เมื่อวันที่ 4 ต.ค.2566 ที่กระทรวงกลาโหม นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม กล่าวถึงการต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่ใกล้จะครบกำหนด 1 เดือน ว่า จริงๆแล้วโดยหลักเป็นเรื่องของรัฐบาล ไม่ใช่เฉพาะกระทรวงกลาโหมเพราะฉะนั้นเราเป็นเพียงส่วนหนึ่ง ถ้าหากรัฐบาล หรือ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เห็นชอบว่าอย่างไร กระทรวงกลาโหมก็ไม่ขัด ทราบเพียงว่าทางรัฐบาลและ กอ.รมน. เอง ก็ไม่อยากที่จะต่อยาว เพราะเคารพเสียงประชาชน เนื่องจากประชาชนคิดว่าจะไปละเมิดสิทธิเสรีภาพ ดังนั้น รัฐบาลและ ครม. ก็ทำที่จำเป็น และกระทรวงกลาโหมก็เห็นสอดคล้องกัน แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะมีการต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน อีกหรือไม่ ต้องดูสถานการณ์จากในพื้นที่เป็นหลัก แต่หากสถานการณ์ยังเหมือนเดิมอยู่ก็จำเป็นต้องต่ออายุ หากสถานการณ์ดีขึ้นก็ไม่ต้องต่อ หลักคิดบนพื้นฐานเพียงเท่านี้
เมื่อถามว่า หากไม่มีการต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แล้วจะหาเครื่องมือพิเศษใดให้เจ้าหน้าที่ได้ทำงาน นายสุทินกล่าวว่าถ้าตามแนวชายแดนจะมีเรื่องของกฎอัยการ แล้วประชาชนรับได้หรือไม่ ถ้าไม่ซีเรียสในเรื่องนี้ก็อาจเป็นเครื่องมือหนึ่ง ตอนไม่ได้เสนอแนะรัฐบาลแต่เป็นการมองเห็นเครื่องมือที่ให้กับทางเจ้าหน้าที่