวร์กรุงเทพฯ-เชียงแสน" ชน "รถพ่วง" พลิกคว่ำตกข้างทาง ผู้โดยสารบาดเจ็บอื้อ
"ศิริกัญญา" ปูดข่าว รบ.วางแผนยึดการบินไทย ส่ง 2 ผู้บริหารฟื้นฟู
โมเดลใหม่...ประมงสมุทรสงครามเปิดตัวกิจกรรม “สิบหยิบหนึ่ง” ปราบปลาหมอคางดำ จับมือเกษตรกรร่วมแก้ปัญหาในบ่อเลี้ยงเกษตรกรและแหล่งน้ำธรรมชาติ
"กองปราบฯ" รับโอนคดี "ซินแสชื่อดัง" หลอกผู้เสียหายสูญเงิน 66 ล้าน
กรมทรัพยากรน้ำบาดาล เขต 6 (ตรัง) ศึกษาดูงานด้านการพัฒนาแหล่งน้ำบาดาล
"นครราชสีมา" เสี่ยงภัยแล้ง 10 อำเภอ ชลประทานประกาศงดทำนาปรังทั้งจังหวัด
"อัจฉริยะ" แจงผลสอบ "อาหารเสริม Eighteen 18" พบมีเลข อย.ถูกต้อง

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น