ตร.ค้นแหล่งผลิต ซื้อ-ขายอุปกรณ์ดัดแปลงปืนแบลงค์กัน เชื่อมโยงคดี “เด็ก 14” ก่อเหตุยิงกลาง “พารากอน”

พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล, พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล และตำรวจพื้นที่ สน.ราษฎร์บูรณะ ร่วมกันนำหมายค้นศาลอาญาธนบุรี ลงวันที่ 4 ตุลาคม 2566 เข้าตรวจค้นทาวน์เฮ้าส์เลขที่ 17 ท้ายซอยประชาอุทิศ 65 แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร เพื่อสืบหาความเชื่อมโยงกับคดีเยาวชน อายุ 14 ปี ก่อเหตุกราดยิงสยามพารากอน หลังพบเป็นสถานที่ผลิตและดัดแปลงอาวุธปืนบีบีกันและแบล็งกัน

ข่าวที่น่าสนใจ

พล.ต.ท.สำราญ เปิดเผยว่า ตำรวจสืบสวนกองบังคับการตำรวจนครบาล 8 ได้ขยายผลการจับกุมผู้ขายอาวุธปืนผ่านช่องทางออนไลน์มานานกว่า 2 เดือน จนพบว่า สถานที่นี้เป็นที่ผลิตปืนแบล็งกัน และลำกล้อง รวมถึงแม็กกาซีนบรรจุกระสุน โดยผลการตรวจค้นพบชุดกันเสียง อุปกรณ์การไลฟ์สด และกล่องทดสอบการยิงปืน ซึ่งกองพิสูจน์หลักฐาน จะนำไปเปรียบเทียบกับกระสุนปืนที่นำไปใช้ในเหตุกราดยิงที่ห้างพารากอนว่า มีความเชื่อมโยงกันหรือไม่ โดยกองบังคับการตำรวจนครบาล 8 จะสืบสวนขยายผลต่อว่า ผู้ประกอบปืนรับอุปกรณ์ต่างๆ มาจากที่ใด และส่งขายที่ใดบ้าง

ขณะเดียวกัน พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ที่มาร่วมตรวจสอบด้วยนั้น ระบุว่า จากการขยายผลตรวจค้นพื้นที่ดังกล่าว ตำรวจได้เฝ้าติดตามผู้ต้องหาดังกล่าวมานานกว่า 2 เดือนแล้ว แต่ยังเข้าพื้นที่ไม่ได้ เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นกลุ่มนิระนาม จะเปิดเผยตัวตนเฉพาะในดาร์กเว็บเท่านั้น (กลุ่มขายอาวุธปืนเถื่อน) ซึ่งผู้ต้องหาได้มาเช่าบ้านหลังดังกล่าวภายใน ซอยประชาอุทิศ 65 ที่จะมีซอกซอยตันด้านใน และมีเส้นทางเข้าออกมีเพียงทางเดียว อีกทั้งยังมีการติดตั้งกล้องวงจรปิด รวมถึงผู้ต้องหาไม่เคยเปิดเผยตัวตน หรือออกจากบ้านเลย

หลังจากเกิดเหตุกราดยิงในห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน ทางตำรวจได้มีการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของเยาวชนอายุ 14 ทำให้พบความเชื่อมโยงกับกลุ่มเครือข่ายที่ติดต่อกับเยาวชนอายุ 14 ก่อสบโอกาสเข้าตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าว อีกทั้งมีรายงานว่า ตำรวจได้ขอหมายค้นและหมายจับมาตรวจคนไปแล้วเมื่อคืนนี้ ส่วนหมายจับที่ออกนั้นเป็น สามีภรรยาเจ้าของบ้าน ซึ่งตัวภรรยานั้น หลบหนีไปก่อนหน้านี้ จับกลุ่มได้เพียงตัวสามี คือ นายปิยะบุตร เพียรพิทักษ์ อายุ 31 ปี หรือ โอ๋ ยี่เรือ พบเคยมีประวัติถูกดำเนินคดีเกี่ยวข้องกับอาวุธปืนเถื่อนเมื่อปี 2558 และออกจากเรือนจำมาเมื่อปี 2562 และหวนกลับมาทำอาชีพเดิมได้ 2 ปี โดยจะเปลี่ยนแปลงที่อยู่ปีละครั้ง

จากการสอบปากคำเบื้องต้น โอ๋ ยี่เรือ ให้การว่า เป็นตัวกลางระหว่างผู้ซื้อ(เยาวชน14) กับ ผู้ขาย (ผู้ต้องหา จ.ยะลา) เพราะมีเครดิตดีอยู่ในกลุ่มดาร์กเว็ป เพราะเคยสั่งของมาใช้เองแล้วได้ของจริง ได้ค่าตอบแทนเป็นการเลี้ยงอาหาร หรือเงินไม่เกิน 500 บาท เป็นค่าตอบแทน ส่วนการจรวจค้น พบของกลางจำนวนมาก ทั้งอุปกรณ์ดัดแปลงปืนเถื่อน อุปกรณ์ทดสอบการยิง ที่มีการเก็บเสียงเป็นอย่างดี ทำให้เพื่อนบ้านใกล้เคียงไม่มีใครรู้หรือได้ยินเสียง และตำรวจ ยังพบหลักฐานสำคัญอย่างน้อย 2 ชิ้นที่เชื่อมโยงกับอาวุธปืนที่เยาวชนอายุ 14 ใช้ก่อเหตุ แต่ยังไม่สามารถยืนยันได้ชัดเจนต้องรอการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์อีกครั้ง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น